1.ถ้าพระเจ้าสมบูรณ์แบบและทรงอำนาจทุกอย่าง เหตุใดจึงมีความทุกข์และความชั่วร้าย
ตอบ ไปอ่านปฐมกาล
2.อวิชาในโลกที่พระองค์สร้าง
ตอบ ใช่พระเจ้าทรงสร้างทุกสรรพสิ่ง ทั้งมาร ทั้งมนุษย์แม้แต่พระองค์เอง แปลกตรงไหน วจนะก็ชัดเจนว่า ทรงสร้างทุกสรรพสิ่ง ชาวพุทธยังอธิบายพุทธวิสัยของพระพุทธเจ้าไม่ได้
แล้วมันเรื่องอะไรของชาวคริสต์ จะมาตอบเรื่องพระวิสัยของพระเจ้า จำไว้เสมอชาวคริสต์เป็นแค่สาวกของพระเจ้า ถ้าชาวพุทธไม่รู้ดีไปกว่าพระพุทธเจ้า แล้วคริสเตียนจะรู้ดีไปกว่าพระเจ้ามั้ย?
3.ถ้าพระองค์ทรงยุติธรรม เหตุใดมนุษย์จึงต้องรับผิดชอบต่อการกระทำของตนในโลก ที่พระเจ้าเป็นผู้กำหนดทุกสิ่งไว้ล่วงหน้าแล้ว
ตอบ 1.ถ้าพระเจ้ายุติธรรม ทำไมมนุษย์จึงต้องรับผิดชอบต่อการกระทำของตนเองในโลก.... ถ้าคนขโมย ขโมยของ ฆ่าคนตาย คุณคิดว่าต้องรับโทษตามกฎหมาย ต้องชดใช้ค่าเสียหายรึเปล่า ถ้าไม่ต้องชดใช้ คุณว่ามันยุติธรรมรึเปล่า? พระนิเวศของพระเจ้า ก็มีกฎที่คนบาป ไม่สามารถเข้าไปได้ แล้วเมื่อพระเจ้าทรงตัดสิน คนบาปต้องโยนลงไปในบึงไฟนรก
2.พระเจ้าทรงกำหนดทุกสิ่งไว้แล้วก็จริง แต่คำตอบนี้จะต้องนำข้อ
3.ถ้าพระเจ้ารักมนุษย์ทุกคนเหตุใด มนุษย์ที่ไม่เชื่อในพระเจ้า จึงต้องถูกลงโทษ
ตอบ ข้อแรก พระเจ้าลงโทษ สั่งสอน สำหรับคนที่เข้ามาทางพระองค์ คนที่ปฏิเสธพระเจ้า นามว่าพระเยซู หรือพระยาเวห์ คือ ผู้ที่ไม่ต้องการพระองค์แต่แรก พวกเขาไม่ใช่สมบัติของพระเจ้า
ข้อสอง มนุษย์ที่ไม่เชื่อพระเจ้า คือ ไม่ใช่บุตรของพระเจ้า แต่เป็นบุตรของมาร หรือซาตานผู้มีบาป มารจะฉุด ล่อลวง พวกปฏิเสธพระเจ้าให้ตกต่ำ เพื่อนำไปสูงบึงไฟนรก
ข้อสาม พระเจ้าทรงแสดงปาฏิหาริย์หรือหมายสำคัญ เพื่อเปิดใจบุตรทุกคน ให้กลับมาหาพระเจ้า และพระองค์มาทันเสมอยามที่ลูกๆเดือดร้อน และพระองค์ ทรงเรียกให้เข้ามาฟัง หรือมาดู เพราะบุตรบางคนอาจว่าง่ายสอนง่าย ไม่มีเหตุบังเอิญในโลกนี้
