ในสายคาทอลิก ปีศาจ = ซาตาน กับพวกมัน คือสิ่งที่นำ “บาป” และ “ความตาย” เข้ามาในโลก
ตามคัมภีร์ไบเบิล มนุษย์ดั้งเดิม (อาดัมกับเอวา) เดิมทีไม่ได้ถูกสร้างมาเพื่อทุกข์หรือเวียนตายเกิด แต่เพราะถูกปีศาจล่อลวงให้ทำผิด จึงเกิดบาป ผลของบาปก็คือความตาย ความเจ็บปวด ความแตกสลายทุกอย่าง
ดังนั้น เวลามองจากเลนส์คริสต์ บาปและความตายไม่ได้เป็นกฎจักรวาลที่เป็นกลางๆ อย่างที่พุทธอธิบาย แต่มันคือ “คำสาป” ที่ปีศาจยัดเยียดให้มนุษย์หลังจากทำผิดพระเจ้า
ถ้าโยงเข้ากับที่คุณพูดตรงๆเลย →
“การเวียนว่ายตายเกิด, กรรม, วิบากกรรม” = ผลงานของปีศาจ
ปีศาจมันเป็นคนสร้าง วงจรซ้ำๆ ที่มนุษย์ต้องเจ็บปวด ชดใช้ แก้ตัวไปเรื่อยๆไม่มีที่สิ้นสุด เป็นเครื่องมือกักขังวิญญาณให้ติดอยู่ในความทุกข์ ไม่ได้กลับไปหาพระเจ้า
พูดแบบกันเองๆหน่อยนะ 😅
พุทธบอกว่า กรรม–วิบาก–เวียนเกิด = ธรรมชาติของจักรวาล
แต่คาทอลิกอาจมองว่า นั่นแหละกับดักของซาตาน คือมันทำให้มนุษย์เชื่อว่าชีวิตต้องทุกข์ ต้องเกิดซ้ำ ต้องแบกกรรมวนๆ ไปไม่มีวันพ้น
ส่วนทางออกในคาทอลิกคือพระคริสต์นี่แหละ พระเจ้าส่งลูกของพระองค์มาเพื่อ “ทำลายวงจรบาปและความตาย” ให้มนุษย์มีโอกาสพ้นไปนิรันดร์ ไม่ต้องติดลูปอีก
ฟังแบบนี้ มันเลยเหมือนว่า
👉 ในพุทธ = วงจรเวียนว่ายตายเกิดคือกฎสูงสุดที่ทุกคนต้องยอมรับ
👉 ในคาทอลิก = วงจรนั้นเป็นฝีมือปีศาจ และพระเจ้าจะเข้ามาทำลายให้หลุดออกไป
จุดเริ่มต้นของบาปและความตาย
คัมภีร์ปฐมกาล (Genesis 3)
บันทึกว่า ซาตานปรากฏในรูปลูกงู หลอกล่อเอวาและอาดัมให้ละเมิดคำสั่งของพระเจ้า (ไม่กินผลไม้ต้องห้าม)
“เพราะเจ้ากินผลไม้นั้น เจ้าจะต้องตายแน่นอน” (ปฐมกาล 2:17)
นี่คือจุดเริ่มต้นของความตาย ความเจ็บปวด และการแยกจากพระเจ้าเข้ามาในโลก
จดหมายถึงโรม 5:12
“เหตุฉะนั้น บาปจึงเข้ามาในโลกเพราะมนุษย์คนหนึ่ง และบาปนั้นนำมาซึ่งความตาย และความตายได้แผ่ไปถึงมนุษย์ทั้งปวง เพราะมนุษย์ทั้งปวงทำบาป”
→ คริสตชนจึงเชื่อว่าความตายไม่ใช่ “ธรรมชาติ” ดั้งเดิมของมนุษย์ แต่เป็นผลของบาปที่ปีศาจล่อลวงให้ทำ
ปีศาจคือผู้ครอบงำมนุษย์ให้อยู่ในบาปและความตาย
พระวรสารยอห์น 8:44 พระเยซูตรัสกับชาวยิวบางคนว่า:
