คำที่ใช้บ่อย ๆ ในความหมายนี้คือ 📌 “Gatekeeping” หมายถึงการที่บางคนคอยหวงแหนหรือกีดกัดคนอื่นไม่ให้เข้าถึงบางสิ่ง เช่นในประโยค “Why are people in this field always gatekeeping basic info?” (ทำไมคนในวงการนี้ถึงหวงวิชากันจังเลยนะ)
หรือเราอาจจะใช้วลีที่เป็นการอธิบายตรงตัวเลยคือ 📌 “Unwilling to share knowledge” แปลว่า ไม่เต็มใจ/ไม่อยากแบ่งปันข้อมูลความรู้ เช่นในประโยค “Despite being highly experience, he seemed unwilling to share his knowledge with junior staff.” (แม้ว่าเขาจะมีประสบการณ์สูง แต่เขาไม่เต็มใจจะแบ่งปันความรู้กับพนักรุ่นน้องสักเท่าไหร่)
คำที่ native ใช้กันแบบทางการเลยได้แก่ 📌 “To hoard knowledge” (hoard แปลว่า กักตุน หรือ สะสม) สื่อถึงการที่ใครสักคนมีข้อมูลหรือความรู้เยอะมาก ๆ แต่ไม่ยอมแบ่งปันกับใคร เช่นในประโยค “Instead of mentoring the team, he’s just hoarding knowledge and making himself indispensable.” (แทนที่เขาจะสอนคนอื่นให้ทีม เขากลับเลือกเก็บความรู้ไว้คนเดียวเพื่อให้ตัวเองมีความสำคัญ) *indispensable แปลว่า สำคัญจนขาดไปไม่ได้
ถ้าแปลแบบตรงตัวสุด ๆ คำว่า “หวงวิชา” ในภาษาอังกฤษก็คงจะพูดประมาณ 👉🏻 “To be possessive of what you know” ครับ ซึ่งก็เข้าใจได้เลยนะ เช่นเราอาจพูดในประโยคประมาณ “Being possessive of what you know doesn’t make you smarter.” (หวงวิชาไว้ก็ไม่ทำให้คุณฉลาดขึ้นหรอก)
และอีกสำนวนครับ อันนี้ใช้ได้กับทุกอย่างเลยไม่ใช่แค่การหวงวิชา คือวลี 👉🏻 “To keep it to yourself” ที่แปลว่า เก็บไว้ไม่บอกใคร นั่นเอง เช่นในประโยค “She found a better way to do it but just kept it to herself.” (เธอค้นพบวิธีที่ดีกว่าแต่เก็บไว้ไม่บอกใคร)
แต่สรุปแล้วก็คือคำแรกสุด ✅ “To gatekeep” น่าจะตรงความหมายที่สุดแล้วแหละ (Stop gatekeeping knowledge! 👉🏻 หยุดหวงความรู้ได้แล้ว!)
_______________
ลองมาดูบทสนทนาในบริบท “หวงวิชา” กันหน่อยครับ
บริบทที่หนึ่ง: สูตรทำเกี๊ยว
A: “I asked Julia how she makes her dumplings so thin — she just said…” 😲
(ฉันถามจูเลียว่าเธอทำเกี๊ยวยังไงให้บางขนาดนั้นได้ แล้วเธอก็บอกว่า...)
