‘โปรตีนรั่วในปัสสาวะ’ อาการเสี่ยงโรคไตที่ต้องระวัง!

KEY POINTS
"โปรตีนรั่ว" เป็นภาวะชนิดหนึ่งที่เกิดจากไตทำงานผิดปกติ ทำให้ไม่สามารถกรองโปรตีนอัลบูมินที่สำคัญต่อการควบคุมน้ำและเนื้อเยื่อ 
ผู้ป่วยจะมีอาการในรูปแบบต่าง ๆ เช่น ปัสสาวะมีฟอง, ปัสสาวะบ่อย, มีอาการบวมน้ำ, เป็นตะคริวตอนกลางคืน ฯลฯ
สาเหตุส่วนใหญ่เกิดจากโรคไตเสื่อมเป็นหลัก โดยเฉพาะโรคไตเสื่อมที่เกิดมาจากการดูเเลโรคประจำตัวไม่ดี เช่น โรคเบาหวาน โรคความดันโลหิตสูง

โปรตีนรั่วในปัสสาวะ หลายคนอาจจะไม่เคยคุ้นชินกับภาวะนี้มาก่อน ทำให้คุณไม่ทันสังเกตอาการป่วย และเผลอมองข้ามไป จนนำไปสู่อาการที่รุนแรงขึ้น และเป็นโรคไตได้ในที่สุด อ่านถึงตรงนี้คุณอาจเกิดข้อสงสัยได้ว่าโปรตีนรั่วอันตรายไหม? บทความนี้เราขอพาคุณไปทำความเข้าใจถึงสัญญาณเสี่ยงที่บ่งบอกถึงภาวะโปรตีนรั่ว พร้อมรู้ถึงสาเหตุ การรักษา และวิธีป้องกันความเสี่ยง เพื่อเป็นแนวทางในการดูแลสุขภาพให้ดีอยู่เสมอ

โปรตีนรั่ว คือ เป็นภาวะหนึ่งที่บ่งบอกถึงได้ว่าคุณกำลังมีความเสี่ยงเป็นโรคไตอักเสบ เนื่องจากภาวะนี้เกิดจากการทำงานของไตที่ผิดปกติ  มักพบโปรตีนอัลบูมินในปัสสาวะมากที่สุด เนื่องจากเป็นโปรตีนชนิดหนึ่งที่ประกอบอยู่ในเลือดเป็นส่วนใหญ่ และได้ไหลเวียนไปยังส่วนต่าง ๆ ของร่างกาย รวมถึงไตด้วยเช่นกัน

โปรตีนอัลบูมินสัมพันธ์กับน้ำและเนื้อเยื่อโดยตรง เมื่อไตทำงานผิดปกติ ส่งผลให้ร่างกายสูญเสียโปรตีนชนิดนี้ไปเจือปนกับปัสสาวะในปริมาณที่มาก อาจทำให้ร่างกายบวม ปัสสาวะเป็นฟอง หายใจลำบาก
 

โปรตีนรั่วในปัสสาวะ คืออะไร?
โดย “โปรตีนรั่วในปัสสาวะ” เกิดได้ทั้งในเด็ก และผู้ใหญ่  หากเห็น “เด็กตาบวมตัวบวม หรือปัสสาวะเป็นฟอง” ควรมาพบแพทย์เพื่อให้ได้การวินิจฉัยที่เหมาะสมทันท่วงที และให้การดูแลอย่างถูกต้อง โดยหลักๆ เบื้องต้นแพทย์จะแยกก่อนว่าภาวะบวมนี้เกิดจากอะไร  ซึ่งแบ่งเป็นกลุ่มโรคได้ดังนี้
โรคหัวใจที่มีหัวใจวายร่วม
ตับวาย
โรคไต
การแพ้รุนแรงแบบเฉียบพลัน
ภาวะทุพโภชนาการที่มีภาวะโปรตีนในร่างกายต่ำอย่างมาก

