3 โรคหน้าฝน พบบ่อยในเด็ก พ่อแม่ต้องระวัง!
ฝนตกไม่เว้นวันแบบนี้ หลายบ้านคงกำลังเจอปัญหาเดียวกัน...ลูกๆ ป่วยบ่อยมาก ช่วงหน้าฝนเป็นช่วงที่เชื้อไวรัสเติบโตและแพร่กระจายง่าย อากาศชื้น อุณหภูมิเปลี่ยนแปลงไว ทำให้ 3 โรคยอดฮิตในเด็กๆ กลับมาระบาดอีกครั้ง ได้แก่ ไข้หวัดใหญ่สายพันธุ์ A, RSV และโรคมือ เท้า ปาก
อาการที่พ่อแม่ต้องรู้...
โรคไข้หวัดใหญ่สายพันธุ์ A
เป็นโรคที่พบบ่อยและมีความรุนแรงได้พอสมควร
อาการ
: เริ่มจากมีไข้สูงเฉียบพลัน ปวดเมื่อยตามตัว และอ่อนเพลีย เด็กบางคนอาจมีอาการไอ เจ็บคอ หรือน้ำมูกร่วมด้วย
การป้องกัน : วิธีที่ดีที่สุดคือการฉีดวัคซีนไข้หวัดใหญ่ ซึ่งสามารถฉีดได้ตั้งแต่อายุ 6 เดือนขึ้นไป การฉีดวัคซีนจะช่วยลดความรุนแรงของโรคได้
โรคติดเชื้อทางเดินหายใจ RSV
เป็นอีกหนึ่งโรคที่น่ากังวล เพราะอาจทำให้เกิดภาวะแทรกซ้อนที่รุนแรงได้
อาการ : อาการคล้ายไข้หวัดธรรมดาในระยะแรก แต่จะตามมาด้วยอาการไออย่างรุนแรง หายใจหอบเหนื่อย และมีเสียงหวีดในลำคอ ซึ่งอาจนำไปสู่ภาวะ ปอดอักเสบ ได้
การป้องกัน : ปัจจุบันยังไม่มีวัคซีนป้องกันโรค RSV โดยตรง การรักษาจึงเน้นที่การรักษาตามอาการ และดูแลอย่างใกล้ชิดเพื่อป้องกันไม่ให้อาการรุนแรงขึ้น
โรคมือ เท้า ปาก
เป็นโรคที่ระบาดง่าย โดยเฉพาะในเด็กเล็กที่อยู่ในโรงเรียนหรือสถานรับเลี้ยงเด็ก
อาการ : มีไข้ตามมาด้วยตุ่มน้ำใสที่บริเวณฝ่ามือ ฝ่าเท้า และในปาก ซึ่งอาจทำให้เด็กเจ็บจนไม่อยากกินอาหารได้
การป้องกัน : มีวัคซีนป้องกันโรคมือเท้าปาก สำหรับเด็กตั้งแต่อายุ 6 เดือนถึง 5 ปี ซึ่งจะช่วยป้องกันโรคและลดความรุนแรงได้
ทั้ง 3 โรคนี้ติดต่อได้ง่ายผ่านการสัมผัสสารคัดหลั่งจากผู้ป่วย ไม่ว่าจะเป็นน้ำมูก น้ำลาย หรือเสมหะ ดังนั้นการป้องกันที่ดีที่สุดคือการดูแลสุขอนามัยอย่างเคร่งครัด
ล้างมือบ่อยๆ : สอนให้ลูกล้างมือด้วยสบู่หรือเจลแอลกอฮอล์บ่อยๆ โดยเฉพาะก่อนกินข้าวและหลังจากกลับจากข้างนอก
ใส่หน้ากากอนามัย : หากต้องพาลูกไปในที่ที่คนเยอะ เช่น ห้างสรรพสินค้า หรือโรงเรียน ควรให้ลูกใส่หน้ากากอนามัยเสมอ
หลีกเลี่ยงสถานที่แออัด : หากเป็นไปได้ในช่วงที่โรคระบาดหนัก ควรหลีกเลี่ยงการพาลูกไปในที่ที่มีคนเยอะเพื่อลดโอกาสสัมผัสกับเชื้อโรค
ทำความสะอาดของเล่นและของใช้ : หมั่นทำความสะอาดของเล่นและของใช้ต่างๆ ของลูกให้สะอาดอยู่เสมอ โดยเฉพาะในช่วงหน้าฝนนี้ค่ะ
ที่สำคัญ หากสงสัยว่าลูกมีอาการเข้าข่ายโรคใดโรคหนึ่ง ควรรีบพาไปพบแพทย์เพื่อตรวจวินิจฉัยและรับการรักษาอย่างถูกต้องดีที่สุด การรักษาที่รวดเร็วจะช่วยให้เด็กหายป่วยได้ไวขึ้นและป้องกันอาการรุนแรงได้ค่ะ
หน้าฝนนี้คุณพ่อคุณแม่มีวิธีดูแลลูกกันยังไงบ้าง? มาแชร์กันได้นะคะ...
