ต่อมไทรอยด์เป็นอวัยวะสำคัญที่ควบคุมการเผาผลาญและการเจริญเติบโตของร่างกาย
การตรวจเลือดไทรอยด์จึงเป็นวิธีที่แม่นยำที่สุดในการประเมินการทำงานของต่อมไทรอยด์
วันนี้พี่หมอฝั่งธน..จะมาให้ความรู้
เมื่อไหร่ควรตรวจเลือดไทรอยด์ อาการและข้อบ่งชี้ที่ไม่ควรมองข้าม 
ทำความเข้าใจความสำคัญของการตรวจเลือดไทรอยด์
ท่ามกลางภาวะมลพิษและความเครียดในปัจจุบัน โรคเกี่ยวกับต่อมไทรอยด์กำลังพบได้บ่อยขึ้นในทุกเพศทุกวัย
การตรวจคัดกรองจึงเป็นเรื่องสำคัญ โดยเฉพาะในกลุ่มเสี่ยงที่มีประวัติครอบครัวเป็นโรคต่อมไทรอยด์
การตรวจเลือดไทรอยด์เป็นวิธีมาตรฐานที่แพทย์ใช้ประเมินการทำงานของต่อมไทรอยด์ผ่านการวัดระดับฮอร์โมนในเลือด
ความสำคัญของฮอร์โมนไทรอยด์ต่อร่างกาย
ฮอร์โมนไทรอยด์เป็นสารสำคัญที่ควบคุมกระบวนการเผาผลาญในเซลล์ทั่วร่างกาย
การเปลี่ยนแปลงของค่าฮอร์โมนไทรอยด์แม้เพียงเล็กน้อยก็ส่งผลกระทบต่อการทำงานของอวัยวะต่าง ๆ อย่างมีนัยสำคัญ
ทั้งระบบหัวใจและหลอดเลือด ระบบประสาท และระบบกล้ามเนื้อ
การตรวจเลือดไทรอยด์จึงช่วยให้แพทย์สามารถประเมินความผิดปกติได้อย่างแม่นยำ
อาการที่บ่งชี้ว่าควรตรวจเลือดไทรอยด์การสังเกตอาการผิดปกติของไทรอยด์เป็นจุดเริ่มต้นสำคัญที่นำไปสู่การวินิจฉัยที่ถูกต้อง
อาการเหล่านี้อาจแตกต่างกันไปในแต่ละบุคคล และบางครั้งก็คล้ายคลึงกับอาการของโรคอื่น ๆ
การตรวจเลือดไทรอยด์จึงเป็นวิธีที่ช่วยยืนยันสาเหตุที่แท้จริงได้
อาการของภาวะไทรอยด์เป็นพิษ ภาวะไทรอยด์เป็นพิษเกิดจากต่อมไทรอยด์ผลิตฮอร์โมนมากเกินไป
ค่าฮอร์โมนไทรอยด์ที่สูงผิดปกติจะทำให้เกิดอาการต่าง ๆ เช่น หัวใจเต้นเร็วหรือเต้นผิดจังหวะ
เหงื่อออกมาก แม้อยู่ในที่เย็น น้ำหนักลดโดยไม่ได้ควบคุมอาหาร
มือสั่น กล้ามเนื้ออ่อนแรง นอนไม่หลับ หงุดหงิดง่าย
อาการของภาวะไทรอยด์ต่ำ โรคต่อมไทรอยด์ประเภทนี้เกิดจากการผลิตฮอร์โมนน้อยเกินไป มักพบอาการ ได้แก่
อ่อนเพลีย เหนื่อยง่าย น้ำหนักเพิ่มขึ้นแม้ไม่ได้กินมากขึ้น ผิวแห้ง ผมร่วง ท้องผูก ซึมเศร้า ความจำเสื่อม
กลุ่มเสี่ยงที่ควรตรวจเลือดไทรอยด์เป็นประจำมีบางกลุ่มที่มีความเสี่ยงสูงต่อการเกิดโรคต่อมไทรอยด์
การตรวจเลือดไทรอยด์เป็นประจำจึงมีความสำคัญเป็นพิเศษ
โดยกลุ่มคนที่มีความเสี่ยงเป็นโรคไทรอยด์ ได้แก่
สตรีตั้งครรภ์และหลังคลอด ในช่วงตั้งครรภ์ ร่างกายต้องการฮอร์โมนไทรอยด์เพิ่มขึ้นเพื่อการพัฒนาของทารกในครรภ์
การตรวจเลือดไทรอยด์จึงเป็นส่วนหนึ่งของการฝากครรภ์
เพราะค่าฮอร์โมนไทรอยด์ที่ผิดปกติอาจส่งผลต่อพัฒนาการของทารก
นอกจากนี้ หลังคลอดยังมีความเสี่ยงที่จะเกิดภาวะไทรอยด์อักเสบได้
ผู้ที่มีประวัติครอบครัว พันธุกรรมมีส่วนสำคัญในการเกิดโรคต่อมไทรอยด์
ผู้ที่มีญาติสายตรงเป็นโรคนี้ควรได้รับการตรวจเลือดไทรอยด์อย่างสม่ำเสมอ เพื่อติดตามความผิดปกติตั้งแต่ระยะเริ่มต้น
ผู้ที่มีโรคภูมิต้านทานตัวเอง โรคภูมิต้านทานตัวเองหลายชนิดมักเกิดร่วมกับความผิดปกติของต่อมไทรอยด์