4.พระเจ้ามีเจตจำนงให้มนุษย์มีเสรี(Freewill) แต่ในเวลาเดียวกัน พระองค์ทรงทราบล่วงหน้าว่ามนุษย์จะเลือกทำอะไร
ตอบ ถูกต้อง พระเจ้ามีเจตจำนงเสรีจริง และพระองค์ทรงรู้ก่อนที่จะคลอดด้วยซ้ำ และจากข้อหนึ่ง พระเจ้ามีมหิธานุภาพ ทรงสร้างทุกสรรพสิ่ง การกระทำของมนุษย์ ที่มนุษย์ด้วยกัยคาดเดาไม่ได้ ทำไมพระเจ้าจะมองเห็นมากกว่า1รูปแบบไม่ได้
5.เจตจำนงนี้ยังเป็นอิสระหรือไม่
ตอบ Freewill คือสิ่งพระเจ้ามอบให้มาตั้งแต่อาดัมกับอีฟ พระเจ้าสร้างมนุษย์ ไม่ใช่หุ่นยนต์
มองกลับไปที่พระเจ้า พระองค์ทรงมีอิสระ มีเสรีภาพ ปราศจากข้อกางกั้น
ในปฐมกาลทรงประกาศไว้ชัดเจน ว่ามนุษย์ ถูกสร้างตามพระฉาย หรือรูปลักษณ์ของพระเจ้า เพราะฉะนั้น มนุษย์จึงมีความคิด มีเสรีภาพ ที่จะจินตนาการ มีสิทธิ์ที่จะเลือกได้ทุกสิ่ง
แต่ข้อจำกัดนั้น มาจากผลไม้ความดีและความชั่ว ที่คู่รักคู่แรกที่พระเจ้าทรงสร้างกินเข้าไป พวกเขาจึงเป็นผู้นำบาปมาสู่โลก บาปคือข้อจำกัดของมนุษย์ บาปนำมาซึ่ง ผลร้าย อุปสรรค ความชั่ว ความเจ็บป่วยและความตาย
ดู7บาปหลัก นั้นคือความบาป ดูหนังฟังเพลง เพลิดเพลินไปด้วยกิเลส ไม่ต่างอะไรกับปหาสะนรก อะไรที่พอกพูนกิเลส นั่นคือบาปทั้งนั้น เรามีบาปกำเนิด เพราะบาปสามารถส่งต่อผ่านเชื้อสายได้ เราเรียกมันว่าพันธุกรรม มนุษย์ที่ทำบาป ก็ได้ปรับปรุงสังขารร่างกาย ส่งต่อไปยังลูกหลานในอนาคต ที่เรียกว่าพันธุกรรม
แต่กายเนื้อก็เป็นเหมือนอาภรณ์ แต่จิตวิญญาณคือนิรันดร์
6.ถ้าพระเจ้าอยู่นิจนิรันดร์ ทำไมจึงมีการสร้าง หรือ จุดเริ่มต้นของโลก?
ตอบ พระองค์สร้างตามความพอพระทัยของพระองค์ การสร้างไม่ใช่การเปลี่ยนแปลง การเปลี่ยนแปลง คือการปรับปรุง แก้ไข คนละความกับการสร้างและจุดเริ่มต้นอย่างสิ้นเชิง
พระเจ้าย่อมทรงเป็นอมตะ พระองค์มีฤทธิ์ ย่อมมีสิทธิ์ที่จะสร้างอยู่แล้วเป็นปกติ เหมือนวิศวกร ผู้มีความรู้ หากเขามีเงิน มีอุปกรณ์ เขาย่อมพอใจ จะสร้างเครื่องจักร ยานยนตร์ หรือหุ่นยนต์ ตามที่เขาปรารถนา