B: “Let me guess — she just smiled and said “just experimenting”?” 😒
(ขอเดาก่อนเลยนะ เธอยิ้มและตอบว่า “แค่ทดลองทำไปเรื่อย ๆ”)
A: “Yeah, like she doesn’t want anyone else to learn.” 🤔
(ใช่เลย มันเหมือนเธอไม่อยากให้คนอื่นรู้วิธีทำเลย)
B: “She’s gatekeeping hard. Way too possessive of what she knows.” 😬
(เธอหวงวิชาหนักมาก ไม่ยอมบอกอะไรกับใครเลย)
A: “It’s not like we’re stealing her recipe. We’re just trying to learn.” 😐
(พวกเราก็ไม่ได้อยากขโมยสูตรเธอสักหน่อย แค่อยากเรียนรู้)
บริบทที่สอง: ขอดูสมุดจด
A: “Hey, can you show me how you took notes for the history test?” 🙏🏻
(เฮ้ ฉันขอดูสมุดจดวิชาประวัติศาตร์ของเธอหน่อยได้ไหม)
B: “Umm… it’s kind of messy. I don’t think it’ll make sense” 😬
(เอิ่มม ฉันจดไม่สวยเลยอะ เธอน่าจะอ่านไม่เข้าใจหรอก)
A: “You said that about every subject. It feels like you just want to keep it to yourself.” 😩
(เธอพูดแบบนี้กับทุกวิชาเลย เหมือนกับว่าเธอไม่อยากให้ใครดู)
B: “I’m not trying to be mean, I just don’t want to explain.” 😲
(ไม่ใช่สักหน่อย ฉันแค่ขี้เกียจอธิบายเพิ่มเติมเวลาเธออ่านไม่ออก)
A: “Still, it feels like you’re unwilling to share what you know.” 🤔
(ก็นะ ก็ยังรู้สึกเหมือนกับว่าเธอแค่อยากหวงวิชาไว้คนเดียว)
**บริบทที่สองนี่จริง ๆ ผมเข้าใจได้เลยนะ ฮ่า ๆ เกิดกับตัวเองบ่อย ให้ดูแล้วก็ต้องมาตอบคำถามอีกมากมาย**
บริบทที่สาม: ไม่ยอมเฉลย
A: “Did you see that Sam didn’t share the answers for question 5?” 🤔
(เห็นเปล่าว่าแซมไม่ยอมเฉลยคำตอบข้อ 5 ให้พวกเรา)
B: “Yeah, I asked him, and he just said, “Figure it out yourself.”” 😥
(อืม ฉันไปถามเขาแล้ว เขาตอบว่า “ก็คิดเองสิ”)
A: “Seriously? We’re supposed to work together.” 😒
(จริงปะเนี่ย แทนที่เราจะช่วย ๆ กัน)
B: “He always does that — hoards knowledge like it’s a secret treasure.” 😩
(เขาทำงี้ตลอดแหละ หวงวิชาไว้อย่างกับมันเป็นสมบัติล้ำค่า)
“รู้ให้มากกว่าเมื่อวาน”
JGC. ✌🏻🇬🇧
“หวงวิชา” ภาษาอังกฤษพูดว่า...
หรือเราอาจจะใช้วลีที่เป็นการอธิบายตรงตัวเลยคือ 📌 “Unwilling to share knowledge” แปลว่า ไม่เต็มใจ/ไม่อยากแบ่งปันข้อมูลความรู้ เช่นในประโยค “Despite being highly experience, he seemed unwilling to share his knowledge with junior staff.” (แม้ว่าเขาจะมีประสบการณ์สูง แต่เขาไม่เต็มใจจะแบ่งปันความรู้กับพนักรุ่นน้องสักเท่าไหร่)
คำที่ native ใช้กันแบบทางการเลยได้แก่ 📌 “To hoard knowledge” (hoard แปลว่า กักตุน หรือ สะสม) สื่อถึงการที่ใครสักคนมีข้อมูลหรือความรู้เยอะมาก ๆ แต่ไม่ยอมแบ่งปันกับใคร เช่นในประโยค “Instead of mentoring the team, he’s just hoarding knowledge and making himself indispensable.” (แทนที่เขาจะสอนคนอื่นให้ทีม เขากลับเลือกเก็บความรู้ไว้คนเดียวเพื่อให้ตัวเองมีความสำคัญ) *indispensable แปลว่า สำคัญจนขาดไปไม่ได้
ถ้าแปลแบบตรงตัวสุด ๆ คำว่า “หวงวิชา” ในภาษาอังกฤษก็คงจะพูดประมาณ 👉🏻 “To be possessive of what you know” ครับ ซึ่งก็เข้าใจได้เลยนะ เช่นเราอาจพูดในประโยคประมาณ “Being possessive of what you know doesn’t make you smarter.” (หวงวิชาไว้ก็ไม่ทำให้คุณฉลาดขึ้นหรอก)
และอีกสำนวนครับ อันนี้ใช้ได้กับทุกอย่างเลยไม่ใช่แค่การหวงวิชา คือวลี 👉🏻 “To keep it to yourself” ที่แปลว่า เก็บไว้ไม่บอกใคร นั่นเอง เช่นในประโยค “She found a better way to do it but just kept it to herself.” (เธอค้นพบวิธีที่ดีกว่าแต่เก็บไว้ไม่บอกใคร)
แต่สรุปแล้วก็คือคำแรกสุด ✅ “To gatekeep” น่าจะตรงความหมายที่สุดแล้วแหละ (Stop gatekeeping knowledge! 👉🏻 หยุดหวงความรู้ได้แล้ว!)