เช่น เบาหวานชนิดที่ 1 โรคข้ออักเสบรูมาตอยด์ การตรวจเลือดไทรอยด์จึงเป็นส่วนหนึ่งของการติดตามอาการในผู้ป่วยกลุ่มนี้ด้วย
การเตรียมตัวก่อนตรวจเลือดไทรอยด์
การเตรียมตัวที่ถูกต้องมีผลต่อความแม่นยำของผลตรวจ
อาการผิดปกติไทรอยด์จะได้รับการวินิจฉัยอย่างถูกต้องได้นั้น
ผู้เข้ารับการตรวจควรเตรียตัวตามแนวทางปฏิบัติ ดังนี้
การงดอาหารและน้ำ ควรงดอาหารและเครื่องดื่มอย่างน้อย 8-12 ชั่วโมง สามารถดื่มน้ำเปล่าได้
หลีกเลี่ยงการออกกำลังกายหนักก่อนตรวจ
การเตรียมข้อมูลสำหรับแพทย์ ควรเตรียมข้อมูลต่อไปนี้ ได้แก่
ประวัติการใช้ยา โดยเฉพาะยาที่มีผลต่อค่าฮอร์โมนไทรอยด์
ประวัติครอบครัวเกี่ยวกับโรคต่อมไทรอยด์ อาการผิดปกติที่สังเกตได้
การแปลผลตรวจเลือดไทรอยด์การแปลผลตรวจต้องพิจารณาค่าฮอร์โมนไทรอยด์หลายตัว ประกอบด้วย
TSH (Thyroid Stimulating Hormone) TSH เป็นฮอร์โมนที่ควบคุมการทำงานของต่อมไทรอยด์
การตรวจเลือดไทรอยด์จะวัดค่า TSH เป็นหลัก
ค่า TSH สูง บ่งชี้ภาวะไทรอยด์ต่ำ
ค่า TSH ต่ำ บ่งชี้ภาวะไทรอยด์เป็นพิษ
FT3 และ FT4 เป็นฮอร์โมนที่ต่อมไทรอยด์ผลิตโดยตรง การวัดค่าทั้งสองนี้ช่วยยืนยันการวินิจฉัยโรคต่อมไทรอยด์ได้แม่นยำขึ้น
การรักษาหลังพบความผิดปกติจากการตรวจเลือดไทรอยด์เมื่อพบความผิดปกติจากการตรวจ แพทย์จะพิจารณาแนวทางการรักษาที่เหมาะสม ได้แก่
การรักษาภาวะไทรอยด์เป็นพิษ ยาต้านไทรอยด์ การรักษาด้วยไอโอดีนรังสี การผ่าตัดในบางกรณี
การรักษาภาวะไทรอยด์ต่ำ การให้ฮอร์โมนไทรอยด์ทดแทน การติดตามค่าฮอร์โมนไทรอยด์อย่างสม่ำเสมอ
การปรับขนาดยาตามผลตรวจ
ความถี่ในการตรวจเลือดไทรอยด์ การกำหนดความถี่ในการตรวจขึ้นอยู่กับปัจจัยหลายประการ ได้แก่
สำหรับผู้ที่มีความเสี่ยงสูง ควรตรวจทุก 6-12 เดือน อาจต้องตรวจถี่ขึ้นหากมีอาการผิดปกติไทรอยด์
สำหรับผู้ที่กำลังรักษา ตรวจทุก 4-8 สัปดาห์ในช่วงแรกของการรักษา ปรับความถี่ตามการตอบสนองต่อการรักษา
การป้องกันโรคต่อมไทรอยด์ นอกจากการตรวจเลือดไทรอยด์เป็นประจำแล้ว การป้องกันยังทำได้โดย
การรับประทานอาหารที่เหมาะสม อาหารที่มีไอโอดีนเพียงพอ
หลีกเลี่ยงอาหารที่รบกวนการทำงานของต่อมไทรอยด์ รับประทานอาหารที่มีแร่ธาตุสำคัญครบถ้วน
การดูแลสุขภาพทั่วไป ออกกำลังกายสม่ำเสมอ ลดความเครียด พักผ่อนให้เพียงพอ
*** การตรวจเลือดไทรอยด์เป็นเครื่องมือสำคัญในการดูแลสุขภาพต่อมไทรอยด์
การสังเกตอาการผิดปกติและเข้ารับการตรวจอย่างสม่ำเสมอจะช่วยป้องกันและรักษาโรคต่อมไทรอยด์ได้อย่างมีประสิทธิภาพ
ผู้ที่มีความเสี่ยงควรปรึกษาแพทย์เพื่อวางแผนการตรวจที่เหมาะสม และปฏิบัติตามคำแนะนำในการดูแลสุขภาพอย่างเคร่งครัด***
ความรู้เพิ่มเติม
https://www.thonburihospital.com/when-to-check-thyroid-signs/
https://www.youtube.com/watch?v=28v8puJ2Rkw
เมื่อไหร่ควรตรวจเลือดไทรอยด์ อาการและข้อบ่งชี้ที่ไม่ควรมองข้าม