สัตว์:..ตอนที่ 191 :ใครกล่าวว่า..ที่แท้สัตว์บุคคล..คือสมมติจาก..ขันธ์๕... ผู้นั้นกำลังกล่าวว่า..ขันธ์๕..คือ..อัตตา

กระทู้สนทนา


พระสูตรนี้...
ธัมมานุปัสสนา...คือ..ตามเห็นธรรมทั้งหลาย..
ว่า....ธรรมเหล่านั้น...ไม่ใช่..ตน(อัตตา)
.
.
แต่ก็ยังมี...ผู้ที่ยังไม่เข้าใจพระสัทธรรม..
..โดยยก...แล้วกล่าวว่า..

ที่แท้..สัตว์บุคคล..ก็คือ..สมมติ..จากขันธ์๕ ...เท่านั้น..นี้เป็นสัจจะ..
   โดยที่แท้แล้ว...สัตว์ไม่มี-บุคคล...ไม่มี "
    ☝️
    ☝️
      นี่เขาไม่รู้ตัวว่า...เขากำลังกล่าวว่า
      " ขันธ์๕...คือ..ตน...คือ...อัตตา  "


บาลีว่า... " เอโส เม อตฺตาติ "...ซึ่งเป็นความเห็นผิด


อันนี้..พระองค์แสดง..
​อายตนะภายในอัตตา..และ..อายตนะภายนอก ...ที่ก่อให้เกิด...สัญโยคะ...

สัญโยคะ.. คือ ..การผูกมัด..ที่อาศัยตา-หู-จมูก-ลิ้น-กาย-ใจ...
​ที่ไปกระทบเข้ากับ...รูป-รส-กลิ่น-เสียง-สัมผัส-ธรรม...

..​ใ​ห้เห็นถึง...ความไม่เที่ยงของ..ธรรมเหล่านั้น
👇
👇
👇
[๒๙๒]   ปุน   จปรํ  ภิกฺขเว  
{...ภิกษุ ท!  อย่างอื่นยังมี..อีก..}

ภิกฺขุ  ธมฺเมสุ  ธมฺมาปสฺสี  วิหรติ
ฉสุ  อชฺฌตฺติกพาหิเรสุ อายตเนสุ  ฯ
{...คือ ...ภิกษุผู้ที่.. ณ.ธรรมทั้งหลาย..ได้ตามเห็นอยู่ซึ่งธรรมทั้งหลาย..แห่งอายตนะทั่ง6...ทั้งภายในอัตตา(ตน)และภายอก...}

กถญฺจ   ภิกฺขเว   ภิกฺขุ ธมฺเมสุ   ธมฺมานุปสฺสี  วิหรติ  ฉสุ  อชฺฌตฺติกพาหิเรสุ  อายตเนสุ ฯ
{...ภิกษุ ท!   แล้วอย่างไรเล่า?..คือ ...ภิกษุผู้ที่.. ณ.ธรรมทั้งหลาย..ได้ตามเห็นอยู่ซึ่งธรรมทั้งหลาย..แห่งอายตนะทั่ง6...ทั้งภายในอัตตา(ตน)และภายอก...}

อิธ   ภิกฺขเว   ภิกฺขุ   
{...ภิกษุ ท! ในกรณีนี้..คือ..ภิกษุ(ผู้ที่)..}

จกฺขุญฺจ  ปชานาติ   
รูเป  จ  ปชานาติ  
{..ทราบชัดซึ่ง...ตา...ด้วย
...ทราบชัดซึ่ง...รูป..ด้วย..}

ยญฺจ ตทุภยํ  ปฏิจฺจ   อุปฺปชฺชติ   สญฺโญชนํ  ตญฺจ  ปชานาติ  
{...ทราบชัดสิ่งนั้นด้วยว่า... การอาศัยทั้ง 2 อันใดนั้น(ตา+รูป)..ก่อให้เกิด...เครื่องผูกมัด(สญฺโญชน)..}

ยถา  จ อนุปฺปนฺนสฺส  สญฺโญชนสฺส    อุปฺปาโท    โหติ    ตญฺจ    ปชานาติ
{...และทราบชัดตามความเป็นจริงในสิ่งนั้นด้วย..  ซึ่งการเกิดขึ้นแห่งเครื่องผูกมัดอันยังไม่เกิดขึ้น...}
(ปล. รู้ว่า..อะไรทำให้สัญโยชน..เกิดขึ้น..)