Nephrotic syndrome หรือกลุ่มอาการโปรตีนรั่วในปัสสาวะ (หรือที่บางครั้งจะได้ยินว่า ไข่ขาวรั่วในปัสสาวะ) เป็นสาเหตุหนึ่งของโรคไตที่ทำให้เกิดปัญหานี้ มักจะมาด้วยประวัติบวมๆยุบๆ ที่หนังตาบน ขาบวม ท้องบวม หรือบวมทั้งตัว มักมีปัสสาวะเป็นฟองร่วมด้วย จัดเป็นกลุ่มอาการที่ต้องประกอบด้วย
มีประวัติบวมที่หนังตา บวมที่ขา หน้าเท้า ตาตุ่มด้านใน ท้องบวม หรือตัวบวมทั้งตัว
มีโปรตีนรั่ว ออกมาในปัสสาวะตามปริมาณที่กำหนด
มีระดับโปรตีนในเลือดต่ำ
มีระดับไขมันคลอเลสเตอรอลในเลือดสูง
อย่างไรก็ตาม โปรตีนรั่ว เป็นภาวะที่มีโปรตีนในกระแสเลือดรั่วออกมาในปัสสาวะมากเกินไป เป็นผลมาจากไตที่ทำงานผิดปกติ เพราะโดยทั่วไปแล้ว ไตจะกรองโปรตีนในเลือดไม่ให้ผ่านไปเจือปนกับปัสสาวะ ส่งผลให้ร่างกายสูญเสียโปรตีนชนิดนี้ไป และเกิดอาการป่วยในเวลาต่อมา
ด้วยเหตุนี้ ภาวะโปรตีนในปัสสาวะจึงสามารถเป็นสัญญาณสำคัญที่บ่งบอกได้ว่าคุณอาจกำลังเสี่ยงเป็นโรคไต เช่น ไตรั่ว ไตวาย หรือไตอักเสบ เป็นต้น

สาเหตุที่ทำให้โปรตีนรั่วมีอะไรบ้าง?
สาเหตุ ภาวะโปรตีนรั่วในไต หลักมาจากการเป็นโรคไตอักเสบ 2 ชนิด คือ โรคไตเนโฟรติกปฐมภูมิ (Primary Nephrotic Syndrome) และ โรคไตเนโฟรติกทุติยภูมิ (Secondary Nephrotic Syndrome) ที่มีสาเหตุมาจากการเป็นโรคประจำตัว เช่น โรคเบาหวาน โรคความดันโลหิตสูง โรคภูมิแพ้ตัวเอง เป็นต้น ทำให้มีโปรตีนอัลบูมินรั่วหลุดจากผนังหลอดเลือดของไตมากขึ้น และทำให้ร่างกายแสดงอาการขึ้นในเวลาต่อมา

พบบ่อยในช่วงอายุ 1-8 ปี แต่ทั้งนี้ เกิดได้ทุกช่วงอายุและมีสาเหตุการเกิดที่แตกต่างกันไป โดยหากลงไปดูที่ไตระดับหน่วยการกรองจะพบว่ามีการอักเสบและการทำลายของเส้นเลือดฝอยระดับหน่วยการกรองที่ไตที่เรียกว่า glomerulus

การเกิดการอักเสบและการทำลายเส้นเลือดฝอยระดับหน่วยการกรองของไต (glomerulus) ทำให้มีการรั่วของโปรตีนของร่างกาออกมาในปัสสาวะ ที่เรียกว่า Albumin การสูญเสียโปรตีน Albumin ซึ่งเป็นส่วนประกอบที่สำคัญของร่างกาย ออกไปทำให้เกิดอาการภาวะดังกล่าวข้างต้น และสามารถเกิดภาวะแทรกซ้อนหลายอย่างตามมาได้

•ในเด็ก ส่วนมากสาเหตุการเกิดยังไม่ชัดเจน แต่พบว่ามีความผิดปกติเพียงเล็กน้อยของ ส่วนระดับการกรองของไต เรียกว่า minimal change disease ที่เหลืออาจจะมีความผิดปกติเป็นผังผืดบางส่วน หรือมีการหนาตัวของผนังการกรองของไต จะมีเพียงส่วนน้อยที่เกิดจากโรคที่ทราบสาเหตุ เช่น SLE การติดเชื้อไวรัส หรือเป็นภาวะแทรกซ้อนจากการใช้ยา

•ในผู้ใหญ่ 30% ของสาเหตุความผิดปกติเกิดจากโรคประจำตัวเดิมของผู้ป่วยคือ เบาหวานและความดันโลหิตสูง ที่เหลือส่วนมากเป็นโรคที่ทราบสาเหตุ เช่น การติดเชื้อ ภาวะแพ้ภูมิตัวเอง e.g. SLE  ยาหรือโลหะหนักต่างๆ มีเพียงส่วนน้อยที่ไม่ทราบสาเหตุแบบที่พบในกลุ่มผู้ป่วยเด็ก
ปัจจัยเสี่ยงที่ทำให้โปรตีนรั่ว

นอกจากนี้ ภาวะเจ็บป่วย พฤติกรรมการใช้ชีวิตที่ไม่ถูกต้อง รวมถึงปัจจัยภายนอกร่างกายก็เป็นอีกหนึ่งปัจจัยเสี่ยงที่ทำให้โปรตีนรั่วเช่นกัน ซึ่งล้วนส่งผลกระทบต่อการทำงานของไตทั้งสิ้น โดยโปรตีนรั่วในปัสสาวะเกิดจากสาเหตุต่าง ๆ ได้หลากหลายเช่น
ไตเสื่อม
การติดเชื้อทางเดินปัสสาวะ
โรคแพ้ภูมิคุ้มกันตัวเอง
เป็นไข้
ได้รับพิษจากโลหะหนัก เช่น แคดเมียม ตะกั่ว ปรอท เป็นต้น
การบาดเจ็บจากการใช้ยาจำพวก NSAID
การออกกำลังกายหนักเกินไป
ภาวะเจ็บป่วยอื่น ๆ ที่ทำให้เกิดภาวะโปรตีนรั่ว

อาการที่เป็นสัญญาณเสี่ยงโปรตีนรั่ว
ต้องอธิบายก่อนว่า อัลบูมินเป็นโปรตีนชนิดหนึ่งที่สำคัญต่อร่างกาย ทำหน้าที่ดึงน้ำต่าง ๆ ที่รั่วออกไปนั้นกลับเข้ามาในกระแสเลือด ช่วยหล่อเลี้ยงเนื้อเยื่อให้สุขภาพดี และควบคุมการขนส่งฮอร์โมน ยา วิตามิน และแร่ธาตุต่าง ๆ ไปยังทุกส่วนของร่างกาย แต่เมื่อไตเกิดความผิดปกติขึ้น ทำให้ไตไม่สามารถกรองโปรตีนอัลบูมินกลับจากกระแสเลือดที่ไหลเวียนผ่านไปได้ จึงเป็นเหตุผลว่าทำไมถึงพบโปรตีนในปัสสาวะในปริมาณที่สูงนั่นเอง
เมื่อโปรตีนอัลบูมินรั่วในปัสสาวะ ทำให้ร่างกายสูญเสียโปรตีนอัลบูมินไปในปริมาณมาก จนเกิดภาวะที่เรียกว่า “ภาวะอัลบูมินในเลือดต่ำ (Hypoalbuminemia)” ส่งผลให้ร่างกายเกิดอาการบวม (Edema) เป็นอาการสำคัญ เนื่องจากโปรตีนอัลบูมินที่ลดลงทำให้ แรงดันออนโคติก (Oncotic Pressure) หรือเเรงที่ดึงดูดน้ำไว้ภายในหลอดเลือดลดลงด้วย ส่งผลให้ของเหลวในเลือดนั้นเคลื่อนที่ออกจากหลอดเลือด และไหลเข้าสู่เนื้อเยื่อจนเกิดการบวมขึ้นมา

4 ระดับโปรตีนรั่วที่ควรรู้
โปรตีนรั่วมีทั้งหมด 4 ระดับด้วยกัน คือ
1.โปรตีนรั่วระดับปกติ ปริมาณโปรตีนที่รั่วจะน้อยกว่า 150 มก. / 24 ชม.
2.โปรตีนรั่วระดับปานกลาง ปริมาณโปรตีนที่รั่วจะอยู่ที่ 150-500 มก. / 24 ชม.
3.โปรตีนรั่วระดับรุนแรง ปริมาณโปรตีนที่รั่วจะมากกว่า 500 มก. / 24 ชม. 
4.โปรตีนรั่วระดับรุนแรงมากถึงขั้นเป็นโรคไตเนโฟรติก ซึ่งปริมาณโปรตีนจะรั่วมากกว่า 3,500 มก. / 24 ชม.

