บทความทั้งหมดคลิกที่นี้................
บทความก่อนหน้าคลิกที่นี้.................
ตอนที่ 11 หาดใหญ่สงขลากับหมุดการท่องเที่ยวระดับโลก - เส้นทางรถไฟเชื่อมหาดใหญ่-สตูล
จริงๆแล้วเป็นผลการศึกษาเส้นทางรถไฟของสภาพัฒฯ และสนข. เกี่ยวกับการสร้างแลนด์บริดจ์ ระหว่างปากบาราและสงขลา แต่ทว่า ติดปัญหาที่พื้นที่ ฝั่งสตูล ที่มีทรัพยากรการท่องเที่ยวที่ไม่สามารถประเมิณค่าได้ หมายความว่า มีมูลค่าสูงมากๆ และสิ่งที่รับรู้ได้ และพิสูจน์แล้วก็คือ การท่องเที่ยวสามารถสร้างรายได้แบบกระจายสู่ประชาชนได้ดีมากๆ ในพื้นที่ปากบารานั้นมีทรัพยากรการท่องเที่ยวที่สำคัญคือ เกาะอาดัง-ราวี อุทยานแห่งชาติตะรุเตา อุทยานแห่งชาติหมู่เกาะเภตรา ดังนั้นการจะเอาท่าเรือน้ำลึกไปสร้าง และเพิกถอนพื้นที่อุทยาน ก็เป็นสิ่งที่ไม่น่าจะทำ
อีกทั้งในพื้นที่สตูล เป็นเขตหินเก่า ที่มีซากฟอสซิลจำนวนมาก ซึ่งเป็น "ความจริง ที่สามารถสร้างมูลค่าได้" โดยฝั่งสตูลได้สร้างการรับรู้เกี่ยวกับ "โลกดึกดำบรรพ์" อย่างสะพานข้ามกาลเวลา หรือซากฟอสซิลต่างๆ ซึ่งเมื่อนักท่องเที่ยวไปเที่ยว จ.สตูล ก็จะรู้สึก และรับรู้ว่า กำลังหลุดเข้าไปในโลกแห่งกาลเวลา ที่ลึกลับ
และแม้ว่า จ.สตูลจะพยายามพลักดันให้มีการก่อสร้าง สนามบินสตูล ที่ อ.ท่าแพ ด้วยพื้นที่กว่า 3,000 ไร่ แต่ทว่า ก็ยังมีปัญหาอยู่ 3 ประการนั้นคือ อ.ท่าแพ ห่างจาก อ.เมืองสตูลอยู่ เกือบ 30 กม. ซึ่งเมื่อเขตเมืองไกลขนาดนี้ จะแน่ใจได้อย่างไรว่าจะมีผู้โดยสารมากเพียงพอ ให้สายการบินต่างๆมาใช้บริการ อีกทั้งเรื่องของการเชื่อมต่อการเดินทาง โดยเฉพาะกับทางรถไฟสายหลัก ก็ทำได้ยาก เพราะถึงอย่างไรก็ต้องเชื่อมกับชุมทางรถไฟหาดใหญ่อย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ หากต้องการจะมีเส้นทางรถไฟ ....แต่ถึงอย่างไร ผู้เขียนก็สนับสนุนให้สร้างสนามบินที่ จ.สตูล เพื่อรองรับการเดินทางที่อาจจะมากขึ้นในอนาคต และเหตุผลด้านความมั่นคง และบรรเทาสาธารณะภัย
และด้วยความคิดที่ว่า เพราะถึงอย่างไรก็ต้องเชื่อมทางรถไฟ กับชุมทางรถไฟหาดใหญ่อยู่ดี จึงเกิดคำถามว่า "ทำไมไม่สร้างเลยละ จะรออะไร" ผู้เขียนจึงคิดว่า หากต้องการให้ หาดใหญ่สงขลา กลายเป็นหมุดการท่องเที่ยวระดับโลก ตามความฝันของผู้เขียน เราจะต้องสร้างทางรถไฟจากชุมทางหาดใหญ่ บริเวณสะพานข้ามทางรถไฟหน้ามหาวิทยาลัยเมืองหาดใหญ่ และตัดเข้าสนามบินนานาชาติหาดใหญ่ และสร้างทางเรียบขนานไปกับทางหลวงแผ่นดินหมายเลข 4 เพื่อให้รถไฟเส้นนี้ เป็นเส้นทางคมนาคม ของคนในพื้นที่ด้วย จะดีมากๆ อีกทั้ง สนามบินนานาชาติหาดใหญ่ เมื่อมีการเชื่อมโยงการท่องเที่ยวอย่างสมบูรณ์แล้ว ก็จะมีสายการบินจำนวนมากมาใช้บริการ ซึ่งจะส่งผลต่อปริมาณนักท่องเที่ยว ของทั้ง จ.สงขลา และจ.สตูลด้วย
ปัญหาใหญ่อีกประการคือ เรื่องการเวนคืนที่ดินเพื่อก่อสร้างทางรถไฟเส้นนี้ โดยเฉพาะในพื้นที่ อ.หาดใหญ่ ซึ่งใครๆก็รู้ว่า อ.หาดใหญ่ ที่ดินมีมูลค่าสูง และมีการจราจรที่หนาแน่น ดังนั้น แนวคิดที่อาจจะเป็นได้ได้คือ ต้องถอดแบบ การออกแบบก่อสร้างของโครงการรถไฟทางคู่ระยะที่ 2 ช่วงสุราษฎร์ธานี-ชุมทางหาดใหญ่ -สงขลา โดยเฉพาะช่วงหาดใหญ่-สงขลา เฉพาะในเขตเมือง ที่จะมีการใช้เขตทาง แค่ 20 เมตร สร้างเป็นทางยกระดับ เพื่อหลีกเลี่ยงพื้นที่ลุ่มต่ำ ริมคลองอู่ตะเภา อีกทั้งควรมีถนนบริการเลียนทางรถไฟ ไว้สำหรับการสัญจรของประชาชน และการซ่อมบำรุงเส้นทาง โดยเส้นทางยกระดับ ผู้เขียนขอให้ยกระดับตั้งแต่ชุมทางรถไฟแห่งใหม่บริเวณหน้ามหาวิทยาลัยเมืองหาดใหญ่ จนถึง สนามบินนานาชาติหาดใหญ่ และหากจะสร้างเส้นทางนี้ต้องรีบสร้าง ก่อนที่พื้นที่บริเวณดังกล่าวจะเปลี่ยนแปลง กลายเป็นชุมชนเมืองมากไปกว่านี้ ซึ่งจะเป็นอุปสรรคต่อการก่อสร้างอย่างมาก
สุดท้ายของบทความนี้ ผู้เขียนอยากให้เร่งก่อสร้างเส้นทางรถไฟเส้นนี้ หากไม่มีงบประมาณจริงๆ ขอแค่ช่วง ชุมทางรถไฟใหม่บริเวณใต้สะพานลอยหน้า ม.หาดใหญ่ ไปจนถึงสนามบินนานาชาติหาดใหญ่ก่อน เพราะหากตัวเมืองมีการขยายตัวตรงจุดนี้ การเวนคืนที่ดินจะทำได้ยาก จนโครงการอาจทำได้แค่ "ฝัน"
บทความต่อไปคลิกที่นี้.....................
ตอนที่ 11 หาดใหญ่สงขลากับหมุดการท่องเที่ยวระดับโลก - เส้นทางรถไฟเชื่อมหาดใหญ่-สตูล
บทความก่อนหน้าคลิกที่นี้.................
ตอนที่ 11 หาดใหญ่สงขลากับหมุดการท่องเที่ยวระดับโลก - เส้นทางรถไฟเชื่อมหาดใหญ่-สตูล
จริงๆแล้วเป็นผลการศึกษาเส้นทางรถไฟของสภาพัฒฯ และสนข. เกี่ยวกับการสร้างแลนด์บริดจ์ ระหว่างปากบาราและสงขลา แต่ทว่า ติดปัญหาที่พื้นที่ ฝั่งสตูล ที่มีทรัพยากรการท่องเที่ยวที่ไม่สามารถประเมิณค่าได้ หมายความว่า มีมูลค่าสูงมากๆ และสิ่งที่รับรู้ได้ และพิสูจน์แล้วก็คือ การท่องเที่ยวสามารถสร้างรายได้แบบกระจายสู่ประชาชนได้ดีมากๆ ในพื้นที่ปากบารานั้นมีทรัพยากรการท่องเที่ยวที่สำคัญคือ เกาะอาดัง-ราวี อุทยานแห่งชาติตะรุเตา อุทยานแห่งชาติหมู่เกาะเภตรา ดังนั้นการจะเอาท่าเรือน้ำลึกไปสร้าง และเพิกถอนพื้นที่อุทยาน ก็เป็นสิ่งที่ไม่น่าจะทำ
อีกทั้งในพื้นที่สตูล เป็นเขตหินเก่า ที่มีซากฟอสซิลจำนวนมาก ซึ่งเป็น "ความจริง ที่สามารถสร้างมูลค่าได้" โดยฝั่งสตูลได้สร้างการรับรู้เกี่ยวกับ "โลกดึกดำบรรพ์" อย่างสะพานข้ามกาลเวลา หรือซากฟอสซิลต่างๆ ซึ่งเมื่อนักท่องเที่ยวไปเที่ยว จ.สตูล ก็จะรู้สึก และรับรู้ว่า กำลังหลุดเข้าไปในโลกแห่งกาลเวลา ที่ลึกลับ
และแม้ว่า จ.สตูลจะพยายามพลักดันให้มีการก่อสร้าง สนามบินสตูล ที่ อ.ท่าแพ ด้วยพื้นที่กว่า 3,000 ไร่ แต่ทว่า ก็ยังมีปัญหาอยู่ 3 ประการนั้นคือ อ.ท่าแพ ห่างจาก อ.เมืองสตูลอยู่ เกือบ 30 กม. ซึ่งเมื่อเขตเมืองไกลขนาดนี้ จะแน่ใจได้อย่างไรว่าจะมีผู้โดยสารมากเพียงพอ ให้สายการบินต่างๆมาใช้บริการ อีกทั้งเรื่องของการเชื่อมต่อการเดินทาง โดยเฉพาะกับทางรถไฟสายหลัก ก็ทำได้ยาก เพราะถึงอย่างไรก็ต้องเชื่อมกับชุมทางรถไฟหาดใหญ่อย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ หากต้องการจะมีเส้นทางรถไฟ ....แต่ถึงอย่างไร ผู้เขียนก็สนับสนุนให้สร้างสนามบินที่ จ.สตูล เพื่อรองรับการเดินทางที่อาจจะมากขึ้นในอนาคต และเหตุผลด้านความมั่นคง และบรรเทาสาธารณะภัย
และด้วยความคิดที่ว่า เพราะถึงอย่างไรก็ต้องเชื่อมทางรถไฟ กับชุมทางรถไฟหาดใหญ่อยู่ดี จึงเกิดคำถามว่า "ทำไมไม่สร้างเลยละ จะรออะไร" ผู้เขียนจึงคิดว่า หากต้องการให้ หาดใหญ่สงขลา กลายเป็นหมุดการท่องเที่ยวระดับโลก ตามความฝันของผู้เขียน เราจะต้องสร้างทางรถไฟจากชุมทางหาดใหญ่ บริเวณสะพานข้ามทางรถไฟหน้ามหาวิทยาลัยเมืองหาดใหญ่ และตัดเข้าสนามบินนานาชาติหาดใหญ่ และสร้างทางเรียบขนานไปกับทางหลวงแผ่นดินหมายเลข 4 เพื่อให้รถไฟเส้นนี้ เป็นเส้นทางคมนาคม ของคนในพื้นที่ด้วย จะดีมากๆ อีกทั้ง สนามบินนานาชาติหาดใหญ่ เมื่อมีการเชื่อมโยงการท่องเที่ยวอย่างสมบูรณ์แล้ว ก็จะมีสายการบินจำนวนมากมาใช้บริการ ซึ่งจะส่งผลต่อปริมาณนักท่องเที่ยว ของทั้ง จ.สงขลา และจ.สตูลด้วย
ปัญหาใหญ่อีกประการคือ เรื่องการเวนคืนที่ดินเพื่อก่อสร้างทางรถไฟเส้นนี้ โดยเฉพาะในพื้นที่ อ.หาดใหญ่ ซึ่งใครๆก็รู้ว่า อ.หาดใหญ่ ที่ดินมีมูลค่าสูง และมีการจราจรที่หนาแน่น ดังนั้น แนวคิดที่อาจจะเป็นได้ได้คือ ต้องถอดแบบ การออกแบบก่อสร้างของโครงการรถไฟทางคู่ระยะที่ 2 ช่วงสุราษฎร์ธานี-ชุมทางหาดใหญ่ -สงขลา โดยเฉพาะช่วงหาดใหญ่-สงขลา เฉพาะในเขตเมือง ที่จะมีการใช้เขตทาง แค่ 20 เมตร สร้างเป็นทางยกระดับ เพื่อหลีกเลี่ยงพื้นที่ลุ่มต่ำ ริมคลองอู่ตะเภา อีกทั้งควรมีถนนบริการเลียนทางรถไฟ ไว้สำหรับการสัญจรของประชาชน และการซ่อมบำรุงเส้นทาง โดยเส้นทางยกระดับ ผู้เขียนขอให้ยกระดับตั้งแต่ชุมทางรถไฟแห่งใหม่บริเวณหน้ามหาวิทยาลัยเมืองหาดใหญ่ จนถึง สนามบินนานาชาติหาดใหญ่ และหากจะสร้างเส้นทางนี้ต้องรีบสร้าง ก่อนที่พื้นที่บริเวณดังกล่าวจะเปลี่ยนแปลง กลายเป็นชุมชนเมืองมากไปกว่านี้ ซึ่งจะเป็นอุปสรรคต่อการก่อสร้างอย่างมาก
สุดท้ายของบทความนี้ ผู้เขียนอยากให้เร่งก่อสร้างเส้นทางรถไฟเส้นนี้ หากไม่มีงบประมาณจริงๆ ขอแค่ช่วง ชุมทางรถไฟใหม่บริเวณใต้สะพานลอยหน้า ม.หาดใหญ่ ไปจนถึงสนามบินนานาชาติหาดใหญ่ก่อน เพราะหากตัวเมืองมีการขยายตัวตรงจุดนี้ การเวนคืนที่ดินจะทำได้ยาก จนโครงการอาจทำได้แค่ "ฝัน"
บทความต่อไปคลิกที่นี้.....................