7.การยึดมั่นในผู้สร้างที่อยู่นอกเหนือกฎธรรมชาติ ขัดแย้งกับการค้นหาความจริง ที่ยึดตามเหตุและผลในโลกนี้หรือไม่
ตอบ พระคัมภีร์ไบเบิ้ลบอกไว้ชัดเจน ว่าพระองค์ทรงสร้างทุกสรรพสิ่ง คำว่าทุกสรรพสิ่ง ก็ย่อมรวมถึงกฎธรรมชาติ กฏฟิสิกส์ วิทยาศาสจร์ต่างๆ หรือที่ศาสนาพุทธเรียกว่าเหตุปัจจัย ผลลัพธ์ การยึดมั่นในพระเจ้า ยึดไปเพื่ออะไร กลับไปอ่านข้อบนๆอีกรอบ
8. ถ้าพระคัมภีร์เป็นคำสอนที่มาจากพระเจ้า จึงมีการตีความที่หลากหลาย และข้อขัดแย้งในตัวคัมภีร์เอง
ตอบ การตีความที่หลากหลาย คุณว่า คัสภีร์ทั้งเล่มมันเขียนประโยคเดียวรึเปล่า พระคัมภีร์มีสองส่วน คือOld Testament กับ New Testament มีแต่ต้องอ่านคุณถึงจะเข้าใจ โดยเฉพาะคำสอนพระเยซู ที่ทรงตรัสเป็นคำอุปมา ที่จะไปตีความตรงๆไม่ได้ และต้องคำนึงถึงบริบท ระหว่างผู้ที่มาก่อน กับผู้ที่มาทีหลัง อย่างน้อย ท่านยอห์นผู้มาก่อนหน้าพระเมษโปรดก ก็น่าจะให้คำตอบได้ ไปอ่านเอา(ถ้าขี้เกียจอ่าน นั่นไม่ใช่ความผิดชาวคริสต์)
9.ถ้าพระเจ้าทรงเป็นพระสัพพัญญู ทรงพลังทุกอย่าง เหตุใดอนุญาติให้มนุษย์ทำบาป หรือปล่อยให้มนุษย์มีความทุกข์
ตอบ พระเจ้าห้ามอาดัมกับอีฟ ไม่ให้กินผลไม้ดี_ชั่ว แล้วอาดัมกับอีฟ ฟังพระเจ้ารึเปล่า แล้วทำไมไม่ใช้อำนาจ ย้อนกลับไปอ่านข้อ5 พระเจ้าไม่ได้สร้างให้มนุษย์เป็นหุ่นยนต์ หรือโกเลม
10.ส่วนบาปชั่วนิรันดร์ กับสวรรค์ชั่วนิรันดร์ มันยุติธรรมจริงมั้ย
ตอบ พระเจ้าตัดสินจากการดูชื่อตรงหน้าผาก ว่าเขาเป็นสมบัติของพระองค์หรือไม่ เหมือนพ่อกับลูก คนที่ไม่ใช่ลูกของพ่อกับแม่ พ่อแม่จะเอามาเลี้ยงทำไม ไม่มีลูกบุญธรรม(ผู้ปฏิเสธพระเจ้า) ในพระนิเวศของพระองค์ เพราะมารหรือซาตานมันตรีตราจองไว้แล้ว
พระเจ้าทรงให้เลือกว่าจะเชื่อพระองค์หรือปฏิเสธพระองค์ มันก็ไม่ต่างกับศาสนาพุทธ จะเลือกนรก สวรรค์ หรือนิพพานนั่นแหละ เราเลือกเองรับผลเอง ยังไม่แฟร์อีกหรือ?
