ส่วนตัวอายุกำลังจะเข้าเลขสี่แล้ว ปัจจุบันโสด ไม่มีครอบครัว
ที่ผ่านมาก่อนหน้านี้ก็มีคนคุยมาเรื่อยๆ แต่ช่วงหลังมานี่คือไม่คบและไม่คุยกับใครเลย
ไม่ไช่เพราะหาไม่ได้ แต่สาเหตุหลักเลยคือ "ขี้เกียจ"
คือการจะคบใครซักคน โดยเฉพาะความสัมพันธ์แบบจริงจังที่พร้อมจะพัฒนามันจะต้องมีกระบวนการ เช่น
-เริ่มทำความรู้จักกัน เช่นโทร/แชท/นัดเจอ/กินข้าว/เที่ยว/ทำกิจกรรมร่วมกัน ฯลฯ กระบวนการนี้จะเป็นศึกษานิสัยใจคอซึ่งกันและกัน
เมื่อผ่านตรงนี้ไปได้จนตกลงคบกันแล้วก็ต้องเจอกับ
-การทำความรู้จักกับพ่อแม่ ครอบครัว ญาติพี่น้องของฝั่งตรงข้าม ยิ่งเป็นครอบครัวใหญ่ ญาติพี่น้องเยอะ ยิ่งต้องปรับตัว
-การทำความรู้จักเพื่อนฝูง บุคคลที่อยู่รอบตัวของฝั่งตรงข้าม
-การเอาตัวเองเข้าไปในวงจรชีวิตของฝั่งตรงข้าม เช่น ไลฟส์ไตล์, การใช้ชีวิต ฯลฯ
-การปรับตัวเข้ากับครอบครัวของฝั่งตรงข้าม ต้องไปมาหาสู่กัน ดูแลเทคแคร์ ช่วยเหลือ ฯลฯ
-การที่อาจจะต้องปรับเปลี่ยนเป้าหมายหรือการใช้ชีวิตของตัวเอง เพื่อให้บาลานซ์กันกับอีกคน ในกรณีที่พัฒนาจนมาป็นคู่ชีวิต
-ฯลฯ
ซึ่งส่วนตัวขี้เกียจสุดๆ และไม่อยากทำอะไรแบบนั้นเลย ทุกวันนี้แม้แต่เพื่อนหรือคนรู้จักใหม่ๆ ก็ไม่อยากมีเช่นกัน ยิ่งมากคนก็ยิ่งปวดหัว
ทุกวันนี้แค่อยากทำงาน + ดูแลคนในครอบครัว (ที่แก่ตัวลงทุกวัน) หมดวันก็นอนดูหนัง ฟังเพลง เล่นเน็ตไปเรื่อยเปื่อย
เปิดแอร์เย็นๆ สั่งอะไรอร่อยๆมากิน แล้วก็หลับ มีเวลาว่างก็ไปท่องเที่ยวบ้าง ขอแค่นี้แหล่ะในชีวิต ไม่ได้ต้องการอะไรอีกแล้ว
คือมีความสุขสุดๆกับการอยู่คนเดียว ใช้ชีวิตตัวคนเดียว หมกตัวอยู่ในบ้าน ถ้ามีใครอีกคนเข้ามาในชีวิตก็กลัวว่าความสุขเหล่านี้มันจะหายไป
หลายปีก่อน เคยคุยอยู่กับคนๆนึง (แต่ยังไม่ได้คบอย่างจริงจัง) นิสัยเข้ากันได้ดี แต่ปัญหาคือไลฟ์สไตล์ที่ต่างกันแบบคนละขั้ว
อีกฝั่งเป็นคนชอบสังคม มีเพื่อนเยอะ มีความสุขที่ได้ปาร์ตี้สังสรรค์ เที่ยว ทำกิจกรรมนอกบ้าน เอเนอจี้เยอะ
พยายามปรับตัวแล้ว เช่น ไปเที่ยว ไปทำกิจกรรมด้วยกันแบบที่อีกฝ่ายชอบ แต่สุดท้ายมันไม่มีความสุขเลย
