ยอดขายรถยนต์ไฟฟ้า EV พุ่ง สวนทางตลาดรวมที่ผ่าน 5 เดือนแรก(ม.ค.-พ.ค.68) ตกไป 3.2% คาดทั้งปีขายถึง 1 แสนคัน เป็นครั้งแรก หลังยอดผลิตโครงการ EV 3.0 ค้ำคอ บีวายดี โกย 20,538 คัน โต 59%
ตลาดรถยนต์ 5 เดือนแรก (ม.ค.-พ.ค.68) ปิดตัวเลขประมาณ 2.51 แสนคัน ลดลง 3.2% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีที่แล้ว โดยบริษัทผู้ผลิตรถยนต์จากญี่ปุ่น รวมถึงฝั่งอเมริกา ฟอร์ด เทสลา ยอดร่วงทุกค่าย ทว่าแบรนด์จีนที่มีอาวุธหลักเป็นรถพลังงานไฟฟ้า 100% และเสริมทัพด้วยรถขุมพลังปลั๊ก-อินไฮบริด ส่งผลให้เกือบทุกรายมียอดขายเติบโต
โดย 5 อันดับแรก (ยอดจดทะเบียน) คือ บีวายดี ทำได้ 20,538 คัน เพิ่มขึ้น 59.2% เอ็มจี 9,106 คัน เพิ่มขึ้น 19.4% เกรท วอลล์ มอเตอร์ 5,439 คัน เพิ่มขึ้น 48.5% จีเอซี 5,271 คัน เพิ่มขึ้น 140% และฉางอาน 4,360 คัน เติบโต 82.5%
ส่วนเนต้า ที่ระส่ำระสายแต่ยังทำยอดขายได้เฉลี่ย 250 คันต่อเดือน และปิดตัวเลขไป 1,256 คัน ลดลง 43% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีที่แล้ว
สำหรับยอดจดทะเบียนอีวี เดือนมกราคม-พฤษภาคม 2568 มีจำนวนกว่า 40,000 คัน ซึ่งการเติบโตของบริษัทผู้ผลิตรถจีน ที่สวนทางกับสภาพเศรษฐกิจ และตลาดรถยนต์รวม ส่วนหนึ่งเป็นเพราะการเสริมโปรดักต์รุ่นใหม่ๆ เพื่อขยายฐานลูกค้า ตลอดจนการเริ่มตั้งโรงงานในไทย และมีเงื่อนไขผลิตชดเชยการนำเข้ามาก่อนหน้านี้จากโครงการ EV 3.0 ดังนั้นจึงหลีกเลี่ยงไม่ได้ที่จะต้องผลิตรถจริงจัง และหาทางระบายสต๊อกออกไป
ในส่วนบีวายดี ปีนี้ได้ยอดขายเอสยูวีปลั๊ก-อินไฮบริดรุ่นใหม่ Sealion 6 ที่ขึ้นไลน์ประกอบในประเทศเพิ่มมาอีกกว่า 5,000 คัน (ม.ค.-พ.ค.68) ขณะที่ช่วงไตรมาส 3 เตรียมเปิดตัวคอมแพกต์ซีดานรุ่นใหม่ Seal 05 DM-i ปลั๊ก-อินไฮบริด โดยพี่ใหญ่จากจีน และเรเว่ ออโตโมทีฟ ตั้งเป้าขายรวมทุกรุ่นปีนี้ถึง 50,000 คัน
ด้านเกรท วอลล์ มอเตอร์ (GWM) ที่สถานการณ์ดีขึ้นเรื่อยๆ อาจยังไม่ได้รับอานิสงส์จาก TANK 300 เครื่องยนต์ดีเซลมากนัก เพราะเริ่มส่งมอบล็อตใหญ่ตั้งแต่เดือนพฤษภาคมเป็นต้นไป ซึ่งหลังจากนี้จะมียอดขายเพิ่มเติมจากเอสยูวีรุ่นนี้อีก 1,000 คัน/เดือน
นายเจมส์ หยาง รองประธาน เกรท วอลล์ มอเตอร์ ตลาดต่างประเทศ เปิดเผยว่า GWM TANK 300 DIESEL พัฒนาขึ้นมาเฉพาะเพื่อให้เหมาะสำหรับคนไทย ถนนเมืองไทย ทั้งระบบขับเคลื่อน ระบบช่วงล่าง เกียร์ และเครื่องยนต์ จะมีการส่งมอบได้ครบ 2,000 คันภายในเดือนมิถุนายนนี้
“เราเชื่อว่าการใช้ระบบขับเคลื่อนหลากหลายรูปแบบ (Multiple Powertrains) คือทางออกที่ดีที่สุดในการตอบโจทย์ความต้องการของผู้บริโภคชาวไทย เนื่องจากพื้นฐานของตลาดในประเทศไทยยังคงอยู่ที่เครื่องยนต์สันดาปภายใน (ICE) และดีเซล ซึ่งมีห่วงโซ่อุตสาหกรรมขนาดใหญ่ที่มีส่วนช่วยสร้าง GDP ถึง 12%”
ด้านแหล่งข่าวจากบริษัทผู้ผลิตรถยนต์จีน รายหนึ่งเปิดเผยว่า ยอดขายอีวี เดือนมกราคม-เมษายน ที่ผ่านมาเติบโตประมาณ 20% และปีนี้มีโอกาสทำได้ถึง 90,000 - 100,000 คัน ส่วนหนึ่งเพราะมีผู้เล่นรายใหม่ๆ เข้ามา ประกอบกับเจ้าเดิมต้องเพิ่มกำลังผลิตเพื่อชดเชยตามโครงการ EV 3.0 ดังนั้นรถส่วนนี้จะทยอยเข้ามาในตลาดแน่นอน
“เดิมประเมินกันว่ายอดผลิตอีวี ชดเชยตามโครงการ EV 3.0 ของทุกแบรนด์ปีนี้จะอยู่ที่ 1.1 แสนคัน ทว่าการที่เนต้า มีปัญหาและหยุดผลิต ก็คงหายไป 2 หมื่นคัน เหลือแค่ 9 หมื่นคัน ซึ่งจะสะท้อนมาเป็นยอดขายในปีนี้อย่างแน่นอน” แหล่งข่าวกล่าว
ตลาดรถยนต์ยอดร่วง 3.2% EV โตสวนทาง คาดทั้งปีขาย 1 แสนคัน