เลิกบ่นสัก 7 วัน ชีวิตเบาขึ้น 7 เท่า (ไม่เชื่อลองดูสิ!)

คลิกเพื่อดูคลิปวิดีโอ

เพื่อน ๆ เคยมั้ยครับ…
ตื่นเช้ามา ยังไม่ทันแปรงฟันก็บ่นอากาศร้อนแล้ว
ออกจากบ้าน รถติดอีก…บ่น
ไปทำงาน เจอเจ้านายพูดจาไม่น่ารัก…บ่น
กลับบ้าน เจอแฟนเล่นมือถือไม่สนใจ…บ่นอีก
สุดท้ายก็ปิดวันด้วยการบ่นว่า “วันนี้ไม่ได้พักเลยสักนาที!”
ผมเองก็เป็นหนึ่งในนั้นแหละ 😅 คือไม่ได้บ่นแบบด่าชาวบ้านนะ แต่เป็นสายบ่นเบา ๆ เพื่อความสบายใจ แต่ดันไม่เคยสบายจริงซะที! จนได้ไปเจอหนังสือเล่มหนึ่งชื่อว่า “7 เทคนิคให้เลิกบ่น” อ่านแล้วเหมือนมีคนมาเขย่าหัวให้ตาสว่างว่า “การบ่นบ่อย ๆ มันไม่ได้ช่วยอะไรเลยเว้ย…มันทำให้สมองเราชินกับความลบต่างหาก”
บ่น = สมองจำว่า “โลกนี้แย่”
ในหนังสือเล่าว่า ทุกครั้งที่เราบ่น สมองจะบันทึกข้อมูลทันทีว่า “นี่คือเรื่องแย่” แล้วดันเก็บไว้ซะด้วย คราวหน้าก็เลยหาของแย่มายืนยันความคิดเราเพิ่มเข้าไปอีก พูดง่าย ๆ คือ ยิ่งบ่น = ยิ่งหงุดหงิดง่ายขึ้นเรื่อย ๆ โดยไม่รู้ตัว
แถมยังมีฮอร์โมนความเครียดอย่าง คอร์ติซอล โผล่มาป่วนร่างกายอีก หัวใจเต้นแรง หน้าแดง หายใจไม่ทั่วท้อง เหมือนจะสู้กับเสือ แต่จริง ๆ คือแค่เจอรถติดบนทางด่วนนั่นแหละ 🤦‍♂️
7 เทคนิคหยุดบ่นแบบขำ ๆ แต่ใช้ได้จริง
ผู้เขียนเลยทดลองเลิกบ่น 7 วันเต็ม ๆ ผลคือ ชีวิตไม่ได้เปลี่ยนเป็นเทพนิยายหรอก รถก็ยังติด เจ้านายก็ยังเป็นคนเดิม แต่ที่เปลี่ยนคือ…ใจเรามันไม่เหนื่อยเกินเหตุอีกแล้ว
และนี่คือ 7 เทคนิคที่อยากเอามาเล่าให้เพื่อน ๆ ฟัง เผื่อจะลองเอาไปใช้กัน

1. หักดิบไปเลย
ปากจะเริ่มบ่นเมื่อไหร่…ดึงเบรกมือทันที!
แทนที่จะ “โอ๊ย รถติดทุกวัน” ให้หายใจลึก ๆ แล้วบอกตัวเองว่า “แล้วไงวะ”
เหมือนเราตัดไฟแต่ต้นลม เพราะพูดออกไปทีไร สมองจะรีบตีกรอบทันทีว่า “เรื่องนี้มันแย่แน่นอน” แล้วก็หาหลักฐานมาเติมไฟให้ใจเราเองอีกต่างหาก
เทคนิคเล็ก ๆ: ตั้งสัญญาณส่วนตัว เช่น กัดฟัน หายใจแรง ๆ หรือพูดในใจว่า “จบ ๆ ไปเถอะ” แล้วเดินต่อ

2. เปลี่ยนคำบ่นเป็นคำถาม
จาก “ทำไมงานเยอะขนาดนี้วะ” → เป็น “โอเค งานเยอะ…แล้วจะเริ่มตรงไหนดี?”
จาก “ทำไมไม่มีใครช่วยฉันเลย” → เป็น “ฉันต้องการความช่วยเหลือแบบไหน ขอจากใครได้?”
บ่นคือการดึงพลังออก แต่ถามคือการดึงพลังกลับเข้ามา พอถาม สมองจะเข้าสู่โหมด “หาทางแก้” ทันที

3. ยอมรับโชคชะตาไปเลย
บางเรื่องเปลี่ยนไม่ได้จริง ๆ จะฝนตก รถติด เจ้านายขี้หงุดหงิด…บ่นไปก็ไม่ช่วยอะไรหรอก
ลองหายใจลึก ๆ แล้วพูดในใจว่า
“เออ…มันก็ต้องเกิดอยู่แล้ว งั้นวันนี้แหละ จบ ๆ ไปเลย”
นี่ไม่ใช่การยอมแพ้นะครับ แต่เป็นการประหยัดพลังไว้แก้สิ่งที่แก้ได้จริง ๆ

4. มองภาพกว้าง เราไม่ได้ทุกข์ที่สุดในโลก
บางทีเราบ่นว่า “ยิ้มมือถือชาร์จไม่เข้าอีกแล้ว!”
แต่เพื่อนเราเพิ่งได้ข่าวว่าอาจเป็นเนื้องอก…
เทียบแล้ว บ่นเราดูเล็กนิดเดียวเลยใช่มั้ย?
การมองกว้างไม่ได้แปลว่าเราห้ามทุกข์ แต่มันช่วยเตือนว่า “อย่าปล่อยเรื่องเล็ก ๆ มาขโมยพลังเราเกินเหตุ”

5. ทำให้มันตลกซะ
เดินเตะขอบโต๊ะ → เจ็บจริง แต่ลองนึกว่าตัวเองเป็นชาลี แชปปลิ้นเดินชนขอบเวที…ยิ้มก็ขำออกนะ 😂
ความจริงคือ การหัวเราะกับเรื่องเซ็ง ๆ ช่วยให้สมองปล่อยสารดี ๆ ออกมาแทนความเครียดได้
ดังนั้น ถ้าจะบ่น ลองบ่นแบบมีมุก เช่น “มือถือแตกอีกแล้ว…คงอยากได้ลุควินเทจแน่ ๆ” แบบนี้ดีกว่าเยอะ

6. คิดไปเลยว่า โชคดีมาหลังโชคร้าย
อกหัก = ได้เจอคนที่ใช่กว่า
ตกงาน = ได้เริ่มทำธุรกิจที่รัก
รถติด = ได้ฟังเพลย์ลิสต์โปรดจนจบอัลบั้ม
ผู้เขียนบอกว่า ให้คิดว่า “ซวยวันนี้ = จ่ายค่าผ่านทางให้อนาคตดี ๆ”
แค่นี้ก็ช่วยให้ใจเรามีหวัง ไม่จมอยู่กับความรู้สึกแย่ตลอดเวลา

7. ถ้าจะบ่น…ก็ขอบ่นให้สุดไปเลย!
อย่าบ่นแบบจิกกัด บ่นให้มันส์ไปเลย!
แต่งเป็นแรป แต่งเป็นกลอน หรือเขียนลงกระดาษแล้วโยนทิ้งก็ได้
เช่น “รถติดอีกแล้ว ติดจนคิดได้อีกสิบแผนชีวิต หิวข้าวยังไง…ข้าวแกงหมดไปตั้งแต่สิบก้าวเมื่อกี้!”
ฟังดูเพี้ยน ๆ ใช่มั้ย แต่จริง ๆ คือการเอาอารมณ์ลบมาเปลี่ยนเป็นพลังสร้างสรรค์
บางทีโพสต์ลงโซเชียลยังมีคนหัวเราะด้วยอีกต่างหาก

สรุป: เลิกบ่น = เลือกไม่เสียพลังให้สิ่งที่เปลี่ยนไม่ได้
การเลิกบ่นไม่ใช่การกลั้น ไม่ใช่การแกล้งนิ่ง แต่คือการ เลือกใช้พลังกับสิ่งที่คุ้มค่า
เราเปลี่ยนโลกทั้งใบไม่ได้หรอก แต่เราเลือกได้ว่าจะ “บ่นหรือไม่บ่น” ในทุก ๆ วัน
และบอกเลยนะครับ…ถ้าเราหัวเราะได้แม้ในวันที่ทุกอย่างไม่เป็นใจ นั่นแหละคือชัยชนะที่แท้จริง โดยไม่ต้องรอให้โลกใจดีก่อน

ปล. ใครที่กำลังคิดว่า “เฮ้ย! ยากว่ะ ฉันเป็นสายบ่นอาชีพเลยนะ”
ไม่ต้องซีเรียสครับ…เริ่มจากวันเดียวพอ ลองดูซิว่าชีวิตมันเบาขึ้นจริงรึเปล่า แล้วค่อย ๆ ต่อเป็น 7 วัน
ใครลองแล้วได้ผล…กลับมาเล่าในกระทู้นี้บ้างนะครับ จะได้หัวเราะไปด้วยกัน 😆

ซื้อและทดลองอ่านอีบุ๊กฟรีได้ที่ https://www.hytexts.com/ebook/f382f86b-c448-4af7-9e6f-ddba7d490ae5
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่