11.ถ้าพระเจ้าทรงทราบอนาคตล่วงหน้ารวมถึงการกระทำของมนุษย์ ทำไมพระองค์ยังทรงสร้างมนุษย์ทั้งที่พระองค์ทราบดีว่าจะทำบาปและต้องถูกงโทษ
ตอบ พระเจ้าทรงเป็นFreewill และสร้างพระฉาย แล้วมนุษย์จะไม่Freewill ได้ไง และทรงย่อมทราบว่า อาดัมกับอีฟ ต้องกินผลไม้นั้นแน่นอน คำตอบก็ชัดเจนแล้ว ยังจะวนถามเป็นอมยิ้ม ทำอะไร บาปกับบุญ ดีหรือชั่ว แค่ให้มนุษย์เลือกว่าจะเป็นสมบัติของพระเจ้า หรือสมบัติของซาตาน ส่วนการถูกลงโทษ พระเจ้าลงโทษเฉพาะสมบัติของพระองค์ หรือลูกที่กลับมาอยู่ในโอวาท ไม่ใช่คนนอก พระนิเวศของพระเจ้า ไม่มีลูกบุญธรรม พระองค์ไม่มีโควต้ารับคนปฏิเสธพระองค์
อริยสัจสี่
ทุกข์ สภาวะบีบคั้นที่มนุษย์เผชิญ
ปฏิจจสมุปบาท คือ อารมณ์ของมนุษย์ ความนึกคิด
มรรคหนทางปฏิบัติเพื่อการดับทุกข์
อริยสัจสี่ไม่ใช่รูปธรรม แต่เป็นนามธรรม มันเป็นแค่กลไก ที่พระพุทธเจ้าแสดงถึงกระบวนการเกิดทุกข์และการดับของทุกข์ ในพุทธวจนว่าจิตเกิดดับตลอดเวลา
แต่พระสายปฏิบัติไม่เคยปฏิเสธถึงจิตเดิมแท้ที่ไม่ได้เกิดดับ และจิตเดิมแท้อาศัยหลักปฏิจจสมุปบาท เป็นกลไกให้เกิพภพใหม่ ชาติใหม่ หรือชาติหน้า
ทางพระเจ้าก็กล่าวว่า ว่ามนุษย์มีดวงจิตดวงวิญญาณ ที่มีอารมณ์สุข ทุกข์ มีบาป สร้างความดีได้ไม่ต่างกัน
ถ้าเชื่อว่า ทุกอย่างมาจากเหตุปัจจัย มีสาเหตุ มีปัจจัย แต่ตอบไม่ได้ว่าต้นเหตุมาจากอะไร ใครเป็นคนสร้าง คนออกแบบ ใครตั้งกฏ
หรือวิทยาศาสตร์ บอกว่ามาจากวิวัฒนาการ เหมือนตะไคร่น้ำ
ถ้าความเชื่อนี้ถูก คุณจะได้อะไร
ถ้าหากว่าคนในพระคัมภีร์ไบเบิ้ล ประกาศว่าตนเป็นลูกของพระเจ้า หากตายแล้วจะฟื้นขึ้นมาใหม่ แล้วกลับมาเป็นในวันที่3 เป็นเรื่องจริง
คุณเสียทุกอย่าง......
คุณยังจะเฉยอยู่มั้ย?
อย่าจากโลกนี้ไปโดยไม่มีพระเยซู
พระเจ้าทรงเป็นเหมือนพ่อที่กำลังรอลูกกลับบ้าน จะดีจะชั่ว เปิดใจรับพระองค์คุณจะเสียอะไร?
ใครจะเถียงเชิญ แต่ผมจะไม่เสียเวลามาตอบ เพราะคำพยานมีเกลื่อนในYoutube
ความเชื่อจะมีเท่าไหร่ ศาสดาคนไหนพูดจริง ความจริงเป็นเอกพจน์ ไม่ใช่พหูพจน์
หากมีลมหายใจ ยังถือว่ามีเวลาที่จะกลับใจ
ขอย้ำ อย่าจากไปโดยไม่มีพระเยซู อย่าเสียเวลากับคนที่พระเจ้าไม่ได้ทรงเรียก เราหว่านได้ แต่บังคับไม่ได้ และพระเจ้าจะเป็นผู้ทรงเก็บเกี่ยว
ป.ล.ที่เอามาตอบก็อ่านมาจากพระวจนะของพระเจ้าทั้งนั้น ในคัมภีร์ไบเบิ้ล สมองขี้เรื่อยอย่างผม บัญญัติเองไม่ได้ ผมไม่ได้เก่งอะไร และเป็นพวกนอกคอก ไม่ได้ไปรับบัพติสมา
เขียนมาให้ชาวพุทธพิจารณาครับ
คริสต์ไม่ใช่ศาสนา แต่เป็น ความจริง เป็นทางนั้น ไม่มีใครมาทางพระบิดาได้นอกจากมาทางพระเยซู อาเมน!
