---

สำนักข่าวอีไฟแนนซ์ไทย- -3 ก.ค. 67 12:16 น.

 
สำนักข่าวรอยเตอร์ รายงานว่า รัฐบาลอินโดนีเซีย เตรียมปรับขึ้นภาษีสินค้านำเข้าจากประเทศจีน ตั้งแต่ 100% ไปจนถึงระดับสูงสุดที่ 200% โดยเป็นสินค้าประเภทรองเท้าไปจนถึงกลุ่มเซรามิกต่าง ๆ เพื่อปกป้องอุตสาหกรรมภายในประเทศ ที่ถูกตีตลาดอย่างหนักจนทำให้ผู้ประกอบการท้องถิ่นหลายรายต้องปิดกิจการลง
 
Zulkifli Hasan รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการค้าอินโดนีเซีย เปิดเผยว่า รัฐบาลมีแผนปรับขึ้นภาษีสินค้านำเข้าจากประเทศ โดยเฉลี่ยมากกว่า 100% พร้อมระบุว่า “หากเราถูกสินค้านำเข้าตีตลาดจนล้นคลัง จะทำให้กลุ่มวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดเล็ก หรือแม้แต่ธุรกิจขนาดย่อมภายในประเทศ อาจต้องปิดกิจการได้ ซึ่งการปรับขึ้นภาษีนำเข้าจะช่วยชะลอการไหลทะลักของสินค้าเหล่านี้”
 
อินโดนีเซีย ถือเป็นหนึ่งในประเทศที่มีขนาดเศรษฐกิจที่ใหญ่ที่สุดในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ได้ออกกฎระเบียบดังกล่าวเมื่อปลายปีที่ผ่านมา เพื่อเพิ่มความเข้มงวดในการตรวจสอบสินค้านำเข้ามากกว่า 3,000 รายการ ตั้งแต่วัตถุดิบอาหาร อิเล็กทรอนิกส์ และสารเคมี
 
อย่างไรก็ตาม กฎระเบียบดังกล่าวถูกยกเลิกหลังจากภาคอุตสาหกรรมในประเทศระบุว่า ขัดขวางการนำเข้าวัตถุดิบที่จำเป็นสำหรับภาคอุตสาหกรรม โดยรัฐบาลอินโดนีเซียจะมีการเรียกเก็บภาษีสินค้านำเข้าจากจีนอีกครั้งในเร็ว ๆ นี้ และอาจส่งผลกระทบต่อการนำเข้าสินค้าประเภทรองเท้า เสื้อผ้า สิ่งทอ เครื่องสำอาง และเซรามิก
 
นาย  Budi Santoso เจ้าหน้าที่ระดับอาวุโสกระทรวงการค้าอินโดนีเซียระบุว่า ในปัจจุบัน คณะกรรมการคุ้มครองการค้าของอินโดนีเซีย กำลังเร่งพิจารณากำหนดอัตราภาษีใหม่ โดยอินโดนีเซีย นำเข้าเครื่องแต่งกายและเครื่องประดับจากจีน เวียดนาม และบังกลาเทศเป็นหลัก
 
ทั้งนี้ จีนถือเป็นคู่ค้ารายใหญ่ของอินโดนีเซีย  โดยในปี 2566 เม็ดเงินลงทุน FDI จากจีนในอินโดนีเซียมีมูลค่ากว่า 7 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ
 
ทื่มา Reuters, Vietnamplus