2 สาวหนีเที่ยว เบตง ยะลา ปัตตานี สงขลา หาดใหญ่#4(จบปัตตานีละนะ)

เมื่อคืน 2 สาว นอนหลับสบายเลย ปัญหาคลี่คลายหมดแล้ว ก็ออกตระเวณเที่ยวกัน เพลียแดดสิคะ กลับถึงที่พัก อาบน้ำแล้วต่างก็สลบกันเลยค่ะ ปัตตานีแดดแรงจริงๆ  ตื่นกันสายตามสบาย ขี่มอเตอร์ไซค์ออกมาประมาณ 8 โมงกว่า ขี่ออกมาแพร๊บเดียวก็ถึงแล้ว ร้านเพ้ง แต่เตี้ยม ร้านติ่มซำชื่อดังของปัตตานีอยู่ไม่ไกลจากที่พักด้วย (ที่เลือกโรงแรมนี้ ก็เพราะไม่แพง อยู่ในเขตชุมชน ไปมาสะดวก แถมใกล้ของกินอีก) ลูกค้าในร้านมีหลายโต๊ะแล้ว หลากหลายเลยมีทั้งข้าราชการ นักเรียน คนทำงาน คนมาประชุมหรือสัมนา(แต่งเสื้อสีเดียวกันทั้งโต๊ะ) บางโต๊ะ ก็เป็นครอบครัวค่ะ ร้านนี้มีติ่มซำให้เลือกหลากหลาย นอกจากเมนูหมูที่คุ้นเคย ก็จะเป็นพวก อาหารทะเล ซึ่งร้านนี้ก็เด่นดังเรื่องความสด  ปลา ปู กุ้ง ปลาของเขาอร่อย สดไม่มีกลิ่นคาว

ร้านอยู่ริมถนนหนองจิก ถนนเส้นหลักของปัตตานีเลยค่ะ ขี่มาจากโรงแรม เลยหอนาฬิกามานิดเดียวเอง ก็ถึงละจอดรถหน้าร้านเลยค่ะ


เดินเข้าไปในร้าน ก็เลือกหยิบติ่มซำที่วางไว้เองได้เลยค่ะ ชอบอะไรก็ใส่ถาด แล้วไปนั่งรอที่โต๊ะ ร้านนึ่งเสร็จก็จะนำมาเสริฟเราร้อนๆ

ระหว่างรอติ่มซำ ก็สั่งชาร้อนๆหอมๆ มาด้วยค่ะ (นึกถึงชาที่เบตงจัง)  
ร้านนี้เขาว่าเด่นเรื่องน้ำจิ้มด้วย นอกจากน้ำจิ้มจิ๊กโฉ่วที่เราคุ้นเคย ก็ยังมีน้ำจิ้มสูตรของทางร้านอีกด้วย รสเผ็ด หวาน เปรี้ยว

คุณเพื่อนระหว่างรอติ่มซำ สั่งโจ๊กที่นอกจากใส่หมู ไข่ แล้วยังมีแคปหมูใส่มาในชามอีกด้วย เพื่อนบอกอร่อยค่ะ แต่แม่เปป ไม่ชอบกินโจ๊กเลยไม่สั่ง

ติ่มซำรอบแรกมาเสริฟแล้วค่ะ จำชื่อไม่ได้แล้ว เห็นน่ากินก็หยิบใส่ถาดให้นึ่ง 55







ปลากะพงอร่อยมาก เนื้อปลาเด้งสดจริงๆ

เพื่อนบอกได้ยินโต๊ะข้างๆ คุยว่าซาลาเปาหมูแดงอร่อย เลยเดินไปสั่งมาลองค่ะ ชิมเสร็จบอก... แกช่วยฉันกินลูกนึงนะ ไส้อร่อย แต่แป้งนิ่มน้อยไป


กินเสร็จ ก็กลับที่พักกันก่อนค่ะ ไปผึ่งพุงตากแอร์เย็นๆ แล้วก็คุยกันว่า วันนี้จะไปเก็บสถานที่เที่ยวต่อให้มากที่สุดเท่าที่จะทำได้ แล้วพรุ่งนี้เราจะเช็คเอาท์จากปัตตานี เดินทางไปตลุยหาดใหญ่ สงขลาต่อตามแผน เมื่อคุยตกลงกันเรียบร้อย ก็โทรจองที่พักที่หาดใหญ่ค่ะ  จัดการเสร็จ ก็พร้อมออกเที่ยวกัน จริงๆแล้วอยากจะไปเที่ยวที่ปัตตานีอีกหลายแห่ง แต่ดูในแผนที่แล้ว อยู่ช่วงรอยต่อระหว่างอำเภอ ถือว่าค่อนข้างไกลจากตัวเมืองปัตตานี มอเตอร์ไซค์ไม่น่าเสี่ยงค่ะ ถ้าขับรถยนต์ก็ไปได้สบาย ครั้งนี้เตรียมตัวยังไม่ดีพอ เลยเก็บที่เที่ยวเขตตัวเมืองไปก่อน จะกลับมาเก็บอีกครั้งเมื่อมีโอกาส

วันนี้เราดูแผนที่แล้ว จะขี่ไปไกลจากที่พักนิดนึง ใช้เส้นทางหลวงหมายเลข 42  ปัตตานี-นราธิวาสค่ะ ระยะทางไป-กลับ เกือบ 20 กิโล  ขี่ๆไปเพื่อนก็บอกว่า ครั้งหน้าถ้ามาอีก เราเช่ารถขับไปถึงนราธิวาสได้เลยนะเว๊ยย...ฝันกลางแดดแล้วเพื่อนเอ๋ย 55

ถนนกว้าง แต่รถก็ไม่ได้เยอะมาก เราขี่ออกมาเรื่อยๆค่ะ ไม่เร่งรีบ มาถึงก็หาที่จอดรถค่ะ แดดปัตตานีแรงจริงๆ นะเนี่ย

มัสยิดเก่าแก่ อายุกว่า 400 ปี ของปัตตานี  สร้างด้วยอิฐ เสาทรงกลม ประตูรูปโค้ง





ช่วงที่เราไป มีชาวมุสลิมเข้าไปข้างในเพื่อประกอบศาสนกิจด้วยค่ะ ก่อนเข้า ก็เห็นเขามาตักน้ำจากตรงนี้ ล้างทำความสะอาดส่วนต่างๆของร่างกายด้วย


ขากลับแม่เปป แวะซื้อเกลือปัตตานีหวานมาด้วย 1 ถุงใหญ่ค่ะ หอบมาบ้าน แบ่งพี่ๆเพื่อนๆ เกลือเขาก็มีรสเค็มแบบเกลือนั่นละ แต่ไม่เค็มโดด แถมมีความหวานแทรกเข้ามาทำให้มีรสอร่อยขึ้นจริงๆค่ะ


ใกล้ๆ มัสยิดกรือเซะ ก็มีสุสานเจ้าแม่ลิ้มกอเหนี่ยวด้วยค่ะ แต่พอเพื่อนรู้ตำนานเรื่องเล่าเกี่ยวกับสุสาน ก็บอกว่าไม่ไปนะ ไม่อยากเข้าไป

มีตำนานเล่าว่า “ลิ้มกอเหนี่ยว” ได้ลงเรือสำเภาเพื่อมาตามหาพี่ชายชื่อ “ลิ้มโต๊ะเคี่ยม” ซึ่งมาแต่งงานกับธิดาพระยาตานี และได้เปลี่ยนมานับถือศาสนาอิสลาม แต่พี่ชายไม่ยอมกลับประเทศจีน จึงได้ผูกคอตายที่ต้นมะม่วงหิมพานต์ ลิ้มโต๊ะเคี่ยมจึงฝังศพลิ้มกอเหนี่ยวไว้ที่นี่ ต่อมาชาวปัตตานีได้นำต้นไม้ที่ลิ้มกอเหนี่ยวผูกคอตายมาแกะสลักเป็นรูปบูชาและสร้างศาลเจ้าแห่งนี้ขึ้น ( ที่มา : จากเพจจังหวัดปัตตานี)

ระหว่างขี่กลับท่ามกลางแดด ก็แวะซื้อของกินรายทางค่ะ ไก่กอและ ไอศกรีม น้ำมะพร้าว กินเป็นอาหารกลางวันเบาๆ แล้วกลับไปพักแอร์ที่โรงแรมค่ะ ตอนเย็นเราจะไป หาดรูสะมิแลกัน เพราะน้องที่โรงแรมบอกว่า แถวหาดจะมีร้านอาหารทะเลสดๆขาย แถมมีงานข้างๆมีของขายเยอะเลย แนะนำให้ไปเที่ยว

เกือบ 5 โมงค่ะ แดดอ่อนแล้ว ช่วงเที่ยง บ่าย นี่เขาแรงจริงๆ ดีว่าเรา 2 คน เป็นพวกถึกทน คนอึด เลยไม่มีใครเป็นอะไร

ขี่จากโรงแรมออกมา เจอแยกก็เลี้ยวผ่านสนามกีฬาปัตตานี (แม่เปป เริ่มรู้ทางในตัวเมืองปัตตานีแล้วค่ะ ครั้งหน้ามาอีกก็ลุยได้สบายมาก) ขี่ไปยาวๆ เส้นทางที่เราขี่ไป มอเตอร์ไซค์ก็เยอะมากค่ะ แล้วก็เลี้ยวซ้าย ขวา ตีโค้ง ขับตรง อะไรๆ ก็ยังมีมอเตอร์ไซค์ทางเดียวกับเราเยอะ จนมาถึงหาดค่ะ เลยได้รู้ว่ามอเตอร์ไซค์ที่เราเห็นๆ ส่วนใหญ่มางานเดียวกับเรานี่ละ

เพิ่งเคยเห็นเรือกอและของจริงด้วยตานี่ละค่ะ




บรรยากาศที่หาดรูสะมิแลยามเย็น บรรยากาศช่างโรแมนติกมากๆ เคลิ้มเลยค่ะ

ไม่ได้ตั้งใจถ่ายคนอื่นเลยค่ะ แต่เลี่ยงไม่ได้จริงๆ บรรยากาศแบบนี้ พระอาทิตย์กำลังจะตกที่ทะเล เสียงน้ำทะเลกระทบโขดหิน ลมพัดมาเย็นสบาย


ต้องสะกิดตัวเองให้ตื่นจากความฝัน แล้วเจอความเป็นจริง อาหารรออยู่ตรงหน้ามากมาย เราซื้อไก่ฆอและกับข้าวเหนียว เดินไปกินไป เจอข้าวยำก็ซื้อมาแบ่งกินกัน เจออะไรก็ซื้อมาแค่เล็กน้อย เพราะหลายอย่างมาก รวมๆกันแล้วเต็มพุงเหมือนกันนะ หิวน้ำก็ซื้อน้ำผลไม้ปั่นแถวนั้น มีอาหารขายมากมาย คนก็เดินซื้อกันแบบเราละ สรุปเราไม่ได้กินอาหารทะเลที่อยู่ในร้านเลย เดินซื้อในงานกินก็อร่อยแถมได้บรรยากาศริมทะเลสวยๆอีก ไม่เหลือพุงไว้กินอย่างอื่นอีกแล้ว

เดินไปก็เจอขนมโบราณหรือขนมพื้นบ้านของชาวไทยมุสลิม คนเข้าคิวซื้อเยอะ เราก็ไม่พลาดค่ะ ซื้อมาด้วยความอยากลอง แต่เสียดายมากที่ไม่ได้ลองกินตรงนั้น กลับไปถึงที่พักแล้วถึงรู้ ว่าอร่อยมากกก อยากกลับไปซื้ออีกเลย

ถ้าใครมีโอกาสไปแถว จังหวัดชายแดนภาคใต้ ลองเลยค่ะ อร่อยจริงๆนะ แป้งเขานิ่ม เหนียว มีเหมือนสังขยาไข่ผสมอยู่ด้วย อร่อยจริงๆค่ะ

เจอขนมคล้ายบ้าบิ่นภาคกลางค่ะ ก็ไม่พลาดอีกเช่นกัน เห็นคนรอคิว แสดงว่าอร่อย เราก็เข้าคิวรอด้วยเหมือนกัน

เขามี 2 สีในกล่องเดียว  อร่อยอีกแล้ว

แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่