ตอบชาวพุทธจากชาวคริสต์นอกคอกคนหนึ่ง
ตอบ ไปอ่านปฐมกาล
2.อวิชาในโลกที่พระองค์สร้าง
ตอบ ใช่พระเจ้าทรงสร้างทุกสรรพสิ่ง ทั้งมาร ทั้งมนุษย์แม้แต่พระองค์เอง แปลกตรงไหน วจนะก็ชัดเจนว่า ทรงสร้างทุกสรรพสิ่ง ชาวพุทธยังอธิบายพุทธวิสัยของพระพุทธเจ้าไม่ได้
แล้วมันเรื่องอะไรของชาวคริสต์ จะมาตอบเรื่องพระวิสัยของพระเจ้า จำไว้เสมอชาวคริสต์เป็นแค่สาวกของพระเจ้า ถ้าชาวพุทธไม่รู้ดีไปกว่าพระพุทธเจ้า แล้วคริสเตียนจะรู้ดีไปกว่าพระเจ้ามั้ย?
3.ถ้าพระองค์ทรงยุติธรรม เหตุใดมนุษย์จึงต้องรับผิดชอบต่อการกระทำของตนในโลก ที่พระเจ้าเป็นผู้กำหนดทุกสิ่งไว้ล่วงหน้าแล้ว
ตอบ 1.ถ้าพระเจ้ายุติธรรม ทำไมมนุษย์จึงต้องรับผิดชอบต่อการกระทำของตนเองในโลก.... ถ้าคนขโมย ขโมยของ ฆ่าคนตาย คุณคิดว่าต้องรับโทษตามกฎหมาย ต้องชดใช้ค่าเสียหายรึเปล่า ถ้าไม่ต้องชดใช้ คุณว่ามันยุติธรรมรึเปล่า? พระนิเวศของพระเจ้า ก็มีกฎที่คนบาป ไม่สามารถเข้าไปได้ แล้วเมื่อพระเจ้าทรงตัดสิน คนบาปต้องโยนลงไปในบึงไฟนรก
2.พระเจ้าทรงกำหนดทุกสิ่งไว้แล้วก็จริง แต่คำตอบนี้จะต้องนำข้อ
3.ถ้าพระเจ้ารักมนุษย์ทุกคนเหตุใด มนุษย์ที่ไม่เชื่อในพระเจ้า จึงต้องถูกลงโทษ
ตอบ ข้อแรก พระเจ้าลงโทษ สั่งสอน สำหรับคนที่เข้ามาทางพระองค์ คนที่ปฏิเสธพระเจ้า นามว่าพระเยซู หรือพระยาเวห์ คือ ผู้ที่ไม่ต้องการพระองค์แต่แรก พวกเขาไม่ใช่สมบัติของพระเจ้า
ข้อสอง มนุษย์ที่ไม่เชื่อพระเจ้า คือ ไม่ใช่บุตรของพระเจ้า แต่เป็นบุตรของมาร หรือซาตานผู้มีบาป มารจะฉุด ล่อลวง พวกปฏิเสธพระเจ้าให้ตกต่ำ เพื่อนำไปสูงบึงไฟนรก
ข้อสาม พระเจ้าทรงแสดงปาฏิหาริย์หรือหมายสำคัญ เพื่อเปิดใจบุตรทุกคน ให้กลับมาหาพระเจ้า และพระองค์มาทันเสมอยามที่ลูกๆเดือดร้อน และพระองค์ ทรงเรียกให้เข้ามาฟัง หรือมาดู เพราะบุตรบางคนอาจว่าง่ายสอนง่าย ไม่มีเหตุบังเอิญในโลกนี้