“พวกท่านมาจากบิดาของท่าน คือปีศาจ และท่านปรารถนาจะทำความปรารถนาของบิดาของท่าน เขาเป็นคนฆาตกรตั้งแต่แรก และมิได้ยึดมั่นในความจริง ... เขาเป็นผู้มุสาและเป็นบิดาแห่งความมุสา”
ฮีบรู 2:14
“พระคริสต์ทรงสิ้นพระชนม์เพื่อทำลายอำนาจของผู้ครอบครองความตาย คือปีศาจ”
→ ชัดเจนว่าคาทอลิกมองว่าปีศาจคือ “ผู้กักขังมนุษย์ไว้ในบาปและความตาย”
แนวคิดเวียนว่ายตายเกิด vs คริสต์
พุทธ: การเกิด–ดับ–เกิดซ้ำไม่สิ้นสุด เป็น “ธรรมชาติ” ทุกข์–สมุทัย–นิโรธ–มรรค
คาทอลิก: ชีวิตมนุษย์มีครั้งเดียว (ฮีบรู 9:27)
“มนุษย์ถูกกำหนดให้ตายเพียงครั้งเดียว หลังจากนั้นก็จะมีการพิพากษา”
ดังนั้น การที่มนุษย์ต้องเจ็บปวดและตาย ไม่ใช่กฎสากลที่พระเจ้าวางไว้ แต่เป็นผลจาก การล่อลวงของปีศาจ ให้ทำบาปตั้งแต่ต้น
กรรมและวิบากในมุมคาทอลิก
ในพุทธ กรรม = การกระทำ, วิบาก = ผลลัพธ์
ในคาทอลิก มีสิ่งที่คล้ายกันคือ “ผลของบาป” (consequence of sin) เช่นเดียวกับที่นักบุญเปาโลเขียนว่า:
โรม 6:23
“ค่าจ้างของบาปคือความตาย แต่ของประทานจากพระเจ้าคือชีวิตนิรันดร์ในพระเยซูคริสต์องค์พระผู้เป็นเจ้าของเรา”
ต่างตรงที่คาทอลิกไม่เห็นว่าเป็นกฎจักรวาลอัตโนมัติ แต่เป็น ผลที่ปีศาจทำให้มนุษย์ติดกับบาป และพระเจ้าเท่านั้นที่จะปลดปล่อยได้
พระคริสต์ = การปลดปล่อยจากวงจรของปีศาจ
1 ยอห์น 3:8
“พระบุตรของพระเจ้าได้ปรากฏมาเพื่อทำลายกิจการของปีศาจ”
คาทอลิกจึงเชื่อว่า พระเยซูสิ้นพระชนม์และกลับคืนชีพเพื่อปลดปล่อยมนุษย์จาก “อำนาจบาปและความตาย” ที่ปีศาจครอบงำอยู่
ไม่ใช่การ “ดับทุกข์ด้วยตนเอง” แบบพุทธ แต่เป็นการรอดพ้นด้วย พระหรรษทานจากพระเจ้า
สรุปในเชิงเปรียบเทียบ
พุทธ = กรรมและวิบากเป็น “กฎธรรมชาติ” → ทุกคนต้องวนเวียนไปเรื่อยๆ จนกว่าจะพ้นทุกข์ด้วยปัญญาของตน
คาทอลิก = กรรม วิบาก ความตาย และการเวียนวน = “ผลของบาปที่ปีศาจนำเข้ามา” → พระเจ้าส่งพระคริสต์มาเพื่อทำลายวงจรนี้
หลักฐานอ้างอิงคัมภีร์คาทอลิก
ปฐมกาล 3 (เรื่องอาดัม–เอวา และงูล่อลวง)
โรม 5:12 (บาปเข้ามาพร้อมความตาย)
ยอห์น 8:44 (ปีศาจเป็นบิดาแห่งความมุสา)
ฮีบรู 2:14 (ปีศาจครอบครองความตาย)
ฮีบรู 9:27 (มนุษย์มีชีวิตครั้งเดียว)
โรม 6:23 (ค่าจ้างของบาปคือความตาย)
1 ยอห์น 3:8 (พระคริสต์มาทำลายกิจการของปีศาจ)
“กรรม–วิบาก หรือ แผนการของปีศาจ?”
