เสียงจากเรือนวารี — ความทรงจำที่ไม่จมหายไปกับสายน้ำ



🌙 ตอนที่ 1 — เสียงนั้น…ใต้เงาไม้

ผมไม่แน่ใจนักว่าทำไมถึงเลือกมาที่นี่
บางทีอาจเพราะอยากหนีจากสิ่งที่ค้างคาอยู่ในใจ —
ชีวิตในเมืองที่เต็มไปด้วยเสียงโทรศัพท์และงานที่ไม่เคยสิ้นสุด
หรือบางที…อาจเพราะผมแค่ต้องการ “เงียบ”
เงียบจนได้ยินเสียงของตัวเองอีกครั้ง

หลังจากลาออกจากงานเมื่อเดือนก่อน ผมใช้เวลาส่วนใหญ่เก็บตัวอยู่ในห้อง
อ่านหนังสือที่ค้างไว้ และนอนหลับไม่เป็นเวลา
แต่ความเงียบของห้องในเมืองไม่เคยทำให้ผมสงบเลย
มันกลับเต็มไปด้วยเสียงสะท้อนของสิ่งที่ผมอยากลืม

วันหนึ่ง…ผมเห็นโฆษณาเล็ก ๆ ในเว็บไซต์ท่องเที่ยว
เป็นภาพบ้านไม้เก่าริมคลองหลังหนึ่ง มีเงาไม้ทอดลงบนผิวน้ำ
ข้อความใต้ภาพเขียนว่า

“บ้านวารี — ที่พักเล็ก ๆ ริมคลองสายเก่า
สำหรับคนที่อยากพักจากความวุ่นวายของโลก”

ไม่รู้ทำไม…แต่แค่เห็นภาพนั้น ผมรู้สึกอยากไปทันที



เมื่อมาถึงที่พัก รถแท็กซี่เลี้ยวเข้าเส้นทางแคบ ๆ ที่ขนานไปกับคลอง
สองข้างทางเต็มไปด้วยต้นไม้ใหญ่ เสียงจักจั่นประสานกับเสียงเรือหางยาวที่แล่นผ่านไปไกล ๆ
โฮมสเตย์หลังนั้นตั้งอยู่เงียบ ๆ ริมน้ำ
เป็นเรือนไม้ยกพื้นสูง หลังคามุงกระเบื้องแบบเก่า
มีศาลาไม้เล็ก ๆ ยื่นลงไปในคลอง เหมือนชวนให้ใครบางคนมานั่งมองน้ำ

เจ้าของบ้านเป็นหญิงวัยกลางคน เธอยิ้มอย่างอ่อนโยน
พูดเพียงว่า “ถ้าชอบความเงียบ ที่นี่เหมาะค่ะ”
แล้วก็พาผมไปยังห้องพักที่อยู่ปลายสุดของระเบียง

กลิ่นไม้เก่าผสมกับกลิ่นน้ำชื้นทำให้รู้สึกทั้งอบอุ่นและเหงาในเวลาเดียวกัน
ผมวางกระเป๋า เดินออกไปที่ระเบียง มองฝั่งตรงข้าม
ที่นั่นมีต้นไทรใหญ่แผ่กิ่งก้านลงมาปกคลุมชายฝั่ง
และใต้เงาไม้…ผมเห็นโครงร่างของบ้านไม้เก่าอีกหลังหนึ่ง
ทรุดโทรมแต่ยังยืนอยู่ตรงนั้น

ค่ำวันนั้น ผมนั่งอ่านหนังสืออยู่ที่ศาลาริมน้ำ
ฟังเสียงน้ำกระทบเสาเรือนอย่างเนิบช้า
ฟ้ามืดลงอย่างรวดเร็ว ความเย็นเริ่มคลืบเข้ามา
และในจังหวะที่ผมกำลังจะลุกเข้าห้อง
เสียงหนึ่งก็ดังขึ้นจากฝั่งตรงข้าม —

เสียงหญิงสาวร้องเพลง…แผ่วเบา ละมุน เหมือนเพลงกล่อมเด็ก
ทำนองโบราณที่ไม่คุ้นหู
แต่จับใจอย่างประหลาด

ผมชะงัก หยุดฟังอยู่ตรงนั้น
เสียงนั้นทอดยาวอยู่เหนือผิวน้ำ
จนสุดท้ายค่อย ๆ จางลงไปพร้อมเสียงลม

ตอนที่ผมหันกลับเข้าห้อง
ผมเห็นเงาแวบหนึ่งสะท้อนอยู่บนกระจกหน้าต่าง
เป็นเงาของผู้หญิง…
เหมือนเธอยืนอยู่ในความมืดใต้ต้นไม้ฝั่งตรงข้าม
มองมาทางนี้อย่างนิ่งสงบ

ผมรีบหันไปดูอีกที แต่ไม่มีใครอยู่ตรงนั้นแล้ว
มีเพียงแสงโคมไฟจากศาลาริมน้ำที่ส่องสะท้อนบนผิวน้ำ
และเสียงเรือหางยาวที่แล่นผ่านในระยะไกล

ผมบอกตัวเองว่าอาจแค่ตาฝาด
แต่คืนนั้น…ผมไม่อาจข่มตาหลับได้เลย

เพราะในความเงียบ ผมยังได้ยินเสียงนั้น —
เสียงหญิงสาวที่ร้องเพลงอยู่ริมคลอง…
เหมือนเรียกชื่อใครบางคนที่ผมไม่รู้จัก
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่