4.พระเจ้ามีเจตจำนงให้มนุษย์มีเสรี(Freewill) แต่ในเวลาเดียวกัน พระองค์ทรงทราบล่วงหน้าว่ามนุษย์จะเลือกทำอะไร
ตอบ ถูกต้อง พระเจ้ามีเจตจำนงเสรีจริง และพระองค์ทรงรู้ก่อนที่จะคลอดด้วยซ้ำ และจากข้อหนึ่ง พระเจ้ามีมหิธานุภาพ ทรงสร้างทุกสรรพสิ่ง การกระทำของมนุษย์ ที่มนุษย์ด้วยกัยคาดเดาไม่ได้ ทำไมพระเจ้าจะมองเห็นมากกว่า1รูปแบบไม่ได้
5.เจตจำนงนี้ยังเป็นอิสระหรือไม่
ตอบ Freewill คือสิ่งพระเจ้ามอบให้มาตั้งแต่อาดัมกับอีฟ พระเจ้าสร้างมนุษย์ ไม่ใช่หุ่นยนต์
มองกลับไปที่พระเจ้า พระองค์ทรงมีอิสระ มีเสรีภาพ ปราศจากข้อกางกั้น
ในปฐมกาลทรงประกาศไว้ชัดเจน ว่ามนุษย์ ถูกสร้างตามพระฉาย หรือรูปลักษณ์ของพระเจ้า เพราะฉะนั้น มนุษย์จึงมีความคิด มีเสรีภาพ ที่จะจินตนาการ มีสิทธิ์ที่จะเลือกได้ทุกสิ่ง
แต่ข้อจำกัดนั้น มาจากผลไม้ความดีและความชั่ว ที่คู่รักคู่แรกที่พระเจ้าทรงสร้างกินเข้าไป พวกเขาจึงเป็นผู้นำบาปมาสู่โลก บาปคือข้อจำกัดของมนุษย์ บาปนำมาซึ่ง ผลร้าย อุปสรรค ความชั่ว ความเจ็บป่วยและความตาย
ดู7บาปหลัก นั้นคือความบาป ดูหนังฟังเพลง เพลิดเพลินไปด้วยกิเลส ไม่ต่างอะไรกับปหาสะนรก อะไรที่พอกพูนกิเลส นั่นคือบาปทั้งนั้น เรามีบาปกำเนิด เพราะบาปสามารถส่งต่อผ่านเชื้อสายได้ เราเรียกมันว่าพันธุกรรม มนุษย์ที่ทำบาป ก็ได้ปรับปรุงสังขารร่างกาย ส่งต่อไปยังลูกหลานในอนาคต ที่เรียกว่าพันธุกรรม
แต่กายเนื้อก็เป็นเหมือนอาภรณ์ แต่จิตวิญญาณคือนิรันดร์
6.ถ้าพระเจ้าอยู่นิจนิรันดร์ ทำไมจึงมีการสร้าง หรือ จุดเริ่มต้นของโลก?
ตอบ พระองค์สร้างตามความพอพระทัยของพระองค์ การสร้างไม่ใช่การเปลี่ยนแปลง การเปลี่ยนแปลง คือการปรับปรุง แก้ไข คนละความกับการสร้างและจุดเริ่มต้นอย่างสิ้นเชิง
พระเจ้าย่อมทรงเป็นอมตะ พระองค์มีฤทธิ์ ย่อมมีสิทธิ์ที่จะสร้างอยู่แล้วเป็นปกติ เหมือนวิศวกร ผู้มีความรู้ หากเขามีเงิน มีอุปกรณ์ เขาย่อมพอใจ จะสร้างเครื่องจักร ยานยนตร์ หรือหุ่นยนต์ ตามที่เขาปรารถนา
