“เมื่อเลือกแล้ว ก็ต้องยอมรับ” ภาษาอังกฤษพูดว่า...

ปกติจะเริ่มด้วยการแปลแบบตรงตัว แต่เนื่องจากประโยคนี้มันมีคำพูดสุดคลาสสิคที่เราใช้กันในภาษาอังกฤษอยู่แล้วครับคือ 📌 “You made your bed, now (you must) lie in it.” (คุณสร้างเตียงนี้ขึ้นมา คุณก็ต้องเป็นคนนอน / วลี “make bed” อาจจะแปลว่า “จัดเตียง” เฉย ๆ ก็ได้ครับ ไม่ถึงขั้นสร้าง)

ใช้ในชีวิตประจำวันได้เลย ไม่ใช่ประโยคที่ฟังดูแปลกหู (ใช้กันบ่อยมาก) แต่ถึงกระนั้น มาดูคำพูดแบบทั่วไปกันสักหน่อย ได้ยินบ่อยไม่แพ้กันเลยครับ

✅ “You signed up for it.
(sign up for = สมัครเข้ามาเป็นส่วนหนึ่ง แต่ในประโยคนี้มันให้ความหมายประมาณ เลือกจะทำเอง)

✅ “You knew what you were getting into.
(คุณรู้ตั้งแต่แรกแล้วว่าคุณจะต้องเจออะไร = ตอนนี้ก็จงยอมรับมัน)

✅ “You chose it — now deal with it.
(เลือกแล้ว ก็อยู่กันมันให้ดี)

สองประโยคแรกคือละความหมายที่บอกว่า “คุณต้องยอมรับผลของมันออกไป” (เพราะพูดแค่ครึ่งเดียวก็เข้าใจแล้วครับ) ส่วนประโยคสุดท้ายคือการพูดแบบตรงตัวเลย 

ประโยคอื่น ๆ ที่เป็นการพูดแบบตรงตัวเข้าใจง่าย ๆ เลยก็เช่น...

👉🏻 “You gotta live with the consequences.
(คุณต้องอยู่กับผลที่ตามมาให้ได้)

👉🏻 “You brought this on yourself.
(คุณแส่หาเรื่องเอง = ออกแนวด่านิดหน่อยประโยคนี้ 😂)

👉🏻 “That’s the choice you made.
(ก็คุณเลือกเองนี่)

หนึ่งประโยคเท่ ๆ ที่พูดกันในความหมายนี้คือ 📌 “Play stupid games, win stupid prizes.” (เล่นเกมโง่ ก็ได้รางวัลโง่ ๆ) และ 📌 “That’s your cross to bear.” (กางเขนนั้นคุณต้องแบกเอง) ฟังดูเท่ครับ แต่มันเป็นประโยคแบบ negative ทั้งคู่เลยนะ เอาไว้ใช้ตำหนิเท่านั้น

จริง ๆ ทุกประโยคที่กล่าวมา (รวมถึงประโยคภาษาไทย) มันก็ออกแนวตำหนิทั้งหมดนั่นแหละครับ ประโยคนี้คงไม่มีใครเอาไว้ชม 555 สุดท้ายก็จบด้วยประโยคที่ฟังแล้วเจ็บจี๊ดอีกอันคือ... 🔥 “A little late for regrets, don’t you think?” (มาเสียใจตอนนี้ก็สายไปแล้วมั้งคุณ) ก็เลือกแล้ว ก็ต้องอยู่กับมันให้ได้นะ
______________

บทสนทนาที่เกี่ยวกับการ “เลือกแล้วก็ต้องยอมรับผลลัพธ์ที่ตามมา”

บริบทที่ 1: อาสาเอง งานหนักแค่ไหนก็ต้องยอม
A: “I can’t believe they’ve got me working weekends again. I haven’t had a real day off in three weeks.” 😭
(จะบ้าตาย พวกเขาให้ผมทำงานช่วงสุดสัปดาห์อีกแล้ว ไม่ได้หยุดเสาร์-อาทิตย์มาสามสัปดาห์แล้วเนี่ย)
B: “Didn’t you volunteer to lead the project?” 🤔
(อ้าวไม่ใช่ว่าคุณอาสามาดูแลโปรเจกต์นี้เองหรอกเหรอ)
A: “Yeah, but I didn’t know it’d be this much.
(ก็ใช่ แต่ผมไม่รู้นี่ว่ามันจะหนักหนาสาหัสแบบนี้) 😥
B: “Still. You signed up for it.” 😬
(ก็นะ ในเมื่อคุณเลือกจะทำเอง)
A: “I just thought it’d help my chances at promotion.” 😣
(ผมก็แค่คิดว่ามันจะช่วยให้เลื่อนตำแหน่งได้เร็วขึ้น)
B: “Maybe. But you made your bed, now you must lie in it.” 🧐
(ก็อาจช่วย แต่ตอนนี้เมื่อคุณเลือกมาทำแล้ว ก็ต้องยอมรับงานหนักให้ได้)

บริบทที่ 2: เจ็บไม่ช้ำ เพราะรักจึงยอม
A: “I just didn’t think dating him again would blow up like this. I thought he changed.” 😫
(ไม่คิดเลยว่าพอกลับมาคบกับเขาอีกมันจะพังแบบนี้ นึกว่าเขาจะดีขึ้น)
B: “You knew what you were getting into. He didn’t even apologise last time.” 😲
(เธอก็รู้ดีว่าต้องเจออะไร ก็ครั้งที่แล้วที่มันทำผิดมันยังไม่เคยขอโทษเลย)
A: “I guess I hoped it’d be different.” 😢
(ฉันคงหวังไปเองว่าครั้งนี้จะแตกต่างออกไป)
B: “Hope’s not a plan. You gotta live with the consequences now.” 😤
(ความหวังกับสิ่งที่จะเกิดมันก็ต่างกัน ตอนนี้เธอก็ต้องยอมรับเรื่องนี้)

บริบทที่ 3: คนอื่นเขาไม่ตลกด้วย
A: “I took his bike without asking, and now he’s threatening to call the cops.” 😭
(ผมแอบเอารถมอเตอร์ไซค์เขามาขับเล่นโดยไม่ขอ ตอนนี้เขาขู่จะโทรแจ้งตำรวจ)
B: “Wow. Play stupid games, win stupid prizes.” 😬
(เออ ก็แกเล่นทำไรโง่ ๆ ก็ต้องเจอแบบนี้แหละ)
A: “I thought he’d be chill about it — it’s just a bike.” 😅
(ก็คิดว่าเขาจะไม่อะไรอ่า มันก็แค่มอ’ไซค์เอง)
B: “Yeah, well, it’s his bike. A little late for regrets, don’t you think?” 🙂
(แต่มันก็เป็นของของเขา แกจะมาสำนึกผิดตอนนี้ก็สายไปแล้วแหละ)

รู้ให้มากกว่าเมื่อวาน
JGC. ✌🏻🇬🇧
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่