พระสูตรนี้...
ธัมมานุปัสสนา...คือ..ตามเห็นธรรมทั้งหลาย..
ว่า....ธรรมเหล่านั้น...ไม่ใช่..ตน(อัตตา)
.
.
แต่ก็ยังมี...ผู้ที่ยังไม่เข้าใจพระสัทธรรม..
..โดยยก...แล้วกล่าวว่า..
"
ที่แท้..สัตว์บุคคล..ก็คือ..สมมติ..จากขันธ์๕ ...เท่านั้น..นี้เป็นสัจจะ..
โดยที่แท้แล้ว...สัตว์ไม่มี-บุคคล...ไม่มี "
☝️
☝️
นี่เขาไม่รู้ตัวว่า...เขากำลังกล่าวว่า
"
ขันธ์๕...คือ..ตน...คือ...อัตตา "
บาลีว่า... "
เอโส เม อตฺตาติ "...ซึ่งเป็นความเห็นผิด
อันนี้..พระองค์แสดง..
อายตนะภายในอัตตา..และ..อายตนะภายนอก ...ที่ก่อให้เกิด...สัญโยคะ...
สัญโยคะ.. คือ ..การผูกมัด..ที่อาศัยตา-หู-จมูก-ลิ้น-กาย-ใจ...
ที่ไปกระทบเข้ากับ...รูป-รส-กลิ่น-เสียง-สัมผัส-ธรรม...
..ให้เห็นถึง...ความไม่เที่ยงของ..ธรรมเหล่านั้น
👇
👇
👇
[๒๙๒] ปุน จปรํ ภิกฺขเว
{...ภิกษุ ท! อย่างอื่นยังมี..อีก..}
ภิกฺขุ ธมฺเมสุ ธมฺมาปสฺสี วิหรติ
ฉสุ อชฺฌตฺติกพาหิเรสุ อายตเนสุ ฯ
{...คือ ...ภิกษุผู้ที่.. ณ.ธรรมทั้งหลาย..ได้ตามเห็นอยู่ซึ่งธรรมทั้งหลาย..แห่งอายตนะทั่ง6...ทั้งภายในอัตตา(ตน)และภายอก...}
กถญฺจ ภิกฺขเว ภิกฺขุ ธมฺเมสุ ธมฺมานุปสฺสี วิหรติ ฉสุ อชฺฌตฺติกพาหิเรสุ อายตเนสุ ฯ
{...ภิกษุ ท! แล้วอย่างไรเล่า?..คือ ...ภิกษุผู้ที่.. ณ.ธรรมทั้งหลาย..ได้ตามเห็นอยู่ซึ่งธรรมทั้งหลาย..แห่งอายตนะทั่ง6...ทั้งภายในอัตตา(ตน)และภายอก...}
อิธ ภิกฺขเว ภิกฺขุ
{...ภิกษุ ท! ในกรณีนี้..คือ..ภิกษุ(ผู้ที่)..}
จกฺขุญฺจ ปชานาติ
รูเป จ ปชานาติ
{..ทราบชัดซึ่ง...ตา...ด้วย
...ทราบชัดซึ่ง...รูป..ด้วย..}
ยญฺจ ตทุภยํ ปฏิจฺจ อุปฺปชฺชติ สญฺโญชนํ ตญฺจ ปชานาติ
{...ทราบชัดสิ่งนั้นด้วยว่า... การอาศัยทั้ง 2 อันใดนั้น(ตา+รูป)..ก่อให้เกิด...เครื่องผูกมัด(สญฺโญชน)..}
ยถา จ อนุปฺปนฺนสฺส สญฺโญชนสฺส อุปฺปาโท โหติ ตญฺจ ปชานาติ
{...และทราบชัดตามความเป็นจริงในสิ่งนั้นด้วย.. ซึ่งการเกิดขึ้นแห่งเครื่องผูกมัดอันยังไม่เกิดขึ้น...}
(ปล. รู้ว่า..อะไรทำให้สัญโยชน..เกิดขึ้น..)
ยถา จ อุปฺปนฺนสฺส สญฺโญชนสฺส ปหานํ โหติ ตญฺจ ปชานาติ
{...และทราบชัดตามความเป็นจริงในสิ่งนั้นด้วย.. ว่าการละซึ่งเครื่องผูกมัดอันเกิดขึ้นแล้ว...}
(ปล. รู้ว่า..ทำอย่างไรให้สัญโยชน..มันดับ..)