7.การยึดมั่นในผู้สร้างที่อยู่นอกเหนือกฎธรรมชาติ ขัดแย้งกับการค้นหาความจริง ที่ยึดตามเหตุและผลในโลกนี้หรือไม่
ตอบ พระคัมภีร์ไบเบิ้ลบอกไว้ชัดเจน ว่าพระองค์ทรงสร้างทุกสรรพสิ่ง คำว่าทุกสรรพสิ่ง ก็ย่อมรวมถึงกฎธรรมชาติ กฏฟิสิกส์ วิทยาศาสจร์ต่างๆ หรือที่ศาสนาพุทธเรียกว่าเหตุปัจจัย ผลลัพธ์ การยึดมั่นในพระเจ้า ยึดไปเพื่ออะไร กลับไปอ่านข้อบนๆอีกรอบ
8. ถ้าพระคัมภีร์เป็นคำสอนที่มาจากพระเจ้า จึงมีการตีความที่หลากหลาย และข้อขัดแย้งในตัวคัมภีร์เอง
ตอบ การตีความที่หลากหลาย คุณว่า คัสภีร์ทั้งเล่มมันเขียนประโยคเดียวรึเปล่า พระคัมภีร์มีสองส่วน คือOld Testament กับ New Testament มีแต่ต้องอ่านคุณถึงจะเข้าใจ โดยเฉพาะคำสอนพระเยซู ที่ทรงตรัสเป็นคำอุปมา ที่จะไปตีความตรงๆไม่ได้ และต้องคำนึงถึงบริบท ระหว่างผู้ที่มาก่อน กับผู้ที่มาทีหลัง อย่างน้อย ท่านยอห์นผู้มาก่อนหน้าพระเมษโปรดก ก็น่าจะให้คำตอบได้ ไปอ่านเอา(ถ้าขี้เกียจอ่าน นั่นไม่ใช่ความผิดชาวคริสต์)
9.ถ้าพระเจ้าทรงเป็นพระสัพพัญญู ทรงพลังทุกอย่าง เหตุใดอนุญาติให้มนุษย์ทำบาป หรือปล่อยให้มนุษย์มีความทุกข์
ตอบ พระเจ้าห้ามอาดัมกับอีฟ ไม่ให้กินผลไม้ดี_ชั่ว แล้วอาดัมกับอีฟ ฟังพระเจ้ารึเปล่า แล้วทำไมไม่ใช้อำนาจ ย้อนกลับไปอ่านข้อ5 พระเจ้าไม่ได้สร้างให้มนุษย์เป็นหุ่นยนต์ หรือโกเลม
10.ส่วนบาปชั่วนิรันดร์ กับสวรรค์ชั่วนิรันดร์ มันยุติธรรมจริงมั้ย
ตอบ พระเจ้าตัดสินจากการดูชื่อตรงหน้าผาก ว่าเขาเป็นสมบัติของพระองค์หรือไม่ เหมือนพ่อกับลูก คนที่ไม่ใช่ลูกของพ่อกับแม่ พ่อแม่จะเอามาเลี้ยงทำไม ไม่มีลูกบุญธรรม(ผู้ปฏิเสธพระเจ้า) ในพระนิเวศของพระองค์ เพราะมารหรือซาตานมันตรีตราจองไว้แล้ว
พระเจ้าทรงให้เลือกว่าจะเชื่อพระองค์หรือปฏิเสธพระองค์ มันก็ไม่ต่างกับศาสนาพุทธ จะเลือกนรก สวรรค์ หรือนิพพานนั่นแหละ เราเลือกเองรับผลเอง ยังไม่แฟร์อีกหรือ?