เช็กสัญญาณบ่งบอกได้ว่ากำลังเป็นโรคโปรตีนรั่ว 
1. ปัสสาวะเป็นฟอง
ปัสสาวะเป็นฟองคืออาการสำคัญที่บ่งบอกได้ว่าไตกำลังมีปัญหา ซึ่งสิ่งที่ทำให้ปัสสาวะเกิดฟองขึ้นนั้นก็คือโปรตีนที่รั่วออกมามากเกินไป
2. ปัสสาวะบ่อยขึ้น
โปรตีนอัลบูมินในเลือดมีความสำคัญในการรักษาสมดุลของเหลวในร่างกาย แต่เมื่อโปรตีนอัลบูมินในเลือดลดลง จึงทำให้แรงดันออนโคติกในเลือดลดลงตามมา ซึ่งส่งผลให้เกิดอาการบวม ดังนั้นร่างกายจึงพยายามปรับสมดุลเพื่อขับน้ำส่วนเกินออกมาจนกลายเป็นอาการปัสสาวะบ่อยขึ้น
3. มีอาการบวมน้ำ
เมื่อร่างกายสูญเสียโปรตีนอัลบูมินในปริมาณที่มาก ทำให้ระดับโปรตีนในเลือดน้อยลง ส่งผลให้แรงดันออนโคติกในเลือดลดลง อีกทั้งยังทำให้น้ำในเลือดซึมออกไปตามเนื้อเยื่อส่วนต่าง ๆ ด้วย ทำให้มีอาการบวมน้ำตามมือ เท้า ใบหน้า ท้อง และข้อเท้าได้ ส่วนในตอนเช้าอาจมีอาการบวมที่รอบดวงตาประกอบด้วย นอกจากนี้ ผู้ป่วยบางรายอาจมีน้ำคั่งอยู่ภายในปอด
4. เป็นตะคริวตอนกลางคืน
อาการตะคริวเป็นอีกหนึ่งสัญญาณเตือนที่บ่งบอกได้ว่ากำลังมีภาวะโปรตีนรั่ว เพราะการทำงานของไตที่ผิดปกติ ทำให้ประสิทธิภาพในการควบคุมความสมดุลของเกลือเเร่ที่มีผลต่อการหดตัวของกล้ามเนื้อเปลี่ยนไป จึงมีโอกาสที่จะเป็นตะคริวตอนกลางคืนได้

วิธีป้องกันเพื่อลดความเสี่ยงจากภาวะโปรตีนรั่ว
การป้องกันตัวเองเพื่อลดความเสี่ยงจากภาวะโปรตีนรั่วสามารถทำได้หลากหลายวิธีด้วยกัน ซึ่งล้วนเป็นวิธีที่สามารถทำได้ด้วยตัวเอง โดยมีวิธีป้องกันจากภาวะนี้ คือ
งดทานอาหารรสเค็มจัด อาหารที่ปรุงด้วยเกลือ และมีโซเดียมสูง
ทานอาหารที่มีกากใยอาหารมากขึ้น
ออกกำลังกายอย่างสม่ำเสมอ อย่างน้อยอาทิตย์ละ 2 ชั่วโมง
ตรวจสุขภาพอย่างสม่ำเสมอ เช่น วัดความดัน ตรวจระดับน้ำตาล
งดสูบบุหรี่หรือยาสูบ เพราะจะเป็นช่ยส่งเสริมให้โปรตีนรั่วได้ง่ายขึ้น
หลีกเลี่ยงการใช้ยาที่แพทย์ไม่ได้สั่ง โดยเฉพาะยาต้านการอักเสบที่ไม่ใช่สเตียรอยด์ (NSAIDs) เว้นแต่แพทย์จะแนะนำ NSAID ที่พบได้บ่อยที่สุด ได้แก่ แอสไพริน ไอบูโพรเฟน และนาพรอกเซน
 

ยาวมากลงในกระทู้ไม่หมด กรุณาอ่านต่อที่ https://www.bangkokbiznews.com/health/well-being/1189094

แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่