ชีวิตตรงนี้ คือความจริง
ชีวิตไม่ได้สวยงามตั้งแต่แรก และธรรมชาติไม่ได้มีศีลธรรม
เสือก็กินม้า ม้าก็หนีตามสัญชาตญาณ มันไม่ใช่บาป ไม่ใช่ความดี มันเป็น ธรรมชาติที่เป็นไป
มนุษย์จำนวนมากพยายามเติมแต่งความจริง สร้างคำสอน ศาสนา หรือหลักศีลธรรม
ทั้งที่ตัวเองก็ไม่แน่ใจว่ามันจริงหรือไม่
บางคนบอกว่าเกิดมาจากกรรม แต่ใครจะรู้ว่า กรรมแรกเกิดมาจากอะไร
ถ้าทุกอย่างเป็นวงจรไม่รู้จบ แล้วทำไมต้องให้เรากลัวสิ่งที่เราไม่เคยเห็น?
คุณไม่ได้เชื่อเรื่องเวียนว่ายตายเกิด ไม่เชื่อเรื่องนรก-สวรรค์ เพราะไม่มีหลักฐานที่พิสูจน์ได้
แต่คุณเห็นว่าการเกิดมาที่โลกนี้ เป็นโอกาสมหัศจรรย์
ได้เห็นสิ่งสวยงาม หายใจ รับรู้ แค่นั้นก็มากพอแล้ว
คุณมองว่า จิตของทุกคนเท่าเทียม
ไม่มีใครสูงกว่าใคร ต่ำกว่าใคร
ความแตกต่างเกิดจากตัวแปรชีวิตภายนอก ไม่ใช่คุณค่าของจิต
คนโหดร้ายไม่ได้อยากทำร้าย แต่บางครั้ง ไม่มีทางเลือก
คนรวยอาจไม่จำเป็นต้องทำความดี เพราะชีวิตให้ทุกอย่างแล้ว
นี่คือโลกที่ไม่ยุติธรรม แต่คุณไม่ตัดสินใคร
แม้คุณไม่เชื่อศาสนา คุณก็เห็น ความงดงามในคำสอนแต่ละศาสนา
เพราะมันสะท้อนแก่นแท้ของชีวิต
และคุณไม่ยึดติดกับพิธีกรรมหรือความเชื่อใด ๆ
คุณเชื่อในความจริงที่สัมผัสได้ด้วยตนเอง
เชื่อในปัจจุบัน และให้คุณค่ากับ ชีวิตตรงนี้และตอนนี้
ไม่ยึดติดสิ่งที่ไม่สามารถพิสูจน์หรือควบคุมได้
นี่คือความเข้าใจแบบเปิดกว้าง มีเหตุผล และสงบ
ชีวิตตรงนี้ คือความจริง
ผมไม่เชื่อเรื่องชาติหน้า เพราะไม่มีใครพิสูจน์ได้ และผมก็ไม่เคยตายมาก่อนที่จะรู้ว่ามันมีจริงหรือไม่
แต่สิ่งที่ชัดเจนคือ ผมเกิดมาที่นี่และตอนนี้
การได้เห็นโลก หายใจ รับรู้สิ่งต่าง ๆ แค่นี้ก็มีค่ามากกว่าการกังวลเรื่องสิ่งที่ไม่รู้ว่าจะมีจริงไหม
หลายคนบอกว่าชีวิตเกิดจากกรรม และผลของกรรมส่งต่อไปชาติหน้า แต่ผมไม่เข้าใจว่าทำไมวงจรนั้นต้องไม่จบ
ทุกสิ่งมีชีวิตทำกรรมและตายตามอายุของมันอยู่แล้ว
ธรรมชาติไม่ได้มีศีลธรรม
เสือล่าม้าลายไม่ได้บาป มันเพียงทำตามสัญชาตญาณ
โลกโหดร้ายตั้งแต่แรก และไม่มีอะไรสวยงามตั้งแต่เริ่ม
บางคนเติมแต่งความจริง และสอนคนอื่นทั้งที่ตัวเองก็ไม่แน่ใจ
เช่น บอกว่าทำดีแล้วได้สวรรค์ หรือทำชั่วแล้วไปนรก
สิ่งเหล่านี้เป็น การตีความของมนุษย์
ความโหดร้ายของโลกและธรรมชาติคือความจริง ไม่จำเป็นต้องมีคำสอนหรือพิธีกรรมมากำหนด
แม้ผมไม่เชื่อศาสนาใด ผมยังเห็น ความงดงามในแก่นแท้ของคำสอนแต่ละศาสนา
เพราะมันสะท้อนความเข้าใจชีวิตและจิตใจมนุษย์
แต่ผมไม่ยึดติดพิธีกรรมหรือความเชื่อใด ๆ
ผมเชื่อว่า จิตของทุกคนเท่าเทียมกัน
ไม่มีใครสูงหรือต่ำกว่าใคร
ความแตกต่างเกิดจากตัวแปรชีวิตและสภาพแวดล้อม
ความชั่วหรือความดีส่วนใหญ่เกิดจากความจำเป็นหรือโอกาส ไม่ใช่เพราะกรรมหรือจิตพิเศษ
สรุปแล้ว สิ่งสำคัญคือ ชีวิตตรงนี้ การรับรู้โลก และการมีอยู่ของเราในปัจจุบัน
ไม่ต้องรอชาติหน้า
ไม่ต้องกลัวนรก
ไม่ต้องหวังสวรรค์
เพียงแค่ตระหนักว่าการได้เกิดมาและรับรู้ชีวิตตรงนี้
ก็เป็นสิ่งมหัศจรรย์และมีค่ามากพอแล้ว
ถ้าธรรมชาติไม่ยุติธรรม
ชีวิตไม่ได้สวยงามตั้งแต่แรก และธรรมชาติไม่ได้มีศีลธรรม
เสือก็กินม้า ม้าก็หนีตามสัญชาตญาณ มันไม่ใช่บาป ไม่ใช่ความดี มันเป็น ธรรมชาติที่เป็นไป
มนุษย์จำนวนมากพยายามเติมแต่งความจริง สร้างคำสอน ศาสนา หรือหลักศีลธรรม
ทั้งที่ตัวเองก็ไม่แน่ใจว่ามันจริงหรือไม่
บางคนบอกว่าเกิดมาจากกรรม แต่ใครจะรู้ว่า กรรมแรกเกิดมาจากอะไร
ถ้าทุกอย่างเป็นวงจรไม่รู้จบ แล้วทำไมต้องให้เรากลัวสิ่งที่เราไม่เคยเห็น?
