No Brand กรณีศึกษา Branding ที่น่าสนใจ แบรนด์ที่บอกว่าตัวเอง ไม่มีแบรนด์

ในโลกที่เต็มไปด้วยสินค้านับไม่ถ้วน แข่งกันทำแบรนด์ให้หรูหรา บรรจุภัณฑ์สวยงาม และการตลาดจัดเต็ม
กลับมีแบรนด์หนึ่งที่เลือกเดินตรงข้าม
    นั่นคือ “No Brand” จากเกาหลีใต้ ที่ตั้งใจบอกว่า “เราไม่ขายแบรนด์ เราขายคุณภาพในราคาสมเหตุสมผล”

จุดเริ่มต้นของ No Brand
-  เปิดตัวครั้งแรกเมษายน 2015 ภายใต้เครือ Emart (ค้าปลีกยักษ์ใหญ่ของเกาหลีใต้)
-  เริ่มจากสินค้าพื้นฐานไม่กี่ชนิด เช่น มันฝรั่งทอด, ทิชชู่เปียก, แบตเตอรี่
-  จุดขายคือ แพ็กเกจเรียบง่าย สีเหลืองสด พร้อมโลโก้ No Brand
-  จากกระแสตอบรับดีเกินคาด → ขยายไลน์สินค้าอย่างรวดเร็ว ครอบคลุมทั้งอาหาร ของใช้ ไปจนถึงเครื่องใช้ไฟฟ้า

การขยายตัว
-  ปี 2016 เปิด ร้านสแตนด์อโลนสาขาแรก ที่เมืองยงอิน ก่อนขยายทั่วเกาหลีใต้
-  ต่อมาบุกตลาดต่างประเทศ เช่น มองโกเลีย, ฟิลิปปินส์
-  ส่วนในไทย มีขายใน Tops ภายใต้การนำเข้าของ Central Retail

กลยุทธ์ Marketing ที่น่าสนใจ
-  สิ่งที่ “No Brand” ทำ เรียกว่า Contrast Marketing เพราะแทนที่จะบอกว่ามีแบรนด์เจ๋งๆ แต่กลับเลือกจะบอกว่า “ไม่มีแบรนด์”
-  เป็น กิมมิกทางการตลาด ที่สร้างภาพจำให้ผู้บริโภคได้ทันที
-  ตัวอย่างเช่น บนซองมันฝรั่ง เขียนว่า “No Brand, MADE FOR CUSTOMER”
-  สื่อสารชัดเจนว่า คุณภาพอยู่ที่สินค้า ไม่ใช่ชื่อแบรนด์
ในมุมหนึ่ง นี่อาจตรงใจผู้บริโภคยุคใหม่ที่เบื่อกับการจ่ายเงินซื้อ “ค่าแบรนด์” มากกว่าตัวสินค้า

ที่มา BrandCase


แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่