_______________
ลองมาดูบทสนทนาในบริบท “หวงวิชา” กันหน่อยครับ
บริบทที่หนึ่ง: สูตรทำเกี๊ยว
A: “I asked Julia how she makes her dumplings so thin — she just said…” 😲
(ฉันถามจูเลียว่าเธอทำเกี๊ยวยังไงให้บางขนาดนั้นได้ แล้วเธอก็บอกว่า...)
B: “Let me guess — she just smiled and said “just experimenting”?” 😒
(ขอเดาก่อนเลยนะ เธอยิ้มและตอบว่า “แค่ทดลองทำไปเรื่อย ๆ”)
A: “Yeah, like she doesn’t want anyone else to learn.” 🤔
(ใช่เลย มันเหมือนเธอไม่อยากให้คนอื่นรู้วิธีทำเลย)
B: “She’s gatekeeping hard. Way too possessive of what she knows.” 😬
(เธอหวงวิชาหนักมาก ไม่ยอมบอกอะไรกับใครเลย)
A: “It’s not like we’re stealing her recipe. We’re just trying to learn.” 😐
(พวกเราก็ไม่ได้อยากขโมยสูตรเธอสักหน่อย แค่อยากเรียนรู้)
บริบทที่สอง: ขอดูสมุดจด
A: “Hey, can you show me how you took notes for the history test?” 🙏🏻
(เฮ้ ฉันขอดูสมุดจดวิชาประวัติศาตร์ของเธอหน่อยได้ไหม)
B: “Umm… it’s kind of messy. I don’t think it’ll make sense” 😬
(เอิ่มม ฉันจดไม่สวยเลยอะ เธอน่าจะอ่านไม่เข้าใจหรอก)
A: “You said that about every subject. It feels like you just want to keep it to yourself.” 😩
(เธอพูดแบบนี้กับทุกวิชาเลย เหมือนกับว่าเธอไม่อยากให้ใครดู)
B: “I’m not trying to be mean, I just don’t want to explain.” 😲
(ไม่ใช่สักหน่อย ฉันแค่ขี้เกียจอธิบายเพิ่มเติมเวลาเธออ่านไม่ออก)
A: “Still, it feels like you’re unwilling to share what you know.” 🤔
(ก็นะ ก็ยังรู้สึกเหมือนกับว่าเธอแค่อยากหวงวิชาไว้คนเดียว)
**บริบทที่สองนี่จริง ๆ ผมเข้าใจได้เลยนะ ฮ่า ๆ เกิดกับตัวเองบ่อย ให้ดูแล้วก็ต้องมาตอบคำถามอีกมากมาย**
บริบทที่สาม: ไม่ยอมเฉลย
A: “Did you see that Sam didn’t share the answers for question 5?” 🤔
(เห็นเปล่าว่าแซมไม่ยอมเฉลยคำตอบข้อ 5 ให้พวกเรา)
B: “Yeah, I asked him, and he just said, “Figure it out yourself.”” 😥
(อืม ฉันไปถามเขาแล้ว เขาตอบว่า “ก็คิดเองสิ”)
A: “Seriously? We’re supposed to work together.” 😒
(จริงปะเนี่ย แทนที่เราจะช่วย ๆ กัน)
B: “He always does that — hoards knowledge like it’s a secret treasure.” 😩
(เขาทำงี้ตลอดแหละ หวงวิชาไว้อย่างกับมันเป็นสมบัติล้ำค่า)
“รู้ให้มากกว่าเมื่อวาน”
JGC. ✌🏻🇬🇧