ปลา 4 ชนิดที่แนะนำให้เลิกกิน

แม้ปลาเป็นอาหารสุขภาพที่อุดมไปด้วยไขมันดีและกรดไขมันโอเมก้า-3 ซึ่งมีส่วนช่วยส่งเสริมการทำงานของหัวใจ สมอง และชะลอความเสื่อมของร่างกาย อีกทั้งงานวิจัยยังพบว่าคนที่บริโภคปลาสม่ำเสมอมักมีอายุยืนขึ้น แต่ไม่ใช่ปลาทุกชนิดที่จะปลอดภัยต่อการรับประทาน เพราะปลาบางประเภทอาจสะสมโลหะหนัก หรือผ่านการเลี้ยงและแปรรูปด้วยวิธีที่เป็นอันตรายได้เช่นกัน

ปลาที่ควรระวัง

     1.ปลาขนาดใหญ่ เสี่ยงสะสมปรอทสูง
ปลาที่อยู่บนสุดของห่วงโซ่อาหาร เช่น ปลากระโทง ปลาทูน่าขนาดใหญ่ และปลาฉลาม มักสะสมโลหะหนักอย่างปรอทในระดับสูง ซึ่งส่งผลต่อระบบประสาท โดยเฉพาะหญิงตั้งครรภ์และเด็กเล็กควรหลีกเลี่ยง

     2.ปลาที่ไม่สด เสี่ยงสารพิษฮีสตามีน
ปลาอย่างปลาทูญี่ปุ่นหรือปลาทะเลบางชนิดที่ถูกเก็บไว้นานหรือแช่เย็นไม่ถูกวิธี อาจเกิดสารฮีสตามีน ทำให้เกิดอาการหน้าแดง ใจสั่น หรือรุนแรงจนต้องเข้ารักษาโรงพยาบาล ควรเลือกปลาที่เนื้อแน่น ตาใส ไม่มีกลิ่นผิดปกติจากธรรมชาติของปลา

     3.ปลาที่เลี้ยงด้วยสารเร่งและยาปฏิชีวนะ
ปลาน้ำจืดบางชนิดในบ่อที่มีความหนาแน่นสูงอาจได้รับยาปฏิชีวนะและอาหารเร่งโต สังเกตได้จากเนื้อยุ่ยผิดปกติ หรือรูปร่างอ้วนบวม เช่น ปลาบึกและปลาสวาย ผู้บริโภคควรเลือกซื้อจากแหล่งผลิตที่มีใบรับรองคุณภาพ

     4.ปลาผ่านการแปรรูปแบบเสี่ยงสารก่อมะเร็ง
ปลาแห้งหรือปลาดองเกลือที่เก็บไว้นานมีโอกาสเกิดสารไนโตรซามีน ซึ่งองค์การอนามัยโลกจัดเป็นสารก่อมะเร็ง ควรเลือกผลิตภัณฑ์ที่ผ่านการอบหรือตากด้วยวิธีที่ได้มาตรฐานแทน
   
     ตัวเลือกปลาที่ดีและคุ้มค่า
ปลาขนาดเล็กอย่างปลาซาร์ดีน ปลาทู และปลากะตัก เป็นทางเลือกที่ดี ราคาเข้าถึงง่าย กินได้ทั้งกระดูก มีแคลเซียมสูง และยังมีกรดไขมันโอเมก้า-3 จำนวนมากไม่แพ้ปลาราคาแพง
เคล็ดลับเลือกปลาเพื่อความปลอดภัย
     เลือกปลาที่ตาใส เนื้อแน่น เด้ง ไม่ยุ่ย
     หลีกเลี่ยงปลาตัวใหญ่เกินไปหรือมีกลิ่นคาวแรงผิดปกติ
     หากเป็นปลาน้ำจืด ควรเลือกซื้อจากฟาร์มที่ได้รับการรับรอง
     ระวังผลิตภัณฑ์ปลาที่ผ่านการแปรรูปสีสวยผิดธรรมชาติ เพราะอาจมีสารเคมีปนเปื้อน
การเลือกปลาที่ดีไม่เพียงส่งผลต่อร่างกาย แต่ยังช่วยลดความเสี่ยงจากสารอันตรายที่อาจแฝงมากับอาหารในทุกมื้อได้อีกด้วย

แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่