11.ถ้าพระเจ้าทรงทราบอนาคตล่วงหน้ารวมถึงการกระทำของมนุษย์ ทำไมพระองค์ยังทรงสร้างมนุษย์ทั้งที่พระองค์ทราบดีว่าจะทำบาปและต้องถูกงโทษ
ตอบ พระเจ้าทรงเป็นFreewill และสร้างพระฉาย แล้วมนุษย์จะไม่Freewill ได้ไง และทรงย่อมทราบว่า อาดัมกับอีฟ ต้องกินผลไม้นั้นแน่นอน คำตอบก็ชัดเจนแล้ว ยังจะวนถามเป็นอมยิ้ม ทำอะไร บาปกับบุญ ดีหรือชั่ว แค่ให้มนุษย์เลือกว่าจะเป็นสมบัติของพระเจ้า หรือสมบัติของซาตาน ส่วนการถูกลงโทษ พระเจ้าลงโทษเฉพาะสมบัติของพระองค์ หรือลูกที่กลับมาอยู่ในโอวาท ไม่ใช่คนนอก พระนิเวศของพระเจ้า ไม่มีลูกบุญธรรม พระองค์ไม่มีโควต้ารับคนปฏิเสธพระองค์
อริยสัจสี่
ทุกข์ สภาวะบีบคั้นที่มนุษย์เผชิญ
ปฏิจจสมุปบาท คือ อารมณ์ของมนุษย์ ความนึกคิด
มรรคหนทางปฏิบัติเพื่อการดับทุกข์
อริยสัจสี่ไม่ใช่รูปธรรม แต่เป็นนามธรรม มันเป็นแค่กลไก ที่พระพุทธเจ้าแสดงถึงกระบวนการเกิดทุกข์และการดับของทุกข์ ในพุทธวจนว่าจิตเกิดดับตลอดเวลา
แต่พระสายปฏิบัติไม่เคยปฏิเสธถึงจิตเดิมแท้ที่ไม่ได้เกิดดับ และจิตเดิมแท้อาศัยหลักปฏิจจสมุปบาท เป็นกลไกให้เกิพภพใหม่ ชาติใหม่ หรือชาติหน้า
ทางพระเจ้าก็กล่าวว่า ว่ามนุษย์มีดวงจิตดวงวิญญาณ ที่มีอารมณ์สุข ทุกข์ มีบาป สร้างความดีได้ไม่ต่างกัน
ถ้าเชื่อว่า ทุกอย่างมาจากเหตุปัจจัย มีสาเหตุ มีปัจจัย แต่ตอบไม่ได้ว่าต้นเหตุมาจากอะไร ใครเป็นคนสร้าง คนออกแบบ ใครตั้งกฏ
หรือวิทยาศาสตร์ บอกว่ามาจากวิวัฒนาการ เหมือนตะไคร่น้ำ
ถ้าความเชื่อนี้ถูก คุณจะได้อะไร
ถ้าหากว่าคนในพระคัมภีร์ไบเบิ้ล ประกาศว่าตนเป็นลูกของพระเจ้า หากตายแล้วจะฟื้นขึ้นมาใหม่ แล้วกลับมาเป็นในวันที่3 เป็นเรื่องจริง
คุณเสียทุกอย่าง......
คุณยังจะเฉยอยู่มั้ย?
อย่าจากโลกนี้ไปโดยไม่มีพระเยซู
พระเจ้าทรงเป็นเหมือนพ่อที่กำลังรอลูกกลับบ้าน จะดีจะชั่ว เปิดใจรับพระองค์คุณจะเสียอะไร?
ใครจะเถียงเชิญ แต่ผมจะไม่เสียเวลามาตอบ เพราะคำพยานมีเกลื่อนในYoutube
ความเชื่อจะมีเท่าไหร่ ศาสดาคนไหนพูดจริง ความจริงเป็นเอกพจน์ ไม่ใช่พหูพจน์
หากมีลมหายใจ ยังถือว่ามีเวลาที่จะกลับใจ
ขอย้ำ อย่าจากไปโดยไม่มีพระเยซู อย่าเสียเวลากับคนที่พระเจ้าไม่ได้ทรงเรียก เราหว่านได้ แต่บังคับไม่ได้ และพระเจ้าจะเป็นผู้ทรงเก็บเกี่ยว
ป.ล.ที่เอามาตอบก็อ่านมาจากพระวจนะของพระเจ้าทั้งนั้น ในคัมภีร์ไบเบิ้ล สมองขี้เรื่อยอย่างผม บัญญัติเองไม่ได้ ผมไม่ได้เก่งอะไร และเป็นพวกนอกคอก ไม่ได้ไปรับบัพติสมา
เขียนมาให้ชาวพุทธพิจารณาครับ
คริสต์ไม่ใช่ศาสนา แต่เป็น ความจริง เป็นทางนั้น ไม่มีใครมาทางพระบิดาได้นอกจากมาทางพระเยซู อาเมน!