คือจะถามตัวเองตลอด ว่ามาอยู่ตรงนี้ทำไม เพื่ออะไร สุดท้ายก็เลยตัดสินใจจบความสัมพันธ์ แยกย้ายกันไปด้วยดี
ฝ่ายตรงข้ามไม่ได้ผิดอะไรเลย เค้ามีความสุขกับชีวิตในแบบของเค้า (และมีความสุขแบบนี้มาก่อนที่จะมารู้จักกับเราอีก)
เพียงแต่รู้สึกว่าตัวเองไม่สามารถปรับเปลี่ยนให้ไปใช้ชีวิตหรืออยู่ในสังคมแบบที่เค้าชอบได้
และกลับกันก็ไม่อยากให้เค้าต้องมาใช้ชีวิตในแบบที่เค้าไม่ชอบหรืออึดอัดด้วยเช่นเดียวกัน
หลังจากนั้นก็ไม่เคยคุยกับใครแบบจริงจังอีกเลย มาจนถึงปัจจุบัน
เวลาเจอญาติ คนรู้จัก จะเจอคำถามซ้ำๆ แบบว่า เมื่อไหร่จะมีครอบครัว บลาๆๆๆๆ 555
บางคนก็บอกว่าถ้าแก่ตัวไปจะเสียใจนะ เพราะไม่มีลูกหลานคอยดูแล อืม... ก็นะ แต่มันเป็นชีวิตที่เลือกแล้ว ก็พร้อมที่จะยอมรับมัน
มีใครที่ไม่อยากมีความรักเพราะ "ขี้เกียจ" บ้างมั้ยครับ หรือไม่ว่าจะด้วยเหตุผลอะไรก็ตามแต่ที่นอกเหนือไปจากนี้ก็ได้
อยากให้มาแชร์ประสบการณ์กันหน่อย ว่าทำไมถึงเลือกอยู่เป็นโสดกัน โดยเฉพาะคนที่อายุมากพอสมควรแล้ว เช่น 30+,40+
จะเรียกว่ากระทู้หาพวกก็ได้ 555
ขอบคุณทุกความคิดเห็นมากครับ
มีใครที่ไม่อยากมีความรักเพราะ "ขี้เกียจ" บ้างมั้ยครับ
ที่ผ่านมาก่อนหน้านี้ก็มีคนคุยมาเรื่อยๆ แต่ช่วงหลังมานี่คือไม่คบและไม่คุยกับใครเลย
ไม่ไช่เพราะหาไม่ได้ แต่สาเหตุหลักเลยคือ "ขี้เกียจ"
คือการจะคบใครซักคน โดยเฉพาะความสัมพันธ์แบบจริงจังที่พร้อมจะพัฒนามันจะต้องมีกระบวนการ เช่น
-เริ่มทำความรู้จักกัน เช่นโทร/แชท/นัดเจอ/กินข้าว/เที่ยว/ทำกิจกรรมร่วมกัน ฯลฯ กระบวนการนี้จะเป็นศึกษานิสัยใจคอซึ่งกันและกัน
เมื่อผ่านตรงนี้ไปได้จนตกลงคบกันแล้วก็ต้องเจอกับ
-การทำความรู้จักกับพ่อแม่ ครอบครัว ญาติพี่น้องของฝั่งตรงข้าม ยิ่งเป็นครอบครัวใหญ่ ญาติพี่น้องเยอะ ยิ่งต้องปรับตัว
-การทำความรู้จักเพื่อนฝูง บุคคลที่อยู่รอบตัวของฝั่งตรงข้าม
-การเอาตัวเองเข้าไปในวงจรชีวิตของฝั่งตรงข้าม เช่น ไลฟส์ไตล์, การใช้ชีวิต ฯลฯ
-การปรับตัวเข้ากับครอบครัวของฝั่งตรงข้าม ต้องไปมาหาสู่กัน ดูแลเทคแคร์ ช่วยเหลือ ฯลฯ
-การที่อาจจะต้องปรับเปลี่ยนเป้าหมายหรือการใช้ชีวิตของตัวเอง เพื่อให้บาลานซ์กันกับอีกคน ในกรณีที่พัฒนาจนมาป็นคู่ชีวิต