ยถา จ ปหีนสฺส สญฺโญชนสฺส อายตึ อนุปฺปาโท โหติ ตญฺจ
ปชานาติ ฯ
{...และทราบชัดตามความเป็นจริงในสิ่งนั้นด้วย.. ในการทำลายเครื่องผูกมัด..ไม่ให้เกิดขึ้นใหม่อีกต่อไป...}
(ปล. รู้ว่า..ทำอย่างไรจะไม่ให้สัญโยชน..เกิดขึ้นอีกเลย..)
โสตญฺจ ปชานาติ
สทฺเท จ ปชานาติ ฯ
{..ทราบชัดซึ่ง...หู...ด้วย
...ทราบชัดซึ่ง...เสียง..ด้วย..}
ฆานญฺจ ปชานาติ
คนฺเธ จ ปชานาติ ฯ
{..ทราบชัดซึ่ง...จมูก...ด้วย
...ทราบชัดซึ่ง...กลิ่น..ด้วย..}
ชิวฺหญฺจ ปชานาติ
รเส จ ปชานาติ ฯ
{..ทราบชัดซึ่ง...ลิ้น...ด้วย
...ทราบชัดซึ่ง...รส..ด้วย..}
กายญฺจ ปชานาติ
โผฏฺฐพฺเพ จ ปชานาติ ฯ
{..ทราบชัดซึ่ง...กาย...ด้วย
...ทราบชัดซึ่ง...กายสัมผัส..ด้วย..}
มนญฺจ ปชานาติ
ธมฺเม จ ปชานาติ
{..ทราบชัดซึ่ง...ใจ...ด้วย
...ทราบชัดซึ่ง...ธรรมทั้งหลาย..ด้วย..}
ยญฺจ ตทุภยํ ปฏิจฺจ อุปฺปชฺชติ สญฺโญชนํ ตญฺจ ปชานาติ
{...ทราบชัดสิ่งนั้นด้วยว่า... การอาศัยทั้ง 2 อันใดนั้น(ใจ+ธรรม)..ก่อให้เกิด...เครื่องผูกมัด(สญฺโญชน)..}
ยถา จ อนุปฺปนฺนสฺส สญฺโญชนสฺส อุปฺปาโท โหติ ตญฺจ ปชานาติ {...และทราบชัดตามความเป็นจริงในสิ่งนั้นด้วย.. ซึ่งการเกิดขึ้นแห่งเครื่องผูกมัดอันยังไม่เกิดขึ้น...}
(ปล. รู้ว่า..อะไรทำให้สัญโยชน..เกิดขึ้น..)
ยถา จ อุปฺปนฺนสฺส สญฺโญชนสฺส ปหานํ โหติ ตญฺจ ปชานาติ
{...และทราบชัดตามความเป็นจริงในสิ่งนั้นด้วย.. ว่าการละซึ่งเครื่องผูกมัดอันเกิดขึ้นแล้ว...}
(ปล. รู้ว่า..ทำอย่างไรให้สัญโยชน..มันดับ..)
ยถา จ ปหีนสฺส สญฺโญชนสฺส อายตึ อนุปฺปาโท โหติ ตญฺจ ปชานาติ
{...และทราบชัดตามความเป็นจริงในสิ่งนั้นด้วย.. ในการทำลายเครื่องผูกมัด..ไม่ให้เกิดขึ้นใหม่อีกต่อไป...}
(ปล. รู้ว่า..ทำอย่างไรจะไม่ให้สัญโยชน..เกิดขึ้นอีกเลย..)
