ท่านใดเคยมีประสบการณ์คล้ายแบบนี้บ้าง???
เริ่มจาก เดือน 11/2566 เรา (ภรรยาและผม) ซื้อทรัพย์ NPA จากธนาคารสีสิ่งแวดล้อมแห่งหนึ่ง ในราคา 3 ล้านบาท โดยได้รับสินเชื่อเคหะจากธนาคารผู้ขาย ซึ่งเราสามารถชำระค่างวดได้มากกว่าที่กำหนดขั้นต่ำ เพื่อมุ่งหวังปิดภาระหนี้ให้เร็วที่สุด
ต่อมา ในเดือน 06/2568 ยอดหนี้คงเหลือ ณ ขณะนั้นประมาณ 1.38 ล้านบาท เราเริ่มตระหนักถึงรายได้ที่ถูกกระทบจากพิษเศรษฐกิจ จึงได้ยื่นเรื่องขอลดอัตราดอกเบี้ย แต่ธนาคารเจ้าหนี้ปฏิเสธพิจารณา โดยให้เหตุผลว่า ยอดหนี้คงเหลือต่ำกว่าเกณฑ์พิจารณา กล่าวคือ ต้องมียอดหนี้คงเหลือไม่ต่ำกว่า 1.5 ล้านบาท ธนาคารเจ้าหนี้จึงจะรับพิจารณาปรับลดดอกเบี้ยให้ อย่างไรก็ดี เราขอให้ธนาคารเจ้าหนี้ทบทวนการพิจารณาอีกครั้ง เนื่องจากเกณฑ์ดังกล่าวอาจไม่ธรรมต่อลูกหนี้ กล่าวคือ หากใช้เกณฑ์ 1.5 ล้านบาท จากหนี้เงินต้นที่ 10 ล้านบาท เท่ากับเกณฑ์อยู่ที่ 15% ของหนี้เงินต้น แต่กรณีของเราที่หนี้เงินต้นอยู่ที่ 3 ล้านบาท นั่นเท่ากับเกณฑ์อยู่ที่ 50% ของหนี้เงินต้น ดังนั้น การใช้ตัวเลขคงที่ตายตัวเป็นเกณฑ์ตัดสินในการรับพิจารณาฯหรือไม่ จึงไม่เหมาะสมและไม่เป็นธรรมต่อลูกหนี้ อีกทั้งเกณฑ์ดังกล่าวไม่มีการแจ้ง/ประกาศ/สื่อสารให้ลูกหนี้รับทราบมาก่อน
ต่อมา ภายหลังจากที่เราได้นำเรื่องร้องต่อหน่วยงานที่กำกับดูแลฯ ในเดือน 08/2568 เราได้รับข้อเสนอช่วยเหลือจากธนาคารเจ้าหนี้ โดยเสนอ "ลดอัตราดอกเบี้ยให้ไม่เกิน 0.75% ต่อปี ในเดือนที่ 37" เราฟังแล้ว อึ้ง และ ทึ่ง เพราะเป็นข้อเสนอช่วยเหลือในอนาคตมากๆ แปลภาษาบ้านๆ ว่า ตอนนี้ยังไม่ช่วยนะ รออีก 15 เดือน แล้วจะลดดอกเบี้ยให้ แต่ลดเท่าไร ก้อไม่ชัดเจนอีก แต่ไม่เกิน 0.75%! ช่างเป็นข้อเสนอให้ความช่วยเหลือที่แยบยลมาก วางเงื่อนไขไว้ถึง 2 ชั้น ซึ่งลูกหนี้อย่างเราไปต่อไม่เป็นเลย
หลังจากนั้น เราได้รับอีเมล์จากหน่วยงานที่กำกับดูแลดังกล่าว แจ้งสรุปข้อเสนอความช่วยของธนาคารเจ้าหนี้เป็นลายลักษณ์อักษร พร้อมระบุสถานะคำร้องฯของเราว่า Resolved!
ขอลดดอกเบี้ยบ้าน แต่ไม่ได้รับพิจารณา เพราะยอดหนี้ต่ำกว่าเกณฑ์!!!
เริ่มจาก เดือน 11/2566 เรา (ภรรยาและผม) ซื้อทรัพย์ NPA จากธนาคารสีสิ่งแวดล้อมแห่งหนึ่ง ในราคา 3 ล้านบาท โดยได้รับสินเชื่อเคหะจากธนาคารผู้ขาย ซึ่งเราสามารถชำระค่างวดได้มากกว่าที่กำหนดขั้นต่ำ เพื่อมุ่งหวังปิดภาระหนี้ให้เร็วที่สุด
ต่อมา ในเดือน 06/2568 ยอดหนี้คงเหลือ ณ ขณะนั้นประมาณ 1.38 ล้านบาท เราเริ่มตระหนักถึงรายได้ที่ถูกกระทบจากพิษเศรษฐกิจ จึงได้ยื่นเรื่องขอลดอัตราดอกเบี้ย แต่ธนาคารเจ้าหนี้ปฏิเสธพิจารณา โดยให้เหตุผลว่า ยอดหนี้คงเหลือต่ำกว่าเกณฑ์พิจารณา กล่าวคือ ต้องมียอดหนี้คงเหลือไม่ต่ำกว่า 1.5 ล้านบาท ธนาคารเจ้าหนี้จึงจะรับพิจารณาปรับลดดอกเบี้ยให้ อย่างไรก็ดี เราขอให้ธนาคารเจ้าหนี้ทบทวนการพิจารณาอีกครั้ง เนื่องจากเกณฑ์ดังกล่าวอาจไม่ธรรมต่อลูกหนี้ กล่าวคือ หากใช้เกณฑ์ 1.5 ล้านบาท จากหนี้เงินต้นที่ 10 ล้านบาท เท่ากับเกณฑ์อยู่ที่ 15% ของหนี้เงินต้น แต่กรณีของเราที่หนี้เงินต้นอยู่ที่ 3 ล้านบาท นั่นเท่ากับเกณฑ์อยู่ที่ 50% ของหนี้เงินต้น ดังนั้น การใช้ตัวเลขคงที่ตายตัวเป็นเกณฑ์ตัดสินในการรับพิจารณาฯหรือไม่ จึงไม่เหมาะสมและไม่เป็นธรรมต่อลูกหนี้ อีกทั้งเกณฑ์ดังกล่าวไม่มีการแจ้ง/ประกาศ/สื่อสารให้ลูกหนี้รับทราบมาก่อน
ต่อมา ภายหลังจากที่เราได้นำเรื่องร้องต่อหน่วยงานที่กำกับดูแลฯ ในเดือน 08/2568 เราได้รับข้อเสนอช่วยเหลือจากธนาคารเจ้าหนี้ โดยเสนอ "ลดอัตราดอกเบี้ยให้ไม่เกิน 0.75% ต่อปี ในเดือนที่ 37" เราฟังแล้ว อึ้ง และ ทึ่ง เพราะเป็นข้อเสนอช่วยเหลือในอนาคตมากๆ แปลภาษาบ้านๆ ว่า ตอนนี้ยังไม่ช่วยนะ รออีก 15 เดือน แล้วจะลดดอกเบี้ยให้ แต่ลดเท่าไร ก้อไม่ชัดเจนอีก แต่ไม่เกิน 0.75%! ช่างเป็นข้อเสนอให้ความช่วยเหลือที่แยบยลมาก วางเงื่อนไขไว้ถึง 2 ชั้น ซึ่งลูกหนี้อย่างเราไปต่อไม่เป็นเลย
หลังจากนั้น เราได้รับอีเมล์จากหน่วยงานที่กำกับดูแลดังกล่าว แจ้งสรุปข้อเสนอความช่วยของธนาคารเจ้าหนี้เป็นลายลักษณ์อักษร พร้อมระบุสถานะคำร้องฯของเราว่า Resolved!