😷ในช่วงวัยกลางคนจนถึงวัยสูงอายุ ผู้ชายจำนวนไม่น้อยต้องเผชิญกับปัญหาการปัสสาวะผิดปกติ เช่น
ปัสสาวะขัด ปัสสาวะบ่อย ปัสสาวะไม่พุ่ง หรือแม้กระทั่งต้องลุกเข้าห้องน้ำบ่อยในตอนกลางคืน อาการเหล่านี้อาจดูเหมือนไม่รุนแรงในช่วงแรก แต่หากปล่อยไว้โดยไม่รักษา อาจส่งผลกระทบต่อคุณภาพชีวิตในระยะยาว และหนึ่งในสาเหตุที่พบได้บ่อยคือ
“โรคต่อมลูกหมากโต”
📍โรคต่อมลูกหมากโตคืออะไร?
โรคต่อมลูกหมากโต (Benign Prostatic Hyperplasia – BPH) เป็นภาวะที่ต่อมลูกหมากของผู้ชายมีขนาดใหญ่ขึ้นผิดปกติ ซึ่งต่อมลูกหมากจะอยู่ใต้กระเพาะปัสสาวะและล้อมรอบท่อปัสสาวะ เมื่อขยายใหญ่ขึ้น จะกดทับท่อปัสสาวะ ทำให้เกิดปัญหาในการปัสสาวะ เช่น ปัสสาวะขัด ปัสสาวะไม่พุ่ง หรือปัสสาวะบ่อย โดยโรคนี้ ไม่ใช่มะเร็งและไม่พัฒนาเป็นมะเร็ง แต่สามารถส่งผลกระทบต่อคุณภาพชีวิตได้มาก
📍 สาเหตุและปัจจัยเสี่ยง
⚠️ อายุ: ผู้ชายอายุมากกว่า 50 ปีขึ้นไปมีความเสี่ยงสูง โดยพบมากกว่า 50% ในผู้ชายอายุ 60 ปี และมากถึง 80% ในช่วงอายุ 70 ปีขึ้นไป
⚠️ การเปลี่ยนแปลงของฮอร์โมนเพศชาย ที่เกิดขึ้นตามวัย
📍 อาการของต่อมลูกหมากโต แบ่งออกเป็น 2 กลุ่มหลัก
😖 1. อาการเกี่ยวกับการเก็บปัสสาวะ
🚫 ปัสสาวะบ่อย
🚫 ปวดปัสสาวะทันทีทันใด
🚫 ปัสสาวะบ่อยตอนกลางคืน
😖 2. อาการเกี่ยวกับการขับถ่ายปัสสาวะ
🚫 ปัสสาวะหยดหรือปัสสาวะเป็นเลือด
🚫 ปัสสาวะไม่สุด หรือไม่สามารถปัสสาวะได้เลย
💢 หากปล่อยทิ้งไว้อาจนำไปสู่ การติดเชื้อทางเดินปัสสาวะ นิ่วในกระเพาะปัสสาวะ หรือภาวะไตเสื่อม ได้
🤢 การวินิจฉัยโรค แพทย์จะตรวจสอบโดยใช้หลายวิธีร่วมกัน เช่น
⚠️ การซักประวัติและตรวจร่างกาย
⚠️ ตรวจปัสสาวะ
⚠️ ตรวจเลือดเพื่อหาค่า PSA (Prostate-Specific Antigen)
⚠️ ตรวจคลื่นเสียงผ่านทางทวารหนัก (TRUS)
⚠️ ตรวจอัตราการไหลของปัสสาวะ (Uroflowmetry)
⚠️ ตรวจปริมาณปัสสาวะคงค้างหลังการถ่าย
👉 แนวทางการรักษาโรคต่อมลูกหมากโต จะขึ้นอยู่กับระดับความรุนแรงของอาการ และผลกระทบต่อการใช้ชีวิตประจำวันของผู้ป่วย ดังนี้
✅ รักษาโดยการปรับพฤติกรรม สำหรับผู้ที่อาการไม่รุนแรง แพทย์อาจแนะนำให้
✨ ลดการดื่มน้ำก่อนนอน
✨ หลีกเลี่ยงเครื่องดื่มแอลกอฮอล์และคาเฟอีน
✨ จัดการความเครียด
✅ รักษาโดยการรับประทานยา มียาหลัก ๆ 2 กลุ่ม ได้แก่
✨ ยากลุ่มที่ช่วยผ่อนคลายกล้ามเนื้อรอบท่อปัสสาวะ (α-blocker)
✨ ยากลุ่มที่ช่วยลดขนาดต่อมลูกหมาก (5-ARI)
ทั้งนี้ยามีประสิทธิภาพดีในหลายกรณี แต่ต้องใช้ต่อเนื่องและอาจมีผลข้างเคียง เช่น ความดันโลหิตต่ำ อ่อนเพลีย หรือภาวะหลั่งน้ำอสุจิผิดปกติ
✅ การผ่าตัด
ในกรณีที่ยาไม่ได้ผล หรือขนาดต่อมลูกหมากใหญ่จนปัสสาวะลำบาก แพทย์อาจแนะนำ การผ่าตัดส่องกล้องผ่านท่อปัสสาวะเพื่อตัดชิ้นเนื้อต่อมลูกหมากออก แม้จะได้ผลดี แต่มีข้อเสียที่ต้องคำนึงถึง เช่น ความเสี่ยงจากการดมยาสลบ ความเสี่ยงจากการติดเชื้อ และผลข้างเคียงด้านสมรรถภาพทางเพศซึ่งอาจมีผลกระทบต่อการหลั่งน้ำอสุจิในบางราย
✅ การรักษาแบบไม่ผ่าตัด : เทคนิค PAE (Prostatic Artery Embolization)
🩷
หนึ่งในวิธีที่ทันสมัยและปลอดภัย คือ การรักษาด้วยเทคนิค PAE ซึ่งเป็นหัตถการทางรังสีร่วมรักษา โดยแพทย์จะสอดสายสวนขนาดเล็กผ่านหลอดเลือดที่ขาหนีบหรือข้อมือ ฉีดสารอุดหลอดเลือดที่ไปเลี้ยงต่อมลูกหมาก ทำให้ต่อมลูกหมากค่อย ๆ หดตัวลงภายใน 1–3 เดือน และอาการดีขึ้นชัดเจนในช่วง 5–6 เดือนหลังทำ
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้📣 ข้อดีของการรักษาด้วยวิธี PAE
✅ ไม่ต้องผ่าตัดใหญ่
✅ ไม่มีแผล ฟื้นตัวเร็ว
✅ ผลกระทบต่อสมรรถภาพทางเพศน้อย
✅ กลับบ้านได้ภายในวันเดียว
✅ ผู้ป่วยกว่า 75–80% มีอาการดีขึ้น เช่น ปัสสาวะคล่องขึ้น ลดอาการปัสสาวะบ่อยและปวดขัดได้อย่างมีประสิทธิภาพ
📍 แม้ว่าโรคต่อมลูกหมากโตจะไม่ใช่โรคร้ายแรง แต่หากละเลยอาจส่งผลกระทบต่อชีวิตประจำวันและทำให้เกิดภาวะแทรกซ้อน ดังนั้น หากเริ่มมีอาการผิดปกติเกี่ยวกับการปัสสาวะ การเข้าพบแพทย์เพื่อตรวจและรับการรักษาที่เหมาะสมเป็นสิ่งสำคัญที่สุด
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้สอบถามเพิ่มเติม
โทร. 02-734-0000
ปัสสาวะติดขัด สัญญาณ "ต่อมลูกหมากโต" โรคใกล้ตัวผู้ชายที่ไม่ควรมองข้าม
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้