อิติ อชฺฌตฺตํ วา ธมฺเมสุ ธมฺมานุปสฺสี วิหรติ
{...ดังนี้..อันเป็นภายในอัตตา(ตน)..ด้วย ณ.ธรรมทั้งหลาย... ได้ตามเห็นอยู่ซึ่ง...ธรรมทั้งหลาย...}
พหิทฺธา วา ธมฺเมสุ ธมฺมานุปสฺสี วิหรติ
{...ภายนอก..ด้วย ณ.ธรรมทั้งหลาย... ได้ตามเห็นอยู่ซึ่ง...ธรรมทั้งหลาย...}
อชฺฌตฺตพหิทฺธา วา ธมฺเมสุ ธมฺมานุปสฺสี วิหรติ
{...ดังนี้..อันเป็นภายในอัตตา(ตน)..และ..ภายนอก..ด้วย ณ.ธรรมทั้งหลาย... ได้ตามเห็นอยู่ซึ่ง...ธรรมทั้งหลาย...}
สมุทยธมฺมานุปสฺสี วา ธมฺเมสุ วิหรติ
{...ณ.ธรรมทั้งหลาย, การตามเห็นอยู่..ซึ่งการเกิดขึ้นแห่งธรรมทั้งหลาย..ด้วย ...}
วยธมฺมานุปสฺสี วา ธมฺเมสุ วิหรติ
{... ณ.ธรรมทั้งหลาย, การตามเห็นอยู่..ซึ่งการเสื่อมไปแห่งธรรมทั้งหลาย..ด้วย ...}
สมุทยวยธมฺมานุปสฺสี วา ธมฺเมสุ วิหรติ ฯ
{...ณ.ธรรมทั้งหลาย, การตามเห็นอยู่..ซึ่งการเกิดขึ้นและเสื่อมไปแห่งธรรมทั้งหลาย..ด้วย ...}
อตฺถิ ธมฺมาติ วา ปนสฺส สติ ปจฺจุปฏฺฐิตา โหติ
{...ธรรมทั้งหลายนั้น..ที่มีจริง..ด้วย ก็เพื่อให้สติเกิดมีขึ้น...}
ยาวเทว ญาณมตฺตาย ปฏิสฺสติมตฺตาย ฯ
{...นั้นเพียงเพื่อ..ให้เกิดความรู้(ญาณ)..ให้สติตั้งขึ้น..}
อนิสฺสิโต จ วิหรติ
น จ กิญฺจิ โลเก อุปาทิยติ ฯ
{...อยู่อย่างให้ติดใจ..ด้วย
...และ...ไม่ไปมั่นหมายในสิ่งใดๆในโลก..}
เอวมฺปิ โข ภิกฺขเว ภิกฺขุ ธมฺเมสุ
ธมฺมานุปสฺสี วิหรติ ฉสุ อชฺฌตฺติกพาหิเรสุ อายตเนสุ ฯ
{...ภิกษุ ท! อย่างนี้แล...คือ ...ภิกษุผู้ที่.. ณ.ธรรมทั้งหลาย..ได้ตามเห็นอยู่ซึ่งธรรมทั้งหลาย..แห่งอายตนะทั่ง6...ทั้งภายในอัตตา(ตน)และภายอก...}
.
.
.
.
.
สัตว์:..ตอนที่ 191 :ใครกล่าวว่า..ที่แท้สัตว์บุคคล..คือสมมติจาก..ขันธ์๕... ผู้นั้นกำลังกล่าวว่า..ขันธ์๕..คือ..อัตตา
พระสูตรนี้...
ธัมมานุปัสสนา...คือ..ตามเห็นธรรมทั้งหลาย..
ว่า....ธรรมเหล่านั้น...ไม่ใช่..ตน(อัตตา)
.
.
แต่ก็ยังมี...ผู้ที่ยังไม่เข้าใจพระสัทธรรม..
..โดยยก...แล้วกล่าวว่า..
" ที่แท้..สัตว์บุคคล..ก็คือ..สมมติ..จากขันธ์๕ ...เท่านั้น..นี้เป็นสัจจะ..
โดยที่แท้แล้ว...สัตว์ไม่มี-บุคคล...ไม่มี "
☝️
☝️
นี่เขาไม่รู้ตัวว่า...เขากำลังกล่าวว่า
" ขันธ์๕...คือ..ตน...คือ...อัตตา "
บาลีว่า... " เอโส เม อตฺตาติ "...ซึ่งเป็นความเห็นผิด
อันนี้..พระองค์แสดง..
อายตนะภายในอัตตา..และ..อายตนะภายนอก ...ที่ก่อให้เกิด...สัญโยคะ...
สัญโยคะ.. คือ ..การผูกมัด..ที่อาศัยตา-หู-จมูก-ลิ้น-กาย-ใจ...
ที่ไปกระทบเข้ากับ...รูป-รส-กลิ่น-เสียง-สัมผัส-ธรรม...
