พระสูตรนี้...
ธัมมานุปัสสนา...คือ..ตามเห็นธรรมทั้งหลาย..
ว่า....ธรรมเหล่านั้น...ไม่ใช่..ตน(อัตตา)
.
.
แต่ก็ยังมี...ผู้ที่ยังไม่เข้าใจพระสัทธรรม..
..โดยยก...แล้วกล่าวว่า..
"
ที่แท้..สัตว์บุคคล..ก็คือ..สมมติ..จากขันธ์๕ ...เท่านั้น..นี้เป็นสัจจะ..
โดยที่แท้แล้ว...สัตว์ไม่มี-บุคคล...ไม่มี "
☝️
☝️
นี่เขาไม่รู้ตัวว่า...เขากำลังกล่าวว่า
"
ขันธ์๕...คือ..ตน...คือ...อัตตา "
บาลีว่า... "
เอโส เม อตฺตาติ "...ซึ่งเป็นความเห็นผิด
ฟังเลย...ครับ ..ธรรมที่ชื่อ.." อุปาทานขันธ์๕ "
👇
👇
👇
[๒๙๑] ปุน จปรํ ภิกฺขเว ภิกฺขุ ธมฺเมสุ ธมฺมานุปสฺสี วิหรติ ปญฺจสุ อุปาทานกฺขนฺเธสุ ฯ
{...ภิกษุ ท! อย่างอื่นยังมีอีก...คือ..ภิกษุผู้ที่ ณ.ธรรมทั้งหลาย...ตามเห็นอยู่ซึ่งธรรมทั้งหลายแบบ..อุปาทานขันธ์๕..}
กถญฺจ ภิกฺขเว ภิกฺขุ ธมฺเมสุ
ธมฺมานุปสฺสี วิหรติ ปญฺจสุ อุปาทานกฺขนฺเธสุ ฯ
{...ภิกษุ ท! อย่างไรเล่า?...คือ..ภิกษุผู้ที่ ณ.ธรรมทั้งหลาย...ตามเห็นอยู่ซึ่งธรรมทั้งหลายแบบ..อุปาทานขันธ์๕..}
อิธ ภิกฺขเว ภิกฺขุ
{...ภิกษุ ท! ในกรณีนี้...คือ..ภิกษุ(ผู้ที่ตามเห็นว่า)...}
อิติ รูปํ
{...อันนี้..คือ..รูป..}
อิติ รูปสฺส สมุทโย
{...อันนี้..คือ..การเกิดขึ้นแห่งรูป..}
อิติ รูปสฺส อตฺถงฺคโม
{...อันนี้..คือ..ความตั้งอยู่ไม่ได้แห่งรูป..}
อิติ เวทนา
{...อันนี้..คือ..เวทนา..}
อิติ เวทนาย สมุทโย
{...อันนี้..คือ..การเกิดขึ้นแห่งเวทนา..}
อิติ เวทนาย อตฺถงฺคโม
{...อันนี้..คือ..ความตั้งอยู่ไม่ได้แห่งเวทนา..}
อิติ สญฺญา
{...อันนี้..คือ..สัญญา..}
อิติ สญฺญาย สมุทโย
{...อันนี้..คือ..การเกิดขึ้นแห่งสัญญา..}
อิติ สญฺญาย อตฺถงฺคโม
{...อันนี้..คือ..ความตั้งอยู่ไม่ได้แห่งสัญญา..}
อิติ สงฺขารา
{...อันนี้..คือ..สังขารทั้งหลาย..}
อิติ สงฺขารานํ สมุทโย
{...อันนี้..คือ..การเกิดขึ้นแห่งสังขารทั้งหลาย..}
อิติ สงฺขารานํ อตฺถงฺคโม
{...อันนี้..คือ..ความตั้งอยู่ไม่ได้แห่งสังขารทั้งหลาย..}
อิติ วิญฺญาณํ
{...อันนี้..คือ..วิญญาณ..}
อิติ วิญฺญาณสฺส สมุทโย
{...อันนี้..คือ..การเกิดขึ้นแห่งวิญญาณ..}
อิติ วิญฺญาณสฺส อตฺถงฺคโมติ ฯ
{...อันนี้..คือ..ความตั้งอยู่ไม่ได้แห่งวิญญาณ..}
อิติ อชฺฌตฺตํ วา ธมฺเมสุ ธมฺมานุปสฺสี วิหรติ
{..อันนี้..คือ, ณ.ธรรมทั้งหลาย, ตามเห็นอยู่ซึ่งธรรมทั้งหลาย..อันเป็นภายในอัตตา(ตน)..}
พหิทฺธา วา ธมฺเมสุ ธมฺมานุปสฺสี วิหรติ
{..ณ.ธรรมทั้งหลาย, ตามเห็นอยู่ซึ่งธรรมทั้งหลาย..อันเป็นภายนอก..}
อชฺฌตฺตพหิทฺธา วา ธมฺเมสุ ธมฺมานุปสฺสี วิหรติ