-ฯลฯ
ซึ่งส่วนตัวขี้เกียจสุดๆ และไม่อยากทำอะไรแบบนั้นเลย ทุกวันนี้แม้แต่เพื่อนหรือคนรู้จักใหม่ๆ ก็ไม่อยากมีเช่นกัน ยิ่งมากคนก็ยิ่งปวดหัว
ทุกวันนี้แค่อยากทำงาน + ดูแลคนในครอบครัว (ที่แก่ตัวลงทุกวัน) หมดวันก็นอนดูหนัง ฟังเพลง เล่นเน็ตไปเรื่อยเปื่อย
เปิดแอร์เย็นๆ สั่งอะไรอร่อยๆมากิน แล้วก็หลับ มีเวลาว่างก็ไปท่องเที่ยวบ้าง ขอแค่นี้แหล่ะในชีวิต ไม่ได้ต้องการอะไรอีกแล้ว
คือมีความสุขสุดๆกับการอยู่คนเดียว ใช้ชีวิตตัวคนเดียว หมกตัวอยู่ในบ้าน ถ้ามีใครอีกคนเข้ามาในชีวิตก็กลัวว่าความสุขเหล่านี้มันจะหายไป
หลายปีก่อน เคยคุยอยู่กับคนๆนึง (แต่ยังไม่ได้คบอย่างจริงจัง) นิสัยเข้ากันได้ดี แต่ปัญหาคือไลฟ์สไตล์ที่ต่างกันแบบคนละขั้ว
อีกฝั่งเป็นคนชอบสังคม มีเพื่อนเยอะ มีความสุขที่ได้ปาร์ตี้สังสรรค์ เที่ยว ทำกิจกรรมนอกบ้าน เอเนอจี้เยอะ
พยายามปรับตัวแล้ว เช่น ไปเที่ยว ไปทำกิจกรรมด้วยกันแบบที่อีกฝ่ายชอบ แต่สุดท้ายมันไม่มีความสุขเลย
คือจะถามตัวเองตลอด ว่ามาอยู่ตรงนี้ทำไม เพื่ออะไร สุดท้ายก็เลยตัดสินใจจบความสัมพันธ์ แยกย้ายกันไปด้วยดี
ฝ่ายตรงข้ามไม่ได้ผิดอะไรเลย เค้ามีความสุขกับชีวิตในแบบของเค้า (และมีความสุขแบบนี้มาก่อนที่จะมารู้จักกับเราอีก)
เพียงแต่รู้สึกว่าตัวเองไม่สามารถปรับเปลี่ยนให้ไปใช้ชีวิตหรืออยู่ในสังคมแบบที่เค้าชอบได้
และกลับกันก็ไม่อยากให้เค้าต้องมาใช้ชีวิตในแบบที่เค้าไม่ชอบหรืออึดอัดด้วยเช่นเดียวกัน
หลังจากนั้นก็ไม่เคยคุยกับใครแบบจริงจังอีกเลย มาจนถึงปัจจุบัน
เวลาเจอญาติ คนรู้จัก จะเจอคำถามซ้ำๆ แบบว่า เมื่อไหร่จะมีครอบครัว บลาๆๆๆๆ 555
บางคนก็บอกว่าถ้าแก่ตัวไปจะเสียใจนะ เพราะไม่มีลูกหลานคอยดูแล อืม... ก็นะ แต่มันเป็นชีวิตที่เลือกแล้ว ก็พร้อมที่จะยอมรับมัน
มีใครที่ไม่อยากมีความรักเพราะ "ขี้เกียจ" บ้างมั้ยครับ หรือไม่ว่าจะด้วยเหตุผลอะไรก็ตามแต่ที่นอกเหนือไปจากนี้ก็ได้
อยากให้มาแชร์ประสบการณ์กันหน่อย ว่าทำไมถึงเลือกอยู่เป็นโสดกัน โดยเฉพาะคนที่อายุมากพอสมควรแล้ว เช่น 30+,40+
จะเรียกว่ากระทู้หาพวกก็ได้ 555
ขอบคุณทุกความคิดเห็นมากครับ