3 โรคหน้าฝน พบบ่อยในเด็ก พ่อแม่ต้องระวัง!
3 โรคหน้าฝน พบบ่อยในเด็ก พ่อแม่ต้องระวัง!
ฝนตกไม่เว้นวันแบบนี้ หลายบ้านคงกำลังเจอปัญหาเดียวกัน...ลูกๆ ป่วยบ่อยมาก ช่วงหน้าฝนเป็นช่วงที่เชื้อไวรัสเติบโตและแพร่กระจายง่าย อากาศชื้น อุณหภูมิเปลี่ยนแปลงไว ทำให้ 3 โรคยอดฮิตในเด็กๆ กลับมาระบาดอีกครั้ง ได้แก่ ไข้หวัดใหญ่สายพันธุ์ A, RSV และโรคมือ เท้า ปาก
อาการที่พ่อแม่ต้องรู้...
โรคไข้หวัดใหญ่สายพันธุ์ A
เป็นโรคที่พบบ่อยและมีความรุนแรงได้พอสมควร
อาการ : เริ่มจากมีไข้สูงเฉียบพลัน ปวดเมื่อยตามตัว และอ่อนเพลีย เด็กบางคนอาจมีอาการไอ เจ็บคอ หรือน้ำมูกร่วมด้วย
การป้องกัน : วิธีที่ดีที่สุดคือการฉีดวัคซีนไข้หวัดใหญ่ ซึ่งสามารถฉีดได้ตั้งแต่อายุ 6 เดือนขึ้นไป การฉีดวัคซีนจะช่วยลดความรุนแรงของโรคได้
โรคติดเชื้อทางเดินหายใจ RSV
เป็นอีกหนึ่งโรคที่น่ากังวล เพราะอาจทำให้เกิดภาวะแทรกซ้อนที่รุนแรงได้
อาการ : อาการคล้ายไข้หวัดธรรมดาในระยะแรก แต่จะตามมาด้วยอาการไออย่างรุนแรง หายใจหอบเหนื่อย และมีเสียงหวีดในลำคอ ซึ่งอาจนำไปสู่ภาวะ ปอดอักเสบ ได้
การป้องกัน : ปัจจุบันยังไม่มีวัคซีนป้องกันโรค RSV โดยตรง การรักษาจึงเน้นที่การรักษาตามอาการ และดูแลอย่างใกล้ชิดเพื่อป้องกันไม่ให้อาการรุนแรงขึ้น
โรคมือ เท้า ปาก
เป็นโรคที่ระบาดง่าย โดยเฉพาะในเด็กเล็กที่อยู่ในโรงเรียนหรือสถานรับเลี้ยงเด็ก
อาการ : มีไข้ตามมาด้วยตุ่มน้ำใสที่บริเวณฝ่ามือ ฝ่าเท้า และในปาก ซึ่งอาจทำให้เด็กเจ็บจนไม่อยากกินอาหารได้
การป้องกัน : มีวัคซีนป้องกันโรคมือเท้าปาก สำหรับเด็กตั้งแต่อายุ 6 เดือนถึง 5 ปี ซึ่งจะช่วยป้องกันโรคและลดความรุนแรงได้
ทั้ง 3 โรคนี้ติดต่อได้ง่ายผ่านการสัมผัสสารคัดหลั่งจากผู้ป่วย ไม่ว่าจะเป็นน้ำมูก น้ำลาย หรือเสมหะ ดังนั้นการป้องกันที่ดีที่สุดคือการดูแลสุขอนามัยอย่างเคร่งครัด
ล้างมือบ่อยๆ : สอนให้ลูกล้างมือด้วยสบู่หรือเจลแอลกอฮอล์บ่อยๆ โดยเฉพาะก่อนกินข้าวและหลังจากกลับจากข้างนอก
ใส่หน้ากากอนามัย : หากต้องพาลูกไปในที่ที่คนเยอะ เช่น ห้างสรรพสินค้า หรือโรงเรียน ควรให้ลูกใส่หน้ากากอนามัยเสมอ
หลีกเลี่ยงสถานที่แออัด : หากเป็นไปได้ในช่วงที่โรคระบาดหนัก ควรหลีกเลี่ยงการพาลูกไปในที่ที่มีคนเยอะเพื่อลดโอกาสสัมผัสกับเชื้อโรค
ทำความสะอาดของเล่นและของใช้ : หมั่นทำความสะอาดของเล่นและของใช้ต่างๆ ของลูกให้สะอาดอยู่เสมอ โดยเฉพาะในช่วงหน้าฝนนี้ค่ะ
ที่สำคัญ หากสงสัยว่าลูกมีอาการเข้าข่ายโรคใดโรคหนึ่ง ควรรีบพาไปพบแพทย์เพื่อตรวจวินิจฉัยและรับการรักษาอย่างถูกต้องดีที่สุด การรักษาที่รวดเร็วจะช่วยให้เด็กหายป่วยได้ไวขึ้นและป้องกันอาการรุนแรงได้ค่ะ
หน้าฝนนี้คุณพ่อคุณแม่มีวิธีดูแลลูกกันยังไงบ้าง? มาแชร์กันได้นะคะ...