{..ณ.ธรรมทั้งหลาย, ตามเห็นอยู่ซึ่งธรรมทั้งหลาย..อันเป็นภายในอัตตา(ตน)และภายอก..}
สมุทยธมฺมานุปสฺสี วา ธมฺเมสุ วิหรติ
{...และ...ณ.ธรรมทั้งหลาย, ตามเห็นอยู่..ซึ่งการเกิดขึ้นแห่งธรรมทั้งหลาย..}
วยธมฺมานุปสฺสี วา ธมฺเมสุ วิหรติ
{...และ...ณ.ธรรมทั้งหลาย, ตามเห็นอยู่..ซึ่งการเสื่อมไปแห่งธรรมทั้งหลาย..}
สมุทยวยธมฺมานุปสฺสี วา ธมฺเมสุ วิหรติ ฯ
{...และ...ณ.ธรรมทั้งหลาย, ตามเห็นอยู่..ซึ่งการเกิดขึ้นและเสื่อมไปแห่งธรรมทั้งหลาย..}
อตฺถิ ธมฺมาติ วา ปนสฺส สติ ปจฺจุปฏฺฐิตา โหติ
{...และ...ธรรมทั้งหลายที่มีจริงนี้..ก็เพื่อให้เกิดการปรากฏแห่ง..สติ..}
ยาวเทว ญาณมตฺตาย ปฏิสฺสติมตฺตาย ฯ
{...เพียงเพอ..อาศัยให้เกิดความรู้(ญาณ)...เพื่ออาศัยให้เกิดสติ..}
อนิสฺสิโต จ วิหรติ
น จ กิญฺจิ โลเก อุปาทิยติ ฯ
{...(มีสติ)อยู่..โดยไม่ไปเข้าข้องเกี่ยว..
...และ...ไม่ไปยึดมั่นอะไรในโลก...}
เอวมฺปิ โข ภิกฺขเว ภิกฺขุ ธมฺเมสุ ธมฺมานุปสฺสี วิหรติ ปญฺจสุ อุปาทานกฺขนฺเธสุ ฯ
{...ภิกษุ ท! แม้นอย่างนี้แล...คือ..ภิกษุผู้ที่ ณ.ธรรมทั้งหลาย ได้ตามเห็นอยู่ซึ่งธรรมทั้งหลาย..ในแบบ..อุปาทานขันธ์๕...}
.
.
.
.
สัตว์:..ตอนที่ 189 :ใครกล่าวว่า..ที่แท้สัตว์บุคคล..คือสมมติจาก..ขันธ์๕... ผู้นั้นกำลังกล่าวว่า..ขันธ์๕..คือ..อัตตา
พระสูตรนี้...
ธัมมานุปัสสนา...คือ..ตามเห็นธรรมทั้งหลาย..
ว่า....ธรรมเหล่านั้น...ไม่ใช่..ตน(อัตตา)
.
.
แต่ก็ยังมี...ผู้ที่ยังไม่เข้าใจพระสัทธรรม..
..โดยยก...แล้วกล่าวว่า..
" ที่แท้..สัตว์บุคคล..ก็คือ..สมมติ..จากขันธ์๕ ...เท่านั้น..นี้เป็นสัจจะ..
โดยที่แท้แล้ว...สัตว์ไม่มี-บุคคล...ไม่มี "
☝️
☝️
นี่เขาไม่รู้ตัวว่า...เขากำลังกล่าวว่า
" ขันธ์๕...คือ..ตน...คือ...อัตตา "
บาลีว่า... " เอโส เม อตฺตาติ "...ซึ่งเป็นความเห็นผิด
ฟังเลย...ครับ ..ธรรมที่ชื่อ.." อุปาทานขันธ์๕ "
👇
👇
👇
[๒๙๑] ปุน จปรํ ภิกฺขเว ภิกฺขุ ธมฺเมสุ ธมฺมานุปสฺสี วิหรติ ปญฺจสุ อุปาทานกฺขนฺเธสุ ฯ
{...ภิกษุ ท! อย่างอื่นยังมีอีก...คือ..ภิกษุผู้ที่ ณ.ธรรมทั้งหลาย...ตามเห็นอยู่ซึ่งธรรมทั้งหลายแบบ..อุปาทานขันธ์๕..}
กถญฺจ ภิกฺขเว ภิกฺขุ ธมฺเมสุ
ธมฺมานุปสฺสี วิหรติ ปญฺจสุ อุปาทานกฺขนฺเธสุ ฯ
{...ภิกษุ ท! อย่างไรเล่า?...คือ..ภิกษุผู้ที่ ณ.ธรรมทั้งหลาย...ตามเห็นอยู่ซึ่งธรรมทั้งหลายแบบ..อุปาทานขันธ์๕..}
อิธ ภิกฺขเว ภิกฺขุ
{...ภิกษุ ท! ในกรณีนี้...คือ..ภิกษุ(ผู้ที่ตามเห็นว่า)...}
อิติ รูปํ
{...อันนี้..คือ..รูป..}
อิติ รูปสฺส สมุทโย