..ให้เห็นถึง...ความไม่เที่ยงของ..ธรรมเหล่านั้น
👇
👇
👇
[๒๙๒] ปุน จปรํ ภิกฺขเว
{...ภิกษุ ท! อย่างอื่นยังมี..อีก..}
ภิกฺขุ ธมฺเมสุ ธมฺมาปสฺสี วิหรติ
ฉสุ อชฺฌตฺติกพาหิเรสุ อายตเนสุ ฯ
{...คือ ...ภิกษุผู้ที่.. ณ.ธรรมทั้งหลาย..ได้ตามเห็นอยู่ซึ่งธรรมทั้งหลาย..แห่งอายตนะทั่ง6...ทั้งภายในอัตตา(ตน)และภายอก...}
กถญฺจ ภิกฺขเว ภิกฺขุ ธมฺเมสุ ธมฺมานุปสฺสี วิหรติ ฉสุ อชฺฌตฺติกพาหิเรสุ อายตเนสุ ฯ
{...ภิกษุ ท! แล้วอย่างไรเล่า?..คือ ...ภิกษุผู้ที่.. ณ.ธรรมทั้งหลาย..ได้ตามเห็นอยู่ซึ่งธรรมทั้งหลาย..แห่งอายตนะทั่ง6...ทั้งภายในอัตตา(ตน)และภายอก...}
อิธ ภิกฺขเว ภิกฺขุ
{...ภิกษุ ท! ในกรณีนี้..คือ..ภิกษุ(ผู้ที่)..}
จกฺขุญฺจ ปชานาติ
รูเป จ ปชานาติ
{..ทราบชัดซึ่ง...ตา...ด้วย
...ทราบชัดซึ่ง...รูป..ด้วย..}
ยญฺจ ตทุภยํ ปฏิจฺจ อุปฺปชฺชติ สญฺโญชนํ ตญฺจ ปชานาติ
{...ทราบชัดสิ่งนั้นด้วยว่า... การอาศัยทั้ง 2 อันใดนั้น(ตา+รูป)..ก่อให้เกิด...เครื่องผูกมัด(สญฺโญชน)..}
ยถา จ อนุปฺปนฺนสฺส สญฺโญชนสฺส อุปฺปาโท โหติ ตญฺจ ปชานาติ
{...และทราบชัดตามความเป็นจริงในสิ่งนั้นด้วย.. ซึ่งการเกิดขึ้นแห่งเครื่องผูกมัดอันยังไม่เกิดขึ้น...}
(ปล. รู้ว่า..อะไรทำให้สัญโยชน..เกิดขึ้น..)
ยถา จ อุปฺปนฺนสฺส สญฺโญชนสฺส ปหานํ โหติ ตญฺจ ปชานาติ
{...และทราบชัดตามความเป็นจริงในสิ่งนั้นด้วย.. ว่าการละซึ่งเครื่องผูกมัดอันเกิดขึ้นแล้ว...}
(ปล. รู้ว่า..ทำอย่างไรให้สัญโยชน..มันดับ..)
ยถา จ ปหีนสฺส สญฺโญชนสฺส อายตึ อนุปฺปาโท โหติ ตญฺจ
ปชานาติ ฯ
{...และทราบชัดตามความเป็นจริงในสิ่งนั้นด้วย.. ในการทำลายเครื่องผูกมัด..ไม่ให้เกิดขึ้นใหม่อีกต่อไป...}
(ปล. รู้ว่า..ทำอย่างไรจะไม่ให้สัญโยชน..เกิดขึ้นอีกเลย..)
โสตญฺจ ปชานาติ
สทฺเท จ ปชานาติ ฯ
{..ทราบชัดซึ่ง...หู...ด้วย
...ทราบชัดซึ่ง...เสียง..ด้วย..}
ฆานญฺจ ปชานาติ
คนฺเธ จ ปชานาติ ฯ
{..ทราบชัดซึ่ง...จมูก...ด้วย
...ทราบชัดซึ่ง...กลิ่น..ด้วย..}
ชิวฺหญฺจ ปชานาติ
รเส จ ปชานาติ ฯ
{..ทราบชัดซึ่ง...ลิ้น...ด้วย
...ทราบชัดซึ่ง...รส..ด้วย..}
กายญฺจ ปชานาติ
โผฏฺฐพฺเพ จ ปชานาติ ฯ
{..ทราบชัดซึ่ง...กาย...ด้วย
...ทราบชัดซึ่ง...กายสัมผัส..ด้วย..}
มนญฺจ ปชานาติ
ธมฺเม จ ปชานาติ
{..ทราบชัดซึ่ง...ใจ...ด้วย
...ทราบชัดซึ่ง...ธรรมทั้งหลาย..ด้วย..}
ยญฺจ ตทุภยํ ปฏิจฺจ อุปฺปชฺชติ สญฺโญชนํ ตญฺจ ปชานาติ
{...ทราบชัดสิ่งนั้นด้วยว่า... การอาศัยทั้ง 2 อันใดนั้น(ใจ+ธรรม)..ก่อให้เกิด...เครื่องผูกมัด(สญฺโญชน)..}
ยถา จ อนุปฺปนฺนสฺส สญฺโญชนสฺส อุปฺปาโท โหติ ตญฺจ ปชานาติ {...และทราบชัดตามความเป็นจริงในสิ่งนั้นด้วย.. ซึ่งการเกิดขึ้นแห่งเครื่องผูกมัดอันยังไม่เกิดขึ้น...}
(ปล. รู้ว่า..อะไรทำให้สัญโยชน..เกิดขึ้น..)
