เวียดนาม ประเทศส่งออกพริกไทยดำ ให้คนครึ่งโลก /โดย ลงทุนแมน

ซึ่งไม่ใช่แค่อันดับ 1 ของโลกธรรมดาเท่านั้น
แต่พริกไทยดำและพริกไทยขาว เวียดนามส่งออกเป็นอันดับ 1 ได้เกือบครึ่งโลกไปแล้ว
https://www.facebook.com/share/p/16pDS1Ld6L/


ถ้าเวียดนามไม่ส่งออกพริกไทยดำสัก 1 ปี คนครึ่งโลก ก็อาจจะไม่ได้กินพริกไทยดำบนสเต๊ก หรือกับอาหารอื่น ๆ อีกแล้ว

คำพูดนี้คงไม่เกินจริง เพราะปัจจุบัน พริกไทยดำที่เรากินกันอยู่ประจำ มาจากเวียดนามเกือบครึ่งหนึ่งเลยทีเดียว

ทำไมคนครึ่งโลก ต้องพึ่งพาพริกไทยดำจากเวียดนาม ?
ลงทุนแมนจะเล่าให้ฟัง

ก่อนอื่น ต้องเข้าใจก่อนว่า พริกไทยดำ พริกไทยขาว
และพริกไทย มาจากต้นเดียวกัน

- พริกไทยดำ คือ พริกไทยที่ยังไม่สุกเต็มที่ แต่นำไปตากแดดจนเป็นสีดำ

- พริกไทยขาว คือ พริกไทยที่สุก แล้วล้างเปลือกนอกจนขาว ก่อนเอาไปตากแห้งต่อ

พริกไทย เป็นพืชที่อยู่คู่กับคนทั้งโลกมานาน ตั้งแต่สมัยจีนโบราณที่เอามาทำยารักษาโรค มาจนถึงสมัยโรมัน
ที่ต้องหาซื้อมาเก็บไว้เป็นเสบียงสำรองของกองทัพ

พริกเม็ดเล็ก ๆ นี้สำคัญถึงขนาดที่คนยุโรปเรียกมันว่า
“ทองคำดำ” จนต้องออกเรือไปล่ามาไว้เป็นเจ้าของในช่วงศตวรรษที่ 15 เลยทีเดียว

ในช่วงนี้ นักเดินเรือชาวโปรตุเกส สเปน และชาติอื่น ๆ
เริ่มออกตามหาขุมทรัพย์ทองคำดำ จนมาพบกับอินเดีย
ที่เป็นแหล่งเครื่องเทศหลายชนิดชั้นดีของโลก

ซึ่งต่อมา พริกไทยก็เดินทางมาถึงเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ โดยนักเดินเรือยุโรปเหล่านี้ แต่ไม่ใช่แค่การนำเข้ามาอย่างเดียวเท่านั้น เพราะยังได้ทดลองปลูกอีกด้วย

และหนึ่งในประเทศที่ทดลองปลูกก็ไม่ใช่ใครที่ไหน แต่เป็น
“เวียดนาม” นั่นเอง

แต่ต้องบอกว่า การปลูกในช่วงแรกก็ยังไม่เยอะมากนัก
และต้องรอเวลาเกือบ 200 ปี กว่าเวียดนามจะเริ่มหันมาสนใจการปลูกพริกไทยเพื่อส่งออก

เวียดนามเริ่มสนใจพริกไทย หลังจากนโยบายโด่ย เหมยในปี 1987 ที่รัฐบาลหันมาใช้ระบบเศรษฐกิจแบบตลาด แทนที่จะวางแผนจากส่วนกลางแค่อย่างเดียว

แปลว่า ต่อไปนี้ถ้าเกษตรกรหรือเอกชน จะลงทุนอะไรสักอย่าง ก็สามารถลงทุนได้เลย ไม่ต้องมีรัฐบาลมาบอกว่าจะปลูกอะไรหรือผลิตสินค้าเท่าไรดี

ซึ่งทำให้พริกไทย ที่เมื่อก่อนรัฐบาลอาจวางแผนให้ปลูกเพื่อบริโภคในประเทศ ก็เปลี่ยนเป็นการปลูกเพื่อส่งออกไปต่างประเทศมากขึ้นแทน

หลังจากนั้น เวียดนามค่อย ๆ ก้าวขึ้นมาเป็นผู้ผลิตพริกไทยรายสำคัญของโลก ด้วยการแซงบราซิลและอินเดีย จนกลายเป็นผู้ส่งออกพริกไทยอันดับ 1 ของโลกในปี 2007

ถ้ายังจำกันได้ว่า เวียดนามเพิ่งสนใจส่งออกพริกไทยในปี 1987 เป็นต้นมา ก็แปลว่า แค่เวลา 20 กว่าปี เวียดนามสามารถครองตลาดพริกไทยเบอร์ 1 ของโลกได้แล้ว

ซึ่งไม่ใช่แค่อันดับ 1 ของโลกธรรมดาเท่านั้น
แต่พริกไทยดำและพริกไทยขาว เวียดนามส่งออกเป็นอันดับ 1 ได้เกือบครึ่งโลกไปแล้ว

เวียดนามส่งออกพริกไทยดำ 42% ของโลก มูลค่ากว่า 27,000 ล้านบาท
ส่วนพริกไทยขาว ส่งออก 48% ของโลก
ด้วยมูลค่ากว่า 10,000 ล้านบาท

คำถามคือ อะไรที่ทำให้พริกไทยเวียดนาม โดดเด่น ?