ตามคัมภีร์ไบเบิล มนุษย์ดั้งเดิม (อาดัมกับเอวา) เดิมทีไม่ได้ถูกสร้างมาเพื่อทุกข์หรือเวียนตายเกิด แต่เพราะถูกปีศาจล่อลวงให้ทำผิด จึงเกิดบาป ผลของบาปก็คือความตาย ความเจ็บปวด ความแตกสลายทุกอย่าง
ดังนั้น เวลามองจากเลนส์คริสต์ บาปและความตายไม่ได้เป็นกฎจักรวาลที่เป็นกลางๆ อย่างที่พุทธอธิบาย แต่มันคือ “คำสาป” ที่ปีศาจยัดเยียดให้มนุษย์หลังจากทำผิดพระเจ้า
ถ้าโยงเข้ากับที่คุณพูดตรงๆเลย →
“การเวียนว่ายตายเกิด, กรรม, วิบากกรรม” = ผลงานของปีศาจ
ปีศาจมันเป็นคนสร้าง วงจรซ้ำๆ ที่มนุษย์ต้องเจ็บปวด ชดใช้ แก้ตัวไปเรื่อยๆไม่มีที่สิ้นสุด เป็นเครื่องมือกักขังวิญญาณให้ติดอยู่ในความทุกข์ ไม่ได้กลับไปหาพระเจ้า
พูดแบบกันเองๆหน่อยนะ 😅
พุทธบอกว่า กรรม–วิบาก–เวียนเกิด = ธรรมชาติของจักรวาล
แต่คาทอลิกอาจมองว่า นั่นแหละกับดักของซาตาน คือมันทำให้มนุษย์เชื่อว่าชีวิตต้องทุกข์ ต้องเกิดซ้ำ ต้องแบกกรรมวนๆ ไปไม่มีวันพ้น
ส่วนทางออกในคาทอลิกคือพระคริสต์นี่แหละ พระเจ้าส่งลูกของพระองค์มาเพื่อ “ทำลายวงจรบาปและความตาย” ให้มนุษย์มีโอกาสพ้นไปนิรันดร์ ไม่ต้องติดลูปอีก
ฟังแบบนี้ มันเลยเหมือนว่า
👉 ในพุทธ = วงจรเวียนว่ายตายเกิดคือกฎสูงสุดที่ทุกคนต้องยอมรับ
👉 ในคาทอลิก = วงจรนั้นเป็นฝีมือปีศาจ และพระเจ้าจะเข้ามาทำลายให้หลุดออกไป
จุดเริ่มต้นของบาปและความตาย
คัมภีร์ปฐมกาล (Genesis 3)
บันทึกว่า ซาตานปรากฏในรูปลูกงู หลอกล่อเอวาและอาดัมให้ละเมิดคำสั่งของพระเจ้า (ไม่กินผลไม้ต้องห้าม)
“เพราะเจ้ากินผลไม้นั้น เจ้าจะต้องตายแน่นอน” (ปฐมกาล 2:17)
นี่คือจุดเริ่มต้นของความตาย ความเจ็บปวด และการแยกจากพระเจ้าเข้ามาในโลก
จดหมายถึงโรม 5:12
“เหตุฉะนั้น บาปจึงเข้ามาในโลกเพราะมนุษย์คนหนึ่ง และบาปนั้นนำมาซึ่งความตาย และความตายได้แผ่ไปถึงมนุษย์ทั้งปวง เพราะมนุษย์ทั้งปวงทำบาป”
→ คริสตชนจึงเชื่อว่าความตายไม่ใช่ “ธรรมชาติ” ดั้งเดิมของมนุษย์ แต่เป็นผลของบาปที่ปีศาจล่อลวงให้ทำ
ปีศาจคือผู้ครอบงำมนุษย์ให้อยู่ในบาปและความตาย
พระวรสารยอห์น 8:44 พระเยซูตรัสกับชาวยิวบางคนว่า:
“พวกท่านมาจากบิดาของท่าน คือปีศาจ และท่านปรารถนาจะทำความปรารถนาของบิดาของท่าน เขาเป็นคนฆาตกรตั้งแต่แรก และมิได้ยึดมั่นในความจริง ... เขาเป็นผู้มุสาและเป็นบิดาแห่งความมุสา”
ฮีบรู 2:14
“พระคริสต์ทรงสิ้นพระชนม์เพื่อทำลายอำนาจของผู้ครอบครองความตาย คือปีศาจ”
→ ชัดเจนว่าคาทอลิกมองว่าปีศาจคือ “ผู้กักขังมนุษย์ไว้ในบาปและความตาย”
แนวคิดเวียนว่ายตายเกิด vs คริสต์
พุทธ: การเกิด–ดับ–เกิดซ้ำไม่สิ้นสุด เป็น “ธรรมชาติ” ทุกข์–สมุทัย–นิโรธ–มรรค
คาทอลิก: ชีวิตมนุษย์มีครั้งเดียว (ฮีบรู 9:27)
“มนุษย์ถูกกำหนดให้ตายเพียงครั้งเดียว หลังจากนั้นก็จะมีการพิพากษา”
ดังนั้น การที่มนุษย์ต้องเจ็บปวดและตาย ไม่ใช่กฎสากลที่พระเจ้าวางไว้ แต่เป็นผลจาก การล่อลวงของปีศาจ ให้ทำบาปตั้งแต่ต้น
กรรมและวิบากในมุมคาทอลิก
ในพุทธ กรรม = การกระทำ, วิบาก = ผลลัพธ์
ในคาทอลิก มีสิ่งที่คล้ายกันคือ “ผลของบาป” (consequence of sin) เช่นเดียวกับที่นักบุญเปาโลเขียนว่า:
โรม 6:23
“ค่าจ้างของบาปคือความตาย แต่ของประทานจากพระเจ้าคือชีวิตนิรันดร์ในพระเยซูคริสต์องค์พระผู้เป็นเจ้าของเรา”
ต่างตรงที่คาทอลิกไม่เห็นว่าเป็นกฎจักรวาลอัตโนมัติ แต่เป็น ผลที่ปีศาจทำให้มนุษย์ติดกับบาป และพระเจ้าเท่านั้นที่จะปลดปล่อยได้
พระคริสต์ = การปลดปล่อยจากวงจรของปีศาจ
1 ยอห์น 3:8
“พระบุตรของพระเจ้าได้ปรากฏมาเพื่อทำลายกิจการของปีศาจ”
คาทอลิกจึงเชื่อว่า พระเยซูสิ้นพระชนม์และกลับคืนชีพเพื่อปลดปล่อยมนุษย์จาก “อำนาจบาปและความตาย” ที่ปีศาจครอบงำอยู่
ไม่ใช่การ “ดับทุกข์ด้วยตนเอง” แบบพุทธ แต่เป็นการรอดพ้นด้วย พระหรรษทานจากพระเจ้า
สรุปในเชิงเปรียบเทียบ
พุทธ = กรรมและวิบากเป็น “กฎธรรมชาติ” → ทุกคนต้องวนเวียนไปเรื่อยๆ จนกว่าจะพ้นทุกข์ด้วยปัญญาของตน
คาทอลิก = กรรม วิบาก ความตาย และการเวียนวน = “ผลของบาปที่ปีศาจนำเข้ามา” → พระเจ้าส่งพระคริสต์มาเพื่อทำลายวงจรนี้
หลักฐานอ้างอิงคัมภีร์คาทอลิก
ปฐมกาล 3 (เรื่องอาดัม–เอวา และงูล่อลวง)
โรม 5:12 (บาปเข้ามาพร้อมความตาย)
ยอห์น 8:44 (ปีศาจเป็นบิดาแห่งความมุสา)
ฮีบรู 2:14 (ปีศาจครอบครองความตาย)
ฮีบรู 9:27 (มนุษย์มีชีวิตครั้งเดียว)
โรม 6:23 (ค่าจ้างของบาปคือความตาย)
1 ยอห์น 3:8 (พระคริสต์มาทำลายกิจการของปีศาจ)