ยถา จ อุปฺปนฺนสฺส สญฺโญชนสฺส ปหานํ โหติ ตญฺจ ปชานาติ
{...และทราบชัดตามความเป็นจริงในสิ่งนั้นด้วย.. ว่าการละซึ่งเครื่องผูกมัดอันเกิดขึ้นแล้ว...}
(ปล. รู้ว่า..ทำอย่างไรให้สัญโยชน..มันดับ..)
ยถา จ ปหีนสฺส สญฺโญชนสฺส อายตึ อนุปฺปาโท โหติ ตญฺจ ปชานาติ
{...และทราบชัดตามความเป็นจริงในสิ่งนั้นด้วย.. ในการทำลายเครื่องผูกมัด..ไม่ให้เกิดขึ้นใหม่อีกต่อไป...}
(ปล. รู้ว่า..ทำอย่างไรจะไม่ให้สัญโยชน..เกิดขึ้นอีกเลย..)
อิติ อชฺฌตฺตํ วา ธมฺเมสุ ธมฺมานุปสฺสี วิหรติ
{...ดังนี้..อันเป็นภายในอัตตา(ตน)..ด้วย ณ.ธรรมทั้งหลาย... ได้ตามเห็นอยู่ซึ่ง...ธรรมทั้งหลาย...}
พหิทฺธา วา ธมฺเมสุ ธมฺมานุปสฺสี วิหรติ
{...ภายนอก..ด้วย ณ.ธรรมทั้งหลาย... ได้ตามเห็นอยู่ซึ่ง...ธรรมทั้งหลาย...}
อชฺฌตฺตพหิทฺธา วา ธมฺเมสุ ธมฺมานุปสฺสี วิหรติ
{...ดังนี้..อันเป็นภายในอัตตา(ตน)..และ..ภายนอก..ด้วย ณ.ธรรมทั้งหลาย... ได้ตามเห็นอยู่ซึ่ง...ธรรมทั้งหลาย...}
สมุทยธมฺมานุปสฺสี วา ธมฺเมสุ วิหรติ
{...ณ.ธรรมทั้งหลาย, การตามเห็นอยู่..ซึ่งการเกิดขึ้นแห่งธรรมทั้งหลาย..ด้วย ...}
วยธมฺมานุปสฺสี วา ธมฺเมสุ วิหรติ
{... ณ.ธรรมทั้งหลาย, การตามเห็นอยู่..ซึ่งการเสื่อมไปแห่งธรรมทั้งหลาย..ด้วย ...}
สมุทยวยธมฺมานุปสฺสี วา ธมฺเมสุ วิหรติ ฯ
{...ณ.ธรรมทั้งหลาย, การตามเห็นอยู่..ซึ่งการเกิดขึ้นและเสื่อมไปแห่งธรรมทั้งหลาย..ด้วย ...}
อตฺถิ ธมฺมาติ วา ปนสฺส สติ ปจฺจุปฏฺฐิตา โหติ
{...ธรรมทั้งหลายนั้น..ที่มีจริง..ด้วย ก็เพื่อให้สติเกิดมีขึ้น...}
ยาวเทว ญาณมตฺตาย ปฏิสฺสติมตฺตาย ฯ
{...นั้นเพียงเพื่อ..ให้เกิดความรู้(ญาณ)..ให้สติตั้งขึ้น..}
อนิสฺสิโต จ วิหรติ
น จ กิญฺจิ โลเก อุปาทิยติ ฯ
{...อยู่อย่างให้ติดใจ..ด้วย
...และ...ไม่ไปมั่นหมายในสิ่งใดๆในโลก..}
เอวมฺปิ โข ภิกฺขเว ภิกฺขุ ธมฺเมสุ
ธมฺมานุปสฺสี วิหรติ ฉสุ อชฺฌตฺติกพาหิเรสุ อายตเนสุ ฯ
{...ภิกษุ ท! อย่างนี้แล...คือ ...ภิกษุผู้ที่.. ณ.ธรรมทั้งหลาย..ได้ตามเห็นอยู่ซึ่งธรรมทั้งหลาย..แห่งอายตนะทั่ง6...ทั้งภายในอัตตา(ตน)และภายอก...}
.
.
.
.
.