เหตุผลหลัก ๆ เลยคือ “เวียดนามเพิ่มผลผลิตพริกไทย
ในพื้นที่ที่เหมาะสม”

จุดเด่นของเวียดนาม กลายเป็นสวรรค์ของการปลูก
พริกไทย โดยเฉพาะโซนตอนใต้และที่ราบสูงตอนกลางของประเทศ ที่มีอากาศและความชื้นเหมาะกับการเติบโต

พอพื้นที่และอากาศเหมาะสมแล้ว พริกไทยเวียดนามจึงมีรสชาติที่โดดเด่น ทำให้เกษตรกรหันมาลงทุนมากขึ้น จนขยายการปลูกพริกไทยออกไปทั่วบริเวณนี้

ซึ่งเมื่อผลผลิตออกมาเยอะขึ้น ธุรกิจแปรรูปพริกไทยก็เติบโตตามมา จึงทำให้มีการพัฒนาวิธีการปลูกใหม่ ๆ เพื่อให้ได้ผลผลิตต่อไร่ที่สูงขึ้นไปเรื่อย ๆ

จากผลผลิตต่อไร่ที่สูงนี้เอง ทำให้พริกไทยเวียดนามมีราคาที่ต่ำกว่าคู่แข่งรายอื่น และสามารถยืนขึ้นเป็นเบอร์ 1 ในตลาดโลกมาได้อย่างต่อเนื่อง

แต่เรื่องนี้ก็ไม่ใช่เหตุผลเดียวที่ทำให้เวียดนามเป็นเบอร์ 1 เรื่องพริกไทยดำและพริกไทยขาวของโลก เพราะอีกเหตุผลหนึ่งที่สำคัญไม่แพ้กันคือ FTA

FTA ถ้าพูดง่าย ๆ มันคือ ข้อตกลงว่าประเทศหนึ่งสามารถส่งออกสินค้าไปอีกประเทศด้วยภาษี 0 บาทหรือไม่มีเลย ซึ่งเวียดนามก็ไปทำ FTA หลายฉบับอยู่ไม่น้อย

หนึ่งในนั้นคือ FTA กับประเทศในสหภาพยุโรป
ที่กลายเป็นแต้มต่อให้พริกไทยจากเวียดนาม สามารถ
ส่งออกไปได้ด้วยภาษี 0 บาท

ยุโรปเป็นลูกค้าพริกไทยคนสำคัญของเวียดนาม เพราะลองนึกภาพง่าย ๆ ว่า อาหารยุโรปอย่างสเต๊ก ก็ต้องมีส่วนผสมของพริกไทยเป็นวัตถุดิบอยู่แล้ว

ซึ่งปัจจุบัน มีแค่ 4 ประเทศในเอเชียที่มี FTA กับยุโรป
นั่นคือ ญี่ปุ่น สิงคโปร์ เกาหลีใต้ และเวียดนาม

แต่ประเทศเหล่านี้ไม่ได้เป็นคู่แข่งส่งออกพริกไทยกับเวียดนามแม้แต่น้อย ก็แปลว่า เวียดนามกำลังได้เปรียบเหนือคู่แข่งที่ส่งออกพริกไทยเหมือนกันไปเลย

อย่างไรก็ตาม ก็ต้องบอกว่า ปัจจุบันเวียดนามกำลังมีผลผลิตพริกไทยน้อยลง เพราะเกษตรกรบางส่วนหันไปปลูกพืชที่ให้ผลตอบแทนสูงกว่ามากขึ้น

จึงเป็นความท้าทายในอนาคตว่า เวียดนามจะรักษาตำแหน่งเบอร์ 1 ของโลกเรื่องพริกไทยอย่างไรต่อไปดี

แต่ที่แน่ ๆ ตอนนี้ เวียดนามกำลังกุมชะตาของคนครึ่งโลก
ด้วยพริกไทยเม็ดเล็ก ๆ ในมือเท่านั้น..

ปิดท้ายด้วยข้อมูลที่น่าสนใจ

จริง ๆ แล้วพริกไทย ไม่ได้มีต้นกำเนิดที่ไทย แต่เราเรียกชื่อว่าพริกไทย (พริกท้องถิ่น ที่มีในพื้นที่เอเชียตะวันออกเฉียงใต้)

เพื่อให้แตกต่างจากการเรียกพริก ที่เป็นพืชสีแดง ๆ ที่มาจากทวีปอเมริกาใต้ นั่นเอง

แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่