{...อันนี้..คือ..การเกิดขึ้นแห่งรูป..}
อิติ รูปสฺส อตฺถงฺคโม
{...อันนี้..คือ..ความตั้งอยู่ไม่ได้แห่งรูป..}
อิติ เวทนา
{...อันนี้..คือ..เวทนา..}
อิติ เวทนาย สมุทโย
{...อันนี้..คือ..การเกิดขึ้นแห่งเวทนา..}
อิติ เวทนาย อตฺถงฺคโม
{...อันนี้..คือ..ความตั้งอยู่ไม่ได้แห่งเวทนา..}
อิติ สญฺญา
{...อันนี้..คือ..สัญญา..}
อิติ สญฺญาย สมุทโย
{...อันนี้..คือ..การเกิดขึ้นแห่งสัญญา..}
อิติ สญฺญาย อตฺถงฺคโม
{...อันนี้..คือ..ความตั้งอยู่ไม่ได้แห่งสัญญา..}
อิติ สงฺขารา
{...อันนี้..คือ..สังขารทั้งหลาย..}
อิติ สงฺขารานํ สมุทโย
{...อันนี้..คือ..การเกิดขึ้นแห่งสังขารทั้งหลาย..}
อิติ สงฺขารานํ อตฺถงฺคโม
{...อันนี้..คือ..ความตั้งอยู่ไม่ได้แห่งสังขารทั้งหลาย..}
อิติ วิญฺญาณํ
{...อันนี้..คือ..วิญญาณ..}
อิติ วิญฺญาณสฺส สมุทโย
{...อันนี้..คือ..การเกิดขึ้นแห่งวิญญาณ..}
อิติ วิญฺญาณสฺส อตฺถงฺคโมติ ฯ
{...อันนี้..คือ..ความตั้งอยู่ไม่ได้แห่งวิญญาณ..}
อิติ อชฺฌตฺตํ วา ธมฺเมสุ ธมฺมานุปสฺสี วิหรติ
{..อันนี้..คือ, ณ.ธรรมทั้งหลาย, ตามเห็นอยู่ซึ่งธรรมทั้งหลาย..อันเป็นภายในอัตตา(ตน)..}
พหิทฺธา วา ธมฺเมสุ ธมฺมานุปสฺสี วิหรติ
{..ณ.ธรรมทั้งหลาย, ตามเห็นอยู่ซึ่งธรรมทั้งหลาย..อันเป็นภายนอก..}
อชฺฌตฺตพหิทฺธา วา ธมฺเมสุ ธมฺมานุปสฺสี วิหรติ
{..ณ.ธรรมทั้งหลาย, ตามเห็นอยู่ซึ่งธรรมทั้งหลาย..อันเป็นภายในอัตตา(ตน)และภายอก..}
สมุทยธมฺมานุปสฺสี วา ธมฺเมสุ วิหรติ
{...และ...ณ.ธรรมทั้งหลาย, ตามเห็นอยู่..ซึ่งการเกิดขึ้นแห่งธรรมทั้งหลาย..}
วยธมฺมานุปสฺสี วา ธมฺเมสุ วิหรติ
{...และ...ณ.ธรรมทั้งหลาย, ตามเห็นอยู่..ซึ่งการเสื่อมไปแห่งธรรมทั้งหลาย..}
สมุทยวยธมฺมานุปสฺสี วา ธมฺเมสุ วิหรติ ฯ
{...และ...ณ.ธรรมทั้งหลาย, ตามเห็นอยู่..ซึ่งการเกิดขึ้นและเสื่อมไปแห่งธรรมทั้งหลาย..}
อตฺถิ ธมฺมาติ วา ปนสฺส สติ ปจฺจุปฏฺฐิตา โหติ
{...และ...ธรรมทั้งหลายที่มีจริงนี้..ก็เพื่อให้เกิดการปรากฏแห่ง..สติ..}
ยาวเทว ญาณมตฺตาย ปฏิสฺสติมตฺตาย ฯ
{...เพียงเพอ..อาศัยให้เกิดความรู้(ญาณ)...เพื่ออาศัยให้เกิดสติ..}
อนิสฺสิโต จ วิหรติ
น จ กิญฺจิ โลเก อุปาทิยติ ฯ
{...(มีสติ)อยู่..โดยไม่ไปเข้าข้องเกี่ยว..
...และ...ไม่ไปยึดมั่นอะไรในโลก...}
เอวมฺปิ โข ภิกฺขเว ภิกฺขุ ธมฺเมสุ ธมฺมานุปสฺสี วิหรติ ปญฺจสุ อุปาทานกฺขนฺเธสุ ฯ
{...ภิกษุ ท! แม้นอย่างนี้แล...คือ..ภิกษุผู้ที่ ณ.ธรรมทั้งหลาย ได้ตามเห็นอยู่ซึ่งธรรมทั้งหลาย..ในแบบ..อุปาทานขันธ์๕...}
.
.
.
.