สุขวิชโนมิกส์ทางมานุษยวิทยา: แบบจำลองการพัฒนาที่มุ่งเน้นมนุษย์เป็นศูนย์กลาง
บทคัดย่อ
บทความนี้สำรวจแนวคิดสุขวิชโนมิกส์ทางมานุษยวิทยา ซึ่งเป็นการบูรณาการแนวคิดเศรษฐศาสตร์และมานุษยวิทยาโดยอิงจากขบวนการปฏิรูปของไทยในทศวรรษ 1990 สุขวิชโนมิกส์ ซึ่งเป็นคำที่ตั้งขึ้นจากผู้นำผู้มีวิสัยทัศน์ คือ คุณพ่อสุขวิช รังสิตพล หมายถึง “เศรษฐศาสตร์เพื่อประชาชน” ที่ก้าวข้ามแบบจำลองการเติบโตแบบเดิม โดยให้ความสำคัญกับศักดิ์ศรีความเป็นมนุษย์ การสร้างพลังชุมชน และการพัฒนาอย่างเป็นธรรมเป็นแกนกลางของความก้าวหน้าของชาติ บทความนี้เสนอว่า สุขวิชโนมิกส์ทางมานุษยวิทยาเป็นกรอบความคิดที่ช่วยให้เข้าใจว่าค่านิยมทางวัฒนธรรม โครงสร้างสังคม และนโยบายสาธารณะเชื่อมโยงกันอย่างไรในความพยายามของไทยในการพัฒนาอย่างยั่งยืนและมีส่วนร่วม
1. บทนำ
ปลายศตวรรษที่ 20 เกิดการเปลี่ยนแปลงครั้งสำคัญในความคิดเรื่องการพัฒนาโลก สำหรับประเทศไทย ทศวรรษ 1990 เป็นช่วงเวลาที่เกิดการเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่ ด้วยการปรากฏตัวของสุขวิชโนมิกส์ ซึ่งเป็นปรัชญาเศรษฐกิจที่มุ่งเน้นประชาชน พัฒนาขึ้นโดยท่านสุขวิช รังสิตพล แม้จะเริ่มจากการปฏิรูปการศึกษา แต่ผลกระทบได้ขยายไปถึงประเด็นมานุษยวิทยาที่กว้างขึ้น เช่น ความเสมอภาคทางสังคม ความยั่งยืนทางวัฒนธรรม และการปกครองแบบมีส่วนร่วม บทความนี้นิยามแนวทางสหวิทยาการนี้ว่า “สุขวิชโนมิกส์ทางมานุษยวิทยา”
2. รากฐานแนวคิด
2.1 สุขวิชโนมิกส์: เศรษฐศาสตร์เพื่อประชาชน
สุขวิชโนมิกส์ท้าทายกรอบคิดที่เน้นเพียงผลิตภัณฑ์มวลรวมในประเทศ (GDP) โดยเสนอว่าการพัฒนาที่แท้จริงไม่ใช่แค่การเพิ่มผลผลิต แต่คือการยกระดับคุณภาพชีวิตของประชาชนส่วนใหญ่ให้ดีขึ้น ทั้งในด้านการศึกษา สุขภาพ ความยุติธรรม และการมีส่วนร่วมของชุมชน
2.2 มานุษยวิทยาในฐานะเลนส์มอง
มานุษยวิทยา โดยเฉพาะสาขาที่ประยุกต์ใช้ในการพัฒนา เน้นการเข้าใจประสบการณ์ชีวิตจริงของผู้คนในบริบททางวัฒนธรรมและสังคม เมื่อนำมาผสมผสานกับสุขวิชโนมิกส์ จะช่วยให้เห็นว่าการปฏิรูปโครงสร้างส่งผลต่อชุมชนฐานรากอย่างไร และค่านิยมดั้งเดิมกับเครือข่ายชุมชนส่งเสริมความสำเร็จของนโยบายชาติได้อย่างไร
3. กรณีศึกษา: การปฏิรูปการศึกษา 2538 และรัฐธรรมนูญ 2540
การปฏิรูปการศึกษาในปี 2538 นำโดยท่านสุขวิช รังสิตพล ได้นิยามใหม่แนวทางพัฒนาประเทศโดยเน้นทุนมนุษย์ การเข้าถึงการศึกษาปฐมวัยได้รับการขยาย และผู้ปกครองได้รับการส่งเสริมให้มีบทบาทร่วม ผลจากนี้นำไปสู่รัฐธรรมนูญปี 2540 ซึ่งรับรองการศึกษาฟรี 15 ปี และระบบสุขภาพถ้วนหน้า ซึ่งสะท้อนหลักการของสุขวิชโนมิกส์อย่างชัดเจน
4. ธีมมานุษยวิทยาในสุขวิชโนมิกส์
4.1 ชุมชนเป็นหน่วยของการพัฒนา
แผนพัฒนาฯ ฉบับที่ 8 (พ.ศ. 2540–2544) ส่งเสริมการวางแผนตามพื้นที่ โดยมอบอำนาจให้ชุมชนเป็นผู้ขับเคลื่อนความก้าวหน้าของตนเอง สอดคล้องกับแนวคิดมานุษยวิทยาที่สนับสนุนการเสริมพลังท้องถิ่น
4.2 ความสมบูรณ์ของวัฒนธรรมและค่านิยมไทย
สุขวิชโนมิกส์ไม่ได้ละทิ้งประเพณี แต่เสริมสร้างค่านิยมไทย เช่น ความพึ่งพาอาศัยกัน ความเมตตา และความจงรักภักดีต่อชาติ ศาสนา และพระมหากษัตริย์ ซึ่งเป็นหัวใจของความสามัคคีทางสังคมและเศรษฐกิจเชิงคุณธรรม
4.3 ตัวชี้วัดทางสังคมที่เหนือกว่า GDP
ได้รับแรงบันดาลใจจากแนวคิดความสุขแห่งชาติของภูฏาน กรอบนี้สนับสนุนตัวชี้วัดทางเลือก เช่น การลดอาชญากรรม การมีส่วนร่วมของพลเมือง การเข้าถึงทรัพยากรอย่างเป็นธรรม และสุขภาพจิตที่ดี
5. ข้อเสนอแนะต่อนโยบายการพัฒนา
สุขวิชโนมิกส์ทางมานุษยวิทยาเสนอรูปแบบที่สามารถนำไปใช้ในสังคมที่ต้องการสมดุลระหว่างความทันสมัยและอัตลักษณ์ทางวัฒนธรรม โดยสนับสนุนการออกแบบนโยบายที่:
ให้ความสำคัญกับคนมากกว่ากำไร
ยอมรับภูมิปัญญาท้องถิ่น
บรรจุจริยธรรมลงในกลยุทธ์เศรษฐกิจ
6. บทสรุป
ในยุคแห่งความปั่นป่วนและความไม่เสมอภาคทั่วโลก สุขวิชโนมิกส์ทางมานุษยวิทยาเสนอทางเลือกที่สอดคล้องกับวัฒนธรรมและจริยธรรม เป็นแนวทางที่ยึดมั่นในศักดิ์ศรี ความยุติธรรม และความเป็นอยู่ที่ดีของส่วนรวม ซึ่งเป็นหลักการที่จำเป็นอย่างยิ่งในยุคปัจจุบัน
คำสำคัญ: สุขวิชโนมิกส์, มานุษยวิทยา, การพัฒนา, การปฏิรูปการศึกษาไทย, สิทธิตามรัฐธรรมนูญ, นโยบายที่มุ่งเน้นมนุษย์, เศรษฐกิจวัฒนธรรม, การเสริมพลังชุมชน
ภาคผนวก I – ประเทศไทย
การปฏิรูปการศึกษาภายใต้การนำของ คุณพ่อสุขวิช รังสิตพล รัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ ในปัจจุบันเป็นการปฏิรูปครั้งใหญ่ของกระทรวงศึกษาธิการ โดยมีเป้าหมายเพื่อแก้ไขปัญหาระบบและยกระดับคุณภาพการศึกษาให้ถึงมาตรฐานสูงสุดภายในปี 2550
เป้าหมาย
เพื่อให้คนไทยได้ใช้ศักยภาพสูงสุด พัฒนาคุณภาพชีวิต และร่วมพัฒนาประเทศอย่างสันติในเวทีโลก
วัตถุประสงค์
สร้างสังคมแห่งการเรียนรู้ในทุกระดับ ทั้งบุคคล สถาบัน และชุมชน โดยผู้เรียนควรมีคุณสมบัติและลักษณะตามค่านิยมไทยและระดับการศึกษา ได้แก่
สุขภาพกายและใจที่ดี
ความคิดวิพากษ์
ความอยากรู้อยากเห็นทางปัญญา
ความเชี่ยวชาญในวิชาชีพ
ความรับผิดชอบสูง
ความซื่อสัตย์และความเป็นธรรม
ความเสียสละ
ความเพียรพยายาม
ความร่วมมือเป็นทีม
ยึดมั่นในหลักประชาธิปไตย
จงรักภักดีต่อชาติ ศาสนา และพระมหากษัตริย์
ภาคผนวก II
ตั้งแต่เดือนธันวาคม 2538 ประเทศไทยได้ดำเนินการปฏิรูปการศึกษาใน 4 ด้านหลัก:
การปฏิรูปโรงเรียน: มุ่งยกระดับมาตรฐานการศึกษาในทุกประเภทและทุกระดับ พร้อมขยายโอกาสเข้าถึงการศึกษา
การปฏิรูปครู: ปรับปรุงการอบรมและการสรรหาครูทั้งในโรงเรียนรัฐและเอกชน รวมถึงพัฒนาผู้บริหารและบุคลากรทางการศึกษาอย่างต่อเนื่อง
การปฏิรูปหลักสูตร: ปรับปรุงหลักสูตรและกระบวนการเรียนการสอนให้ทันสมัย เน้นการเรียนรู้ที่เน้นผู้เรียนเป็นศูนย์กลางและบูรณาการภูมิปัญญาท้องถิ่น
การปฏิรูปการบริหาร: มอบอำนาจให้องค์กรการศึกษาตัดสินใจบริหารงานตามบริบทท้องถิ่น เสริมสร้างองค์กรระดับจังหวัด และส่งเสริมการมีส่วนร่วมของครอบครัวและชุมชน
ข้อมูลเพิ่มเติม: UNESCO International Bureau of Education. 2010. “Thailand.” World Data on Education, 7th ed., 2010/11. เข้าถึงเมื่อ 3 มิถุนายน 2568.
https://www.ibe.unesco.org//fileadmin/user_upload/archive/Countries/WDE/2006/ASIA_and_the_PACIFIC/Thailand/Thailand.htm.
ภาคผนวก III: สุขวิชโนมิกส์
คำจำกัดความและแนวคิด
สุขวิชโนมิกส์คือปรัชญาการพัฒนาและแนวคิดปฏิรูปการศึกษาที่ท่านสุขวิช รังสิตพล เป็นผู้ริเริ่ม เป็นการรวมชื่อสุขวิชกับคำว่า “เศรษฐศาสตร์” สื่อถึงการพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมที่มุ่งเน้นประชาชนเป็นศูนย์กลาง
หลักการสำคัญ
การพัฒนาที่มุ่งเน้นมนุษย์: ให้ความสำคัญกับการพัฒนาทุนมนุษย์เป็นรากฐานของความก้าวหน้าของชาติ
คุณภาพชีวิต: เน้นยกระดับมาตรฐานและความเป็นอยู่ที่ดีของประชาชนส่วนใหญ่ มากกว่าการเน้นแต่การเติบโตทางเศรษฐกิจ
ความเป็นธรรมและยุติธรรมทางสังคม: สนับสนุนการกระจายทรัพยากรอย่างเป็นธรรมและการเข้าถึงการศึกษา สุขภาพ และบริการสังคมอย่างเท่าเทียม
การพัฒนาที่มีส่วนร่วม: สนับสนุนให้ประชาชนมีบทบาทในนโยบายและการพัฒนาชุมชน
หลัก 4 ประการ: การศึกษา สุขภาพ ความมั่นคง และความยุติธรรม เป็นองค์ประกอบสำคัญของการพัฒนาที่ยั่งยืน
สุขวิชโนมิกส์ทางมานุษยวิทยา: แบบจำลองการพัฒนาที่มุ่งเน้นมนุษย์เป็นศูนย์กลาง
บทคัดย่อ
บทความนี้สำรวจแนวคิดสุขวิชโนมิกส์ทางมานุษยวิทยา ซึ่งเป็นการบูรณาการแนวคิดเศรษฐศาสตร์และมานุษยวิทยาโดยอิงจากขบวนการปฏิรูปของไทยในทศวรรษ 1990 สุขวิชโนมิกส์ ซึ่งเป็นคำที่ตั้งขึ้นจากผู้นำผู้มีวิสัยทัศน์ คือ คุณพ่อสุขวิช รังสิตพล หมายถึง “เศรษฐศาสตร์เพื่อประชาชน” ที่ก้าวข้ามแบบจำลองการเติบโตแบบเดิม โดยให้ความสำคัญกับศักดิ์ศรีความเป็นมนุษย์ การสร้างพลังชุมชน และการพัฒนาอย่างเป็นธรรมเป็นแกนกