ปชน.-พท. ส่งโมเดลแก้รธน. ภท.อ้างติดธุระ ภาคปชช. ค้าน ส.ว.คัดสสร. เหตุไม่ยึดโยงประชาชน
.
.
‘กมธ.พัฒนาการเมืองฯ’ นัด 3 พรรค ส่งโมเดลแก้รธน. ไร้เงา ภูมิใจไทย อ้างติดธุระ ด้าน ‘พริษฐ์’ ร่ายสูตร 2 คณะ รัฐสภาคัดคณะผู้ร่างตามสัดส่วน ส.ส. – ส.ว. ขณะที่ จาตุรนต์ ถาม จะมีคนขวางอีกไหม ทำประชามติคนเห็นชอบแล้วอย่างไรต่อ ด้านภาคประชาชน ค้าน ส.ว.ร่วมคัดกรอง ส.ส.ร. เหตุไม่ได้ยึดโยงกับประชาชน ขอนักการเมืองอย่าปิดช่องเลือก ส.ส.ร.โดยตรง
.
เมื่อเวลา 15.00 น. วันที่ 18 กันยายน ที่รัฐสภา คณะกรรมาธิการ (กมธ.) พัฒนาการเมือง การสื่อสารมวลชน และการมีส่วนร่วมของประชาชน สภาผู้แทนราษฎร มีภาระการพิจารณาวาระหารือแนวทางการจัดทํารัฐธรรมนูญฉบับใหม่ ภายหลังมีคําวินิจฉัยของศาลรัฐธรรมนูญ โดยมีนายฉัตร สุภัทรวณิชย์ ส.ส.นครราชสีมา พรรคประชาชน เป็นประธาน โดยมีการเชิญ 3 ตัวแทนพรรคการเมือง ได้แก่พรรคประชาชน นายพริษฐ์ วัชรสินธุ ส.ส.บัญชีรายชื่อ ในฐานะ กมธ. พรรคเพื่อไทย นายจาตุรนต์ ฉายแสง ส.ส.บัญชีรายชื่อ อย่างไรก็ตาม ไม่มีตัวแทนจากพรรคภูมิใจไทยมาเข้าร่วมการประชุม เนื่องจากนายภราดร ปริศนานันทกุล ส.ส.อ่างทอง พรรคภูมิใจไทย ในฐานะตัวแทนพรรคภูมิใจไทย ระบุว่าติดภารกิจ จึงไม่สามารถมาได้
.
นอกจากนั้น ยังมีการหารือกับคณะกรรมาธิการการพัฒนาการเมืองฯ วุฒิสภา ได้แก่ นายประภาส ปิ่นตบแต่ง ส.ว. และนายพรชัย วิทยเลิศพันธุ์ ส.ว. รวมถึงภาคประชาชน iLaw และ Conforall สำนักงานคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) และสำนักกฎหมาย สำนักงานเลขาธิการสภาผู้แทนราษฎร เข้าร่วม
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า บรรยากาศการประชุมในวันนี้ เป็นไปด้วยความตึงเครียดน้อยกว่าสัปดาห์ที่ผ่านมา เนื่องจากแต่ละภาคส่วนมีแนวทาง แผน และไทม์ไลน์ในการแก้ไขรัฐธรรมนูญที่ชัดเจนขึ้นบางส่วน ทั้งนี้ นายพริษฐ์และนายจาตุรนต์ได้พูดคุยกันอย่างเป็นกันเอง และอธิบายของแต่ละฝ่ายให้อีกคนฟัง
.
ทั้งนี้ ในช่วงหนึ่ง นายพริษฐ์เปิดเผยว่า ตัวแทนจากพรรคภูมิใจไทย คือ นายภราดร ปริศนานันทกุล ส.ส.อ่างทอง แจ้งว่าติดธุระ จึงไม่สามารถมาได้ แต่ได้เตรียมเสนอร่างแก้ไขหมวด 15 ในสัปดาห์หน้า ซึ่งได้อธิบายโมเดลคร่าวๆ ให้ตนฟังแล้ว แต่คงไม่เหมาะสมหากตนจะเป็นผู้นำเสนอ ดังนั้น วันที่นำเสนอโดยเจาะจง รวมถึงสาระสำคัญของร่างแก้ไข ซึ่งขอให้ติดตามจากสื่อมวลชนที่จะไปสอบถาม
.
นายพริษฐ์ นำเสนอกลไกในการจัดทำรัฐธรรมนูญฉบับใหม่ โดยระบุว่า สำหรับกระบวนการยกร่างแก้ไขรัฐธรรมนูญ หมวด 15 พร้อมย้ำว่า จุดยืนของพรรคประชาชน ไม่เห็นด้วยกับคำวินิจฉัย เพราะเป็นการตอบเกินคำถาม และปิดกั้นกระบวนการจัดทำรัฐธรรมนูญของประชาชนโดยตรง จึงต้องออกแบบกลไกให้ประชาชนยังคงมีส่วนร่วม นำมาสู่ข้อเสนอโมเดล 2 คณะ ประกอบด้วย
.
1. กรรมาธิการยกร่างรัฐธรรมนูญ หรือคณะผู้ร่าง ซึ่งมีหน้าที่ยกร่างรัฐธรรมนูญฉบับใหม่เสนอต่อรัฐสภา มีที่มาจากการเลือกตั้งโดยประชาชน 70 คน
โดยผู้สมัครเข้ามาเป็นทีม ทีมละไม่เกิน 70 คน เรียงลำดับเหมือน สส. แบบบัญชีรายชื่อ ประชาชนสามารถเลือกได้ 1 ทีม และนำมาคำนวณว่าผู้ใดเข้ารอบจากแต่ละทีม จากนั้นนำรายชื่อส่งให้รัฐสภาคัดเลือกให้เหลือ 35 คน โดยรัฐสภาแบ่งสัดส่วนตาม สส. สว. และพรรคการเมือง เนื่องจากหากคัดเลือกโดยเสียงเกินกึ่งหนึ่ง อาจเปิดช่องให้บางกลุ่มการเมืองผูกขาดการเลือกได้
.
2. สภาที่ปรึกษา หรือคณะผู้แทนประชาชน มีหน้าที่เป็นเจ้าภาพรวบรวมและสะท้อนความเห็นจากประชาชน เพื่อเสนอต่อคณะผู้ยกร่าง และรายงานความคืบหน้าต่อประชาชน โดยมาจากการเลือกตั้งของประชาชนโดยตรง จำนวน 100 คน ผู้สมัครตัวแทนจังหวัดอย่างน้อย 1 คน มากสุดจังหวัดละไม่เกิน 5 คน
.
ทั้งนี้ กระบวนการเลือกทั้ง 2 คณะ จะเข้าคูหาเลือกตั้งวันเดียวกัน มีบัตร 2 ใบ คล้ายกับการเลือก ส.ส.แบบแบ่งเขต และ ส.ส.แบบบัญชีรายชื่อ ซึ่งเมื่อทั้ง 2 คณะทำงานร่วมกันเพื่อยกร่างรัฐธรรมนูญฉบับใหม่เสร็จแล้วเพื่อเสนอต่อรัฐสภา อาจเพิ่มกลไกว่าหากรัฐสภาไม่เห็นชอบกับร่างรัฐธรรมนูญใหม่ อาจร้องขอให้เริ่มกระบวนการให้ทั้งหมด ตั้งแต่การเข้าคูหาเพื่อเลือกทั้ง 2 คณะได้ ซึ่งนายพริษฐ์ระบุว่า ขณะนี้อยู่ระหว่างการยกร่างใกล้เสร็จสมบูรณ์แล้ว และหลังจากการรับฟังความเห็นจากทุกฝ่ายในวันนี้แล้ว ก็จะนำมาประกอบการยกร่าง เพื่อให้นำเสนอต่อรัฐสภาได้โดยเร็ว
.
นายจาตุรนต์ กล่าวว่า ประชุมไปเมื่อวันอังคารที่ 16 ก.ย.ที่ผ่านมา แล้วจะมีการประชุมอีกครั้งในวันที่ 19 ก.ย.ที่จะถึงนี้ คาดว่าจะร่างภายในสัปดาห์หน้า ในการเสนอนี้ เราเสนอเรื่องกระบวนการจัดทำรัฐฉบับใหม่ ซึ่งไม่ใช่การเริ่มทำรัฐธรรมนูญฉบับใหม่
.
ส่วนจะให้สอดคล้องกับคำวินิจฉัยของศาลรัฐธรรมนูญอย่างไร ต้องเป็นรายละเอียดที่พิจารณาต่อไป ซึ่งสาระเกี่ยวกับวิธีการในกระบวนการก็คือเรื่อง สสร.โดยตนมองว่า ศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยออกมาไม่สอดคล้องกับคำวินิจฉัยของศาลรัฐธรรมนูญเองที่มีแต่เดิม ว่าประชาชนเป็นผู้ทรงอำนาจในการสถาปนารัฐธรรมนูญ
.
นายจาตุรนต์ กล่าวต่อว่า การวินิจฉัยครั้งนี้ เหตุการณ์ยังไม่เกิดขึ้น ศาลรัฐธรรมนูญจะตอบมา มันก็จำเป็นที่จะไม่อาจไม่ปฏิบัติตามได้
.
“ที่คิดได้ตอนนี้คือ สสร.ทั้งหมดประมาณ 140 คน 200 คนมาจากการที่ประชาชนในแต่ละจังหวัดเลือกตั้งกันมาให้ได้ แล้วรัฐสภามาคัดให้เหลือ 100 คน โดยการคัด 100 คนนั้น แต่ละจังหวัดจะต้องมีตัวแทนอย่างน้อย 1 คน ส่วนอีก 40 คน มาจากภาควิชาการ ทั้งคณะนิติศาสตร์ รัฐศาสตร์ ตัวแทนองค์กรภาคประชาชน ตัวแทนวิชาชีพ ซึ่งต้องหาวิธีให้ได้มาซึ่งตัวแทนเหล่านี้ โดยที่คงจะต้องหลีกเลี่ยงการให้เลือกไขว้กันเป็นต้น” นายจาตุรนต์ กล่าว
.
นายจาตุรนต์ ระบุว่า เมื่อประมาณ 140 คนแล้วก็ไปเลือกคณะกรรมาธิการยกร่างกันเอง จากนั้น เข้าสู่ สสร. ซึ่ง สสร. จะไปรับฟังความเห็น เสร็จแล้วส่งมาให้รัฐสภาพิจารณา และอาจจะมีการให้รัฐสภาให้ความเห็นรอบหนึ่ง เพื่อให้ สส. กลับไปพิจารณาทบทวน
.
นายจาตุรนต์ ทิ้งท้ายว่า วันพรุ่งนี้ เราจะพิจารณากันอีกครั้ง อย่างช้าที่สุดถ้าจะเป็นที่ยุติ จะไม่เกินวันที่ 23-24 ก.ย. เพื่อให้เสนอได้ในปลายสัปดาห์หน้า
.
ตัวแทน Conforall มองว่า ต้องยืนยันว่า คําวินิจฉัยของศาลรัฐธรรมนูญที่ปรากฏให้เห็นนั้นเป็นเพียงแค่ฉบับย่อ ยังไม่เห็นคําวินิจฉัยฉบับเต็ม ว่าถูกตีความว่าอย่างไร ทําให้สร้างภาวะ dilemma เท่ากับว่า รัฐสภากําลังเป็นประจักษ์พยานว่า ศาลรัฐธรรมนูญกําลังทําเกินอํานาจหน้าที่ที่ท่านมี เพราะท่านไม่มีอํานาจกําหนดว่า ที่มา สสร. จะเป็นอย่างไร เพราะอํานาจสถาปนารัฐธรรมนูญเป็นของประชาชน อีกทั้งศาลรัฐธรรมนูญ ยังไม่มีอํานาจในการวินิจฉัยประเด็นที่ผู้ร้องไม่ได้ถามด้วย แม้ศาลรัฐธรรมนูญไม่ได้ก้าวล่วงในการบอกว่า สสร.มาจากการเลือกตั้งไม่ได้ แต่เพียงตอบคําถามตามหมวด 15 ที่มีอยู่เดิม ซึ่งทําให้เลือก สสร.ไม่ได้ ดังนั้น จึงสามารถเพิ่มหมวด 15/1 เพื่อทำให้ สสร.มาจากการเลือกตั้งได้ ข้อเสนอเบื้องต้น จึงมองว่า อะไรที่ทำให้ชัดเจนได้ควรทำเลย คือแนวทางการจัดทำรัฐธรรมนูญใหม่ ที่รัฐบาลสามารถพูดได้ว่า มีกระบวนการอย่างไร ทั้งจํานวนครั้งในการทำประชามติ คําถามประชามติ และกรอบเวลาในการดําเนินการ
.
ขณะที่ฝ่ายรัฐสภา เมื่อเรายังไม่ได้ข้อยุติ ก็ไม่ควรจะตีกรอบ หรือจํากัดอํานาจไว้ล่วงหน้า ดังนั้น ขั้นต่ำที่สุดในการเสนอร่างแก้ไขมาตรา 256 ที่จะมีการเสนอนั้น ในชั้นหลักการ ควรเปิดกว้างให้ไปสู่การเลือกตั้ง สสร.ได้ เพราะศาลรัฐธรรมนูญไม่ได้ห้าม และแต่ละร่างของที่พรรคการเมืองเสนอ ก็ไม่ควรจะปิดประตู รวมถึงควรเรียกร้องให้ศาลรัฐธรรมนูญเผยแพร่คําวินิจฉัยฉบับเต็ม เพื่อให้เป็นไปอย่างโปร่งใส นอกจากนั้น ยังมีการนําเสนอกรอบของการออกแบบการจัดทํารัฐธรรมนูญ ซึ่งควรมีหลักคิด 4D คือ Democracy เป็นประชาธิปไตยยึดโยงประชาชน Diversity (inclusive) หลากหลายครอบคลุม Deliberate มีส่วนร่วมแบบถกแถลง Delivery ส่งมอบได้จริง โดยการให้ประชาชนมีส่วนร่วมตลอดกระบวนการ คือทำให้ประชาชนอยู่ตั้งแต่ต้นน้ำ คือการเลือกผู้ร่าง กลางน้ำ คือให้ประชาชนมีส่วนร่วมในการถกแถลง และปลายน้ำ คือการออกเสียงประชามติ
.
ข้อเสนอเบื้องต้นนี้ อาจเป็นความบังเอิญที่ได้นำเนื้อหาของพรรคประชาชนมาอย่างละนิด และนำของพรรคเพื่อไทยมาอย่างละหน่อย คือให้ประชาชนเลือกตัวแทนทั้ง 2 รูปแบบ ซึ่งให้ประชาชนเลือกตั้งมาทั้งคู่ ด้วยระบบที่ต่างกัน คือการเลือกระดับประเทศ โดยใช้ระบบบัญชีรายชื่อ เพื่อเอื้อแนวคิด และนโยบายที่หลากหลาย มากกว่าการเลือกตามพื้นที่ รวมถึงเพิ่มการเลือกตัวแทนระดับจังหวัดเพื่อถ่วงดุล
.
หากคำวินิจฉัยของศาลรัฐธรรมนูญตัวเต็มยืนยันว่า ประชาชนเลือกผู้ร่างรัฐธรรมนูญโดยตรงไม่ได้ ก็ให้ สสร. เลือกกันเองมาจำนวนหนึ่ง แล้วให้รัฐสภาเห็นชอบ เพื่อตั้งกรรมการยกร่างรัฐธรรมนูญ ซึ่ง สสร. ยังมีหน้าที่ตรวจสอบ และกำกับกระบวนการยกร่างรัฐธรรมนูญอยู่ ก่อนจะนำร่างที่จัดทำแล้วมาเสนอให้รัฐสภาเห็นชอบอีกครั้งหนึ่ง ก่อนนำไปสู่การจัดทำประชามติ
.
ตัวแทน iLaw กล่าวว่า ตนยังมีความกังวลว่า หากคำวินิจฉัยศาลรัฐธรรมนูญฉบับเต็มออกมา จะทำให้สิ่งที่เสนอมาติดขัดหรือไม่ เป็นสิ่งที่ดีที่ขณะนี้ เรากำลังเสนอแนวทาง เพื่อสะท้อนความคิดเห็น แต่มองว่าก่อนที่จะเสนออย่างเป็นทางการ ควรจะรอคำวินิจฉัยเต็มก่อน ทั้งนี้ ตนมีข้อสังเกตว่า การเลือก สสร.ทางอ้อม โดยการเลือก สสร. แล้วมาคัดเลือกอีกทีหนึ่ง เป็นทางเลือกที่ดี และเป็นทางที่จะไปได้ อย่างไรก็ตาม โมเดลที่เสนอให้รัฐสภาเป็นผู้คัดเลือก สสร.นั้น ตนยืนยันว่า ไม่เห็นด้วย ที่จะให้ ส.ว.มีอำนาจในการคัดเลือก สสร. เท่ากับ ส.ส.
.
นายวีรยุทธ สร้อยทอง ส.ว. เปิดเผยว่า วุฒิสภาได้จัดทำรายงานเรื่อง สสร. จากการลงพื้นที่รับฟังจากแต่ละภูมิภาค ซึ่งพบว่า ทั้งภาคประชาสังคม นักวิชาการ นักเรียนนักศึกษา มีความเห็นตรงกันว่าต้องการเลือก สสร. โดยตรง 100% แต่เนื่องจากมีคำวินิจฉัยศาลรัฐธรรมนูญเมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมา จึงพยายามหาโมเดลใหม่ ซึ่งยังไม่เป็นมติของกรรมาธิการอย่างเป็นทางการ แต่โดยหลักการยังหวังให้ประชาชนมีสิทธิเลือกตั้งโดยตรง ซึ่งยังหวังว่าคำวินิจฉัยศาลรัฐธรรมนูญฉบับจริงยังพอมีช่องทาง
.
แนวคิดของโมเดลจากฝ่าย ส.ว. เห็นด้วยกับ ConforAll และ iLaw ว่าความชอบธรรมของรัฐสภาไม่เท่ากัน แต่ตามความเป็นจริง ก็ต้องพยายามทำให้ง่ายที่สุด ซึ่งอาจจะไม่ยึดโยง และมีความได้เปรียบเสียเปรียบทางการเมือง จึงมีหลักการเดิน 2 ขา บันได 2 ขั้น โดยแบ่งเป็นการเลือกตั้งระดับจังหวัด แบบแบ่งเขต 200 คน และการเลือกตั้งแบบบัญชีรายชื่อ ให้จัดทีมมาไม่เกิน 200 คน โดยสรรหาบุคคลที่ได้คะแนนสูงสุด 200 คน จากนั้นนำรายชื่อให้รัฐสภาคัดเลือกอีกครั้งให้เหลือ 100 คน
JJNY : ปชน.-พท.ส่งโมเดลแก้รธน. ภท.อ้างติดธุระ│เปิดผลสอบที่ดินเขากระโดง│เริ่มแล้ว ติดตั้งรั้วอิเล็กทรอนิกส์│เตือน 44 จว.