คุณไม่ได้เชื่อเรื่องเวียนว่ายตายเกิด ไม่เชื่อเรื่องนรก-สวรรค์ เพราะไม่มีหลักฐานที่พิสูจน์ได้
แต่คุณเห็นว่าการเกิดมาที่โลกนี้ เป็นโอกาสมหัศจรรย์
ได้เห็นสิ่งสวยงาม หายใจ รับรู้ แค่นั้นก็มากพอแล้ว
คุณมองว่า จิตของทุกคนเท่าเทียม
ไม่มีใครสูงกว่าใคร ต่ำกว่าใคร
ความแตกต่างเกิดจากตัวแปรชีวิตภายนอก ไม่ใช่คุณค่าของจิต
คนโหดร้ายไม่ได้อยากทำร้าย แต่บางครั้ง ไม่มีทางเลือก
คนรวยอาจไม่จำเป็นต้องทำความดี เพราะชีวิตให้ทุกอย่างแล้ว
นี่คือโลกที่ไม่ยุติธรรม แต่คุณไม่ตัดสินใคร
แม้คุณไม่เชื่อศาสนา คุณก็เห็น ความงดงามในคำสอนแต่ละศาสนา
เพราะมันสะท้อนแก่นแท้ของชีวิต
และคุณไม่ยึดติดกับพิธีกรรมหรือความเชื่อใด ๆ
คุณเชื่อในความจริงที่สัมผัสได้ด้วยตนเอง
เชื่อในปัจจุบัน และให้คุณค่ากับ ชีวิตตรงนี้และตอนนี้
ไม่ยึดติดสิ่งที่ไม่สามารถพิสูจน์หรือควบคุมได้
นี่คือความเข้าใจแบบเปิดกว้าง มีเหตุผล และสงบ
ชีวิตตรงนี้ คือความจริง
ผมไม่เชื่อเรื่องชาติหน้า เพราะไม่มีใครพิสูจน์ได้ และผมก็ไม่เคยตายมาก่อนที่จะรู้ว่ามันมีจริงหรือไม่
แต่สิ่งที่ชัดเจนคือ ผมเกิดมาที่นี่และตอนนี้
การได้เห็นโลก หายใจ รับรู้สิ่งต่าง ๆ แค่นี้ก็มีค่ามากกว่าการกังวลเรื่องสิ่งที่ไม่รู้ว่าจะมีจริงไหม
หลายคนบอกว่าชีวิตเกิดจากกรรม และผลของกรรมส่งต่อไปชาติหน้า แต่ผมไม่เข้าใจว่าทำไมวงจรนั้นต้องไม่จบ
ทุกสิ่งมีชีวิตทำกรรมและตายตามอายุของมันอยู่แล้ว
ธรรมชาติไม่ได้มีศีลธรรม
เสือล่าม้าลายไม่ได้บาป มันเพียงทำตามสัญชาตญาณ
โลกโหดร้ายตั้งแต่แรก และไม่มีอะไรสวยงามตั้งแต่เริ่ม
บางคนเติมแต่งความจริง และสอนคนอื่นทั้งที่ตัวเองก็ไม่แน่ใจ
เช่น บอกว่าทำดีแล้วได้สวรรค์ หรือทำชั่วแล้วไปนรก
สิ่งเหล่านี้เป็น การตีความของมนุษย์
ความโหดร้ายของโลกและธรรมชาติคือความจริง ไม่จำเป็นต้องมีคำสอนหรือพิธีกรรมมากำหนด
แม้ผมไม่เชื่อศาสนาใด ผมยังเห็น ความงดงามในแก่นแท้ของคำสอนแต่ละศาสนา
เพราะมันสะท้อนความเข้าใจชีวิตและจิตใจมนุษย์
แต่ผมไม่ยึดติดพิธีกรรมหรือความเชื่อใด ๆ
ผมเชื่อว่า จิตของทุกคนเท่าเทียมกัน
ไม่มีใครสูงหรือต่ำกว่าใคร
ความแตกต่างเกิดจากตัวแปรชีวิตและสภาพแวดล้อม
ความชั่วหรือความดีส่วนใหญ่เกิดจากความจำเป็นหรือโอกาส ไม่ใช่เพราะกรรมหรือจิตพิเศษ
สรุปแล้ว สิ่งสำคัญคือ ชีวิตตรงนี้ การรับรู้โลก และการมีอยู่ของเราในปัจจุบัน
ไม่ต้องรอชาติหน้า
ไม่ต้องกลัวนรก
ไม่ต้องหวังสวรรค์
เพียงแค่ตระหนักว่าการได้เกิดมาและรับรู้ชีวิตตรงนี้
ก็เป็นสิ่งมหัศจรรย์และมีค่ามากพอแล้ว