ปลาถือเป็นอาหารคุ้นเคยในมื้ออาหารของหลายครอบครัว อุดมไปด้วยสารอาหารจำเป็น เช่น โปรตีน กรดไขมันโอเมก้า-3 วิตามิน และแร่ธาตุ จึงถูกผู้เชี่ยวชาญด้านโภชนาการแนะนำให้รับประทานเป็นประจำราว 2 ครั้งต่อสัปดาห์ เพื่อเสริมสุขภาพ
อย่างไรก็ตาม ไม่ใช่ปลาทุกชนิดจะปลอดภัย เพราะบางชนิดเสื่อมคุณภาพหรือมีเชื้อโรคแฝงอยู่ ซึ่งอาจก่ออันตรายได้ พ่อค้าปลารายหนึ่งเปิดเผยกับสื่อ Sohu (จีน) ว่า “ปลาที่ต่อให้ให้ฟรีก็ไม่ควรเอา มีอยู่ 4 ประเภทที่คนไม่รู้เท่านั้นที่ซื้อไปกิน”
4 ชนิดปลาที่ไม่ควรซื้อ
1. ป้าที่มีท้องพองผิดปกติ : หากเห็นปลาตายแล้วท้องบวม แสดงว่าปลาตายมานาน ทำให้แบคทีเรียแพร่พันธุ์และเกิดการย่อยสลาย สร้างสารฮีสตามีนซึ่งทนความร้อนได้ แม้ปรุงสุกก็ยังทำให้เกิดพิษ อาจมีอาการปวดหัว อาเจียน ผื่นคัน หรือท้องเสีย
2. ป้าที่ถูกแช่แข็งนานเกินไป : ปลาที่เนื้อแข็งเป็นน้ำแข็งสีขาวซีด มักไม่สด เนื้อเละ และคุณค่าทางโภชนาการลดลง นอกจากนี้ยังเสี่ยงปนเปื้อนสารกันเสียที่ผู้ขายอาจใส่เพิ่ม ซึ่งก่อให้เกิดพิษอาหารได้
3. ป้าที่มีกลิ่นผิดปกติ : ปลาสดควรมีกลิ่นคาวธรรมชาติ หากมีกลิ่นฉุนแรง แสดงว่าปลาอาจโตในน้ำเสียจากโรงงาน ซึ่งมีโลหะหนักปนเปื้อน หากกินเข้าไปอาจสะสมสารพิษในร่างกายและก่ออันตรายต่อสุขภาพ
4. ป้าที่ถุงน้ำดีแตก : น้ำดีของปลามีพิษร้ายแรงเหมือนสารหนู มีทั้งกรดน้ำดี กรดไซยานไฮดริก โซเดียมไซพรีนิดซัลเฟต ฮีสตามีน และสารพิษอื่น ๆ หากถุงน้ำดีแตก สารพิษเหล่านี้จะซึมเข้าเนื้อปลา กินแล้วเสี่ยงต่อพิษ ทำลายตับ ไต และอวัยวะภายใน
https://www.sanook.com/news/9837626/
ปลา 4 ชนิด ถึงให้ฟรีก็ไม่เอา พ่อค้าปลาเตือนเอง ซื้อไปเหมือนเอายาพิษกลับบ้าน