ยถา   จ   อุปฺปนฺนสฺส   สญฺโญชนสฺส   ปหานํ   โหติ   ตญฺจ  ปชานาติ
{...และทราบชัดตามความเป็นจริงในสิ่งนั้นด้วย..  ว่าการละซึ่งเครื่องผูกมัดอันเกิดขึ้นแล้ว...}
(ปล. รู้ว่า..ทำอย่างไรให้สัญโยชน..มันดับ..)

ยถา   จ   ปหีนสฺส   สญฺโญชนสฺส   อายตึ   อนุปฺปาโท   โหติ   ตญฺจ
ปชานาติ   ฯ  
{...และทราบชัดตามความเป็นจริงในสิ่งนั้นด้วย..  ในการทำลายเครื่องผูกมัด..ไม่ให้เกิดขึ้นใหม่อีกต่อไป...}
(ปล. รู้ว่า..ทำอย่างไรจะไม่ให้สัญโยชน..เกิดขึ้นอีกเลย..)

โสตญฺจ   ปชานาติ   
สทฺเท  จ  ปชานาติ  ฯ  
{..ทราบชัดซึ่ง...หู...ด้วย
...ทราบชัดซึ่ง...เสียง..ด้วย..}

ฆานญฺจ ปชานาติ  
คนฺเธ  จ   ปชานาติ   ฯ   
{..ทราบชัดซึ่ง...จมูก...ด้วย
...ทราบชัดซึ่ง...กลิ่น..ด้วย..}

ชิวฺหญฺจ   ปชานาติ  
รเส  จ ปชานาติ    ฯ   
{..ทราบชัดซึ่ง...ลิ้น...ด้วย
...ทราบชัดซึ่ง...รส..ด้วย..}

กายญฺจ   ปชานาติ   
โผฏฺฐพฺเพ   จ   ปชานาติ   ฯ
{..ทราบชัดซึ่ง...กาย...ด้วย
...ทราบชัดซึ่ง...กายสัมผัส..ด้วย..}

มนญฺจ    ปชานาติ   
ธมฺเม   จ   ปชานาติ   
{..ทราบชัดซึ่ง...ใจ...ด้วย
...ทราบชัดซึ่ง...ธรรมทั้งหลาย..ด้วย..}

ยญฺจ   ตทุภยํ   ปฏิจฺจ อุปฺปชฺชติ    สญฺโญชนํ    ตญฺจ    ปชานาติ   
{...ทราบชัดสิ่งนั้นด้วยว่า... การอาศัยทั้ง 2 อันใดนั้น(ใจ+ธรรม)..ก่อให้เกิด...เครื่องผูกมัด(สญฺโญชน)..}

ยถา   จ   อนุปฺปนฺนสฺส สญฺโญชนสฺส   อุปฺปาโท    โหติ    ตญฺจ    ปชานาติ    {...และทราบชัดตามความเป็นจริงในสิ่งนั้นด้วย..  ซึ่งการเกิดขึ้นแห่งเครื่องผูกมัดอันยังไม่เกิดขึ้น...}
(ปล. รู้ว่า..อะไรทำให้สัญโยชน..เกิดขึ้น..)

ยถา  จ อุปฺปนฺนสฺส   สญฺโญชนสฺส   ปหานํ   โหติ   ตญฺจ   ปชานาติ   
{...และทราบชัดตามความเป็นจริงในสิ่งนั้นด้วย..  ว่าการละซึ่งเครื่องผูกมัดอันเกิดขึ้นแล้ว...}
(ปล. รู้ว่า..ทำอย่างไรให้สัญโยชน..มันดับ..)

ยถา  จ  ปหีนสฺส   สญฺโญชนสฺส   อายตึ   อนุปฺปาโท   โหติ  ตญฺจ  ปชานาติ
{...และทราบชัดตามความเป็นจริงในสิ่งนั้นด้วย..  ในการทำลายเครื่องผูกมัด..ไม่ให้เกิดขึ้นใหม่อีกต่อไป...}
(ปล. รู้ว่า..ทำอย่างไรจะไม่ให้สัญโยชน..เกิดขึ้นอีกเลย..)

อิติ   อชฺฌตฺตํ  วา  ธมฺเมสุ  ธมฺมานุปสฺสี  วิหรติ  
{...ดังนี้..อันเป็นภายในอัตตา(ตน)..ด้วย   ณ.ธรรมทั้งหลาย... ได้ตามเห็นอยู่ซึ่ง...ธรรมทั้งหลาย...}

พหิทฺธา  วา  ธมฺเมสุ ธมฺมานุปสฺสี    วิหรติ   
{...ภายนอก..ด้วย   ณ.ธรรมทั้งหลาย... ได้ตามเห็นอยู่ซึ่ง...ธรรมทั้งหลาย...}

อชฺฌตฺตพหิทฺธา    วา   ธมฺเมสุ   ธมฺมานุปสฺสี วิหรติ   
{...ดังนี้..อันเป็นภายในอัตตา(ตน)..และ..ภายนอก..ด้วย   ณ.ธรรมทั้งหลาย... ได้ตามเห็นอยู่ซึ่ง...ธรรมทั้งหลาย...}

สมุทยธมฺมานุปสฺสี    วา    ธมฺเมสุ   วิหรติ   
{...ณ.ธรรมทั้งหลาย, การตามเห็นอยู่..ซึ่งการเกิดขึ้นแห่งธรรมทั้งหลาย..ด้วย  ...}

วยธมฺมานุปสฺสี วา   ธมฺเมสุ   วิหรติ   
{... ณ.ธรรมทั้งหลาย,  การตามเห็นอยู่..ซึ่งการเสื่อมไปแห่งธรรมทั้งหลาย..ด้วย ...}

สมุทยวยธมฺมานุปสฺสี   วา  ธมฺเมสุ  วิหรติ  ฯ
{...ณ.ธรรมทั้งหลาย, การตามเห็นอยู่..ซึ่งการเกิดขึ้นและเสื่อมไปแห่งธรรมทั้งหลาย..ด้วย  ...}

อตฺถิ    ธมฺมาติ   วา   ปนสฺส   สติ   ปจฺจุปฏฺฐิตา   โหติ   
{...ธรรมทั้งหลายนั้น..ที่มีจริง..ด้วย  ก็เพื่อให้สติเกิดมีขึ้น...}

ยาวเทว ญาณมตฺตาย    ปฏิสฺสติมตฺตาย    ฯ   
{...นั้นเพียงเพื่อ..ให้เกิดความรู้(ญาณ)..ให้สติตั้งขึ้น..}

อนิสฺสิโต   จ   วิหรติ   
น   จ  กิญฺจิ   โลเก   อุปาทิยติ   ฯ   
{...อยู่อย่างให้ติดใจ..ด้วย
...และ...ไม่ไปมั่นหมายในสิ่งใดๆในโลก..}

เอวมฺปิ   โข  ภิกฺขเว  ภิกฺขุ  ธมฺเมสุ
ธมฺมานุปสฺสี วิหรติ ฉสุ อชฺฌตฺติกพาหิเรสุ อายตเนสุ ฯ
{...ภิกษุ ท!   อย่างนี้แล...คือ ...ภิกษุผู้ที่.. ณ.ธรรมทั้งหลาย..ได้ตามเห็นอยู่ซึ่งธรรมทั้งหลาย..แห่งอายตนะทั่ง6...ทั้งภายในอัตตา(ตน)และภายอก...}
.
.
.
.
.
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่