ทำขนมส่งข้ามทวีป ก็ต้องใช้ความคิดนะคะว่าจะทำขนมอะไรดี ที่ใช้เวลาการขนส่งจากไทยไปอังกฤษ เกินกว่า 2 วันขึ้นไป แล้วถึงมือคนรับแบบยังไม่หมดอายุ ยังกินได้ แล้วต้องคิดเพิ่มอีก ว่าจะทำยังไงให้ขนมไม่แตกหัก ยังคงเป็นรูปร่างสวยๆ
แม่เปป ใช้เวลาคิด 2 วันเต็มๆ แล้วก็มาออกที่เมนูนี้ค่ะ Biscotti บิสคอตติ หรือ บิสกอตตี จะเรียกชื่อไหนก็ได้ค่ะ เพราะเป็นภาษาอิตาลี เราคนไทยเรียกเพี้ยนจากเจ้าของภาษาไปบ้างก็ไม่แปลก
หลังจากผ่าตัดเข่า พ่อบ้านก็กลับไปทำงานค่ะ เช้าก่อนออกบ้านก็ต้องกินชา ขนมปังปิ้ง เป็นอาหารเช้าสไตล์เขาละ บางวันเผลอตื่นสาย ก็ดื่มชาได้แก้วเดียวต้องรีบออก ไปรวมกินอาหารเช้ากลางวันทีเดียว เวลากลับมาไทยแล้วบินกลับอังกฤษ เขาก็จะถือขนมพวกคุกกี้ต่างๆ ที่แม่เปปทำให้ไว้ไปกินด้วยตัวเองค่ะ แต่ครั้งนี้ มีคนรู้จักจะไปอังกฤษ ก็อาสารับฝากขนมไปถึงอังกฤษให้ แต่ไปคนละเมือง ก็จะต้องนำส่งจากสนามบินต่อไปลอนดอน โดยใช้ Royal Mail ช่วงที่จากไทยไปอังกฤษไม่ห่วงค่ะ คนรับดูแลให้อย่างดี แต่ช่วงส่งพัสดุในอังกฤษนี่ละ ที่เกรงของจะไม่คงรูปร่างเดิม

Biscotti นี้เจ้าตัวชอบมากค่ะ ไม่ใช่คุกกี้นุ่มนิ่ม กรุบกรอบ สไตล์แบบคนไทยใดๆ คุกกี้นี้จะไม่ค่อยหวาน ค่อนข้างแข็ง แห้ง เพราะต้องผ่านการอบ ถึง 2 รอบ เพื่อให้เก็บรักษาไว้ได้นานกว่าคุกกี้ปกติ เวลากินก็ใช้จุ่มในแก้วเครื่องดื่มร้อนๆ พวก ชา กาแฟ โกโก้ เขาจะก็ไม่นิ่มละลายเละไปกับของเหลวเช่นคุกกี้ปกติ แถมตัวคุกกี้นี้ยังช่วยดูดซับรสชาติเครื่องดื่มได้ดียิ่งขึ้นอีกด้วย พอใส่ปากก็จะได้ทั้งรสของคุกกี้และเครื่องดื่มสุดโปรด แถมเปลี่ยนจาก แห้งๆ แข็งๆ เป็นนุ่มกำลังดี อร่อยสุดๆ ไปเลย ช่วงกลับมาบ้านก็จะบอกให้แม่เปป ทำให้บ่อยเลยค่ะ หลากหลายรสชาติ ก็ดัดแปลง พลิกแพลง ใส่อะไรต่ออะไรตามแต่ใจคนทำอยากใส่ 55 แต่คนกินก็ชอบนะคะ

คนไกลบ้าน บอกขอรสช็อกโกแลตมากๆหน่อยนะ

เป็นท่อนแบนๆ ใหญ่ๆ แตกระแหงเหมือนขอนไม้แห้งๆ คือผ่านการอบรอบแรกค่ะ เขาจะแตกระแหงแบบนี้ละ แล้วเราก็นำออกมาพักไว้ให้เย็นตัวลงหน่อย หรือจะปล่อยทิ้งไว้ 1-2 ชม. ไปเลยก็ได้ค่ะ อัลมอนด์ใส่ทั้งเม็ดนะคะ ตอนตัดเขาก็ตัดง่ายไม่ยาก แถมกินแล้วได้รสชาติอัลมอนด์เต็มคำดี

แล้วก็มาตัดด้วยมีดคมๆค่ะ ถ้าเราตัดตอนร้อนๆ เขาจะยังไม่เซตตัว ตัดแล้วจะแตกเป็นเศษเล็กๆ น้อยๆ ไม่ได้รูปทรง ตัดตามขวางเฉียงนิดๆ รูปร่างที่ตัดก็จะหัวท้ายทรงรีๆ นิดๆ หลังจากตัดแล้วก็นำเขาเรียงใส่ถาด เข้าอบอีก เป็นครั้งที่ 2 ค่ะ
ช็อกโกแลตที่ใส่ควรเป็นช็อกโกแลตชิพ เลือกยี่ห้อที่เปอร์เซ็นต์โกโก้เยอะหน่อยนะคะ อบเสร็จเขาก็ยังเห็นเป็นรูปอยู่ ไม่ละลายหายไปกับคุกกี้ กินแล้วอร่อยกว่า พวกปริมาณโกโก้น้อยน้ำตาลเยอะ กินเองทำให้อร่อยไปเลยดีกว่าค่ะ

ทำรสปกติ ก็ใส่อัลมอนด์เหมือนกัน แต่เพิ่มผลไม้แห้ง พวกเชอรี่ แครนเบอรี่ ลูกเกด สตอเบอรี่ ใส่พวกผลไม้แห้งที่ไม่มีน้ำออกมาระหว่างอบนั่นละ

แม่เปปทำหลายถาดมาก ไหนๆทำแล้ว ก็ทำเยอะๆให้ไปเลย ใครสนใจอยากทำก็ตามสูตรข้างล่างได้เลยค่ะ แต่บอกก่อนว่าจะต่างจากคุกกี้ที่คนไทยชอบ
ส่วนผสม (1 สูตร ได้ 1 แท่ง แต่นำมาตัดแล้วได้หลายชิ้นอยู่นะคะ)
1. ไข่ไก่ 1 ฟอง
2. แป้งสาลีอเนกประสงค์ 140 กรัม
3. เนยจืด ประมาณ 2 ชต. ถ้าใช้เนยเค็มก็ให้ลดเกลือลงนะคะ
4. น้ำตาลทราย 4 ชต. เพิ่ม ได้นะคะถ้าชอบหวาน แต่คุกกี้ชนิดนี้เขาจะไม่ค่อยหวานค่ะ
5. กลิ่นวานิลา 1 ชช.
6. ผงฟู 1/2 ชช.
7. เกลือ 1/2 ชช.
8. อัลมอนด์ พิตาชิโอ วอลนัท 1/2 ถ้วย (ชอบอะไรใส่ตามชอบค่ะ)
9. แครนเบอรี่อบแห้ง เชอร์รี่อบแห้ง ลูกเกด 1/4 ถ้วย(ใส่ตามชอบค่ะ )
วิธีทำ
1. ในชามผสม ใส่ไข่ น้ำตาล กลิ่นวนิลา ใช้ตะกร้อมือ หรือเครื่องตีไข่ไฟฟ้าก็ได้ ตีส่วนผสมและน้ำตาลให้ละลาย ตีจนไข่ขึ้นฟู ขาวนวล และข้นขึ้น
2. ใส่แป้งที่ร่อนแล้ว เกลือ ผงฟู ลงไป ใช้ไม้พายช่วยผสมให้เข้ากัน แล้วก็ใส่เนยสดลงไป ผสมให้เข้ากันไม่ต้องนานเหมือนการผสมเค้ก ลักษณะแป้งที่
ได้จะค่อนข้างแห้งๆ ยังมีนวลแป้งสีขาวๆติดอยู่บ้าง
3. ใส่อัลมอนด์ทั้งเม็ด แครนเบอร์รี่ เชอรี่ ลูกเกด ส่วนผสมผลไม้หรือถั่วต่างๆ ตามชอบ ลงไปค่ะ (ถ้าต้องการทำรสช็อคโกแลต ให้ลดแป้งขาว และเพิ่มผง
โกโก้ ในปริมาณ 30 กรัมลงไปแทน และใส่ช็อคโกแลตชิดลงไป 1/2 ถ้วย หรือมากกว่านั้นตามชอบ ควรใช้ช็อคโกแลตที่ เปอร์เซ็นต์โกโก้ค่อนข้างสูง จะ
อร่อยเข้มข้นมากกว่า ใช้แบบเปอร์เซ็นต์โกโก้น้อยซึ่งจะมีรสหวานจากน้ำตาลมากค่ะ)
4. แล้วก็เทส่วนผสมทั้งหมดลงบนโต๊ะ ใช้มือ 2 ข้าง ช่วยกดส่วนผสมให้เข้ากับเนื้อแป้ง ไม่ได้นวดแป้งนะคะ แค่กดให้ส่วนผสมทั้งหมด รวมจับตัวกันพอได้
แค่นั้น ไม่ต้องกดแรง และไม่ต้องนาน เห็นผงแป้งยังมีก็ไม่เป็นไร
5. ใช้ฝ่ามือตะล่อมแป้งและส่วนผสมจัดให้เป็นรูปสี่เหลี่ยมผืนผ้าค่อนข้างยาว กดให้แบนสักเล็กน้อย แต่อย่าแบนมากไป ใช้ฝ่ามือตบเบาๆ จัดรูปด้านข้าง
ด้านบน หัว ท้าย ให้สวยงาม แล้วนำวางลงในถาดอบ ควรวางกระดาษไขรองอบไว้ด้วย เพื่ออบเสร็จ จะได้แกะออกง่าย
6. นำเข้าเตาอบ รอบแรก 180° C. เวลา 25 นาที
7. ครบเวลานำออกมา พักให้อุ่นๆ สัก 30 นาที หรือมากกว่านั้นได้ แล้วตัดเขาด้วยมีดคมๆ เป็นชิ้น อย่าตัดบางเกินไป
8. นำคุกกี้ที่ตัดเป็นชิ้นเรียบร้อยแล้ว วางเรียงในถาดชิดกันได้ แต่เว้นช่องไฟระหว่างชิ้นสักเล็กน้อย เข้าอบรอบที่สอง ไฟเท่าเดิม 8- 10 นาที
9. ครบเวลา นำออกมาพักให้เย็น ช่วงที่ออกมาเขายังนิ่มเพราะความร้อนจากเตาอบ อย่าเพิ่งเคลื่อนย้าย จะแตกหักง่าย รอเย็นตัวลงสักนิดก่อน แล้วค่อย
หยิบเขาออกมาจากถาดนะคะ ใส่ภาชนะเก็บปิดฝาสนิทไว้กินนานๆ

บางถาดก็ใส่แค่อัลมอนด์และลูกเกดเท่านั้น ไม่เพิ่มผลไม้แห้ง ทำไปให้หลากหลายแบบ คนกินเลือกตามชอบได้เลย ที่สำคัญพ่อบ้านเป็นคนไม่ชอบกินน้ำตาล ไม่ยอมกินหวานเลยค่ะ คุกกี้นี้ตอบโจทย์ได้ดีเลย

แล้วก็จับแต่งตัว ไปหาถุงใส่คุกกี้สวยๆ ที่ซีลได้ ใส่แยกไป ถุงละชิ้น เป็นการช่วยลดแรงกระแทกระหว่างตอนเดินทางได้บ้าง แถมสะดวกคนหยิบกิน วางตรงไหนก็ได้ ไม่ต้องหาขวดโหลใส่ ด้วยค่ะ

วันไหนเผลอตื่นสาย ก็คว้าขนมในถุงติดตัวไปกินระหว่างทางได้สบาย แถมใส่ถุงซีล กันมด กันแมลง ป้องกันความชื้นได้อย่างดีเลย

แล้วน้องคุกกี้ Biscotti ก็เดินทางจากเมืองไทย ข้ามน้ำข้ามทะเล ไปถึงมือคนรับเรียบร้อยแล้วละค่ะ

ถ่ายรูปเป็นหลักฐานส่งมาให้ดูด้วยค่ะ แม่เปป ทำส่งไป 5 ห่อ ใหญ่ๆ ให้ไว้กินได้นานๆเลย 😊

บอกหยิบกินกับชาตอนเช้า หรือตอนไหนๆ สะดวกมากๆ 😋

ซื้อเขาก็ไม่อร่อยเท่า คนทำ ทำด้วยใจให้อย่างแท้จริงเลยนะเนี่ย

Biscotti คุกกี้สัญชาติอิตาเลียน แต่คนอังกฤษกิน 😋
แม่เปป ใช้เวลาคิด 2 วันเต็มๆ แล้วก็มาออกที่เมนูนี้ค่ะ Biscotti บิสคอตติ หรือ บิสกอตตี จะเรียกชื่อไหนก็ได้ค่ะ เพราะเป็นภาษาอิตาลี เราคนไทยเรียกเพี้ยนจากเจ้าของภาษาไปบ้างก็ไม่แปลก
หลังจากผ่าตัดเข่า พ่อบ้านก็กลับไปทำงานค่ะ เช้าก่อนออกบ้านก็ต้องกินชา ขนมปังปิ้ง เป็นอาหารเช้าสไตล์เขาละ บางวันเผลอตื่นสาย ก็ดื่มชาได้แก้วเดียวต้องรีบออก ไปรวมกินอาหารเช้ากลางวันทีเดียว เวลากลับมาไทยแล้วบินกลับอังกฤษ เขาก็จะถือขนมพวกคุกกี้ต่างๆ ที่แม่เปปทำให้ไว้ไปกินด้วยตัวเองค่ะ แต่ครั้งนี้ มีคนรู้จักจะไปอังกฤษ ก็อาสารับฝากขนมไปถึงอังกฤษให้ แต่ไปคนละเมือง ก็จะต้องนำส่งจากสนามบินต่อไปลอนดอน โดยใช้ Royal Mail ช่วงที่จากไทยไปอังกฤษไม่ห่วงค่ะ คนรับดูแลให้อย่างดี แต่ช่วงส่งพัสดุในอังกฤษนี่ละ ที่เกรงของจะไม่คงรูปร่างเดิม
Biscotti นี้เจ้าตัวชอบมากค่ะ ไม่ใช่คุกกี้นุ่มนิ่ม กรุบกรอบ สไตล์แบบคนไทยใดๆ คุกกี้นี้จะไม่ค่อยหวาน ค่อนข้างแข็ง แห้ง เพราะต้องผ่านการอบ ถึง 2 รอบ เพื่อให้เก็บรักษาไว้ได้นานกว่าคุกกี้ปกติ เวลากินก็ใช้จุ่มในแก้วเครื่องดื่มร้อนๆ พวก ชา กาแฟ โกโก้ เขาจะก็ไม่นิ่มละลายเละไปกับของเหลวเช่นคุกกี้ปกติ แถมตัวคุกกี้นี้ยังช่วยดูดซับรสชาติเครื่องดื่มได้ดียิ่งขึ้นอีกด้วย พอใส่ปากก็จะได้ทั้งรสของคุกกี้และเครื่องดื่มสุดโปรด แถมเปลี่ยนจาก แห้งๆ แข็งๆ เป็นนุ่มกำลังดี อร่อยสุดๆ ไปเลย ช่วงกลับมาบ้านก็จะบอกให้แม่เปป ทำให้บ่อยเลยค่ะ หลากหลายรสชาติ ก็ดัดแปลง พลิกแพลง ใส่อะไรต่ออะไรตามแต่ใจคนทำอยากใส่ 55 แต่คนกินก็ชอบนะคะ
คนไกลบ้าน บอกขอรสช็อกโกแลตมากๆหน่อยนะ
เป็นท่อนแบนๆ ใหญ่ๆ แตกระแหงเหมือนขอนไม้แห้งๆ คือผ่านการอบรอบแรกค่ะ เขาจะแตกระแหงแบบนี้ละ แล้วเราก็นำออกมาพักไว้ให้เย็นตัวลงหน่อย หรือจะปล่อยทิ้งไว้ 1-2 ชม. ไปเลยก็ได้ค่ะ อัลมอนด์ใส่ทั้งเม็ดนะคะ ตอนตัดเขาก็ตัดง่ายไม่ยาก แถมกินแล้วได้รสชาติอัลมอนด์เต็มคำดี
แล้วก็มาตัดด้วยมีดคมๆค่ะ ถ้าเราตัดตอนร้อนๆ เขาจะยังไม่เซตตัว ตัดแล้วจะแตกเป็นเศษเล็กๆ น้อยๆ ไม่ได้รูปทรง ตัดตามขวางเฉียงนิดๆ รูปร่างที่ตัดก็จะหัวท้ายทรงรีๆ นิดๆ หลังจากตัดแล้วก็นำเขาเรียงใส่ถาด เข้าอบอีก เป็นครั้งที่ 2 ค่ะ
ช็อกโกแลตที่ใส่ควรเป็นช็อกโกแลตชิพ เลือกยี่ห้อที่เปอร์เซ็นต์โกโก้เยอะหน่อยนะคะ อบเสร็จเขาก็ยังเห็นเป็นรูปอยู่ ไม่ละลายหายไปกับคุกกี้ กินแล้วอร่อยกว่า พวกปริมาณโกโก้น้อยน้ำตาลเยอะ กินเองทำให้อร่อยไปเลยดีกว่าค่ะ
ทำรสปกติ ก็ใส่อัลมอนด์เหมือนกัน แต่เพิ่มผลไม้แห้ง พวกเชอรี่ แครนเบอรี่ ลูกเกด สตอเบอรี่ ใส่พวกผลไม้แห้งที่ไม่มีน้ำออกมาระหว่างอบนั่นละ
แม่เปปทำหลายถาดมาก ไหนๆทำแล้ว ก็ทำเยอะๆให้ไปเลย ใครสนใจอยากทำก็ตามสูตรข้างล่างได้เลยค่ะ แต่บอกก่อนว่าจะต่างจากคุกกี้ที่คนไทยชอบ
บางถาดก็ใส่แค่อัลมอนด์และลูกเกดเท่านั้น ไม่เพิ่มผลไม้แห้ง ทำไปให้หลากหลายแบบ คนกินเลือกตามชอบได้เลย ที่สำคัญพ่อบ้านเป็นคนไม่ชอบกินน้ำตาล ไม่ยอมกินหวานเลยค่ะ คุกกี้นี้ตอบโจทย์ได้ดีเลย
แล้วก็จับแต่งตัว ไปหาถุงใส่คุกกี้สวยๆ ที่ซีลได้ ใส่แยกไป ถุงละชิ้น เป็นการช่วยลดแรงกระแทกระหว่างตอนเดินทางได้บ้าง แถมสะดวกคนหยิบกิน วางตรงไหนก็ได้ ไม่ต้องหาขวดโหลใส่ ด้วยค่ะ
วันไหนเผลอตื่นสาย ก็คว้าขนมในถุงติดตัวไปกินระหว่างทางได้สบาย แถมใส่ถุงซีล กันมด กันแมลง ป้องกันความชื้นได้อย่างดีเลย
แล้วน้องคุกกี้ Biscotti ก็เดินทางจากเมืองไทย ข้ามน้ำข้ามทะเล ไปถึงมือคนรับเรียบร้อยแล้วละค่ะ
ถ่ายรูปเป็นหลักฐานส่งมาให้ดูด้วยค่ะ แม่เปป ทำส่งไป 5 ห่อ ใหญ่ๆ ให้ไว้กินได้นานๆเลย 😊
บอกหยิบกินกับชาตอนเช้า หรือตอนไหนๆ สะดวกมากๆ 😋
ซื้อเขาก็ไม่อร่อยเท่า คนทำ ทำด้วยใจให้อย่างแท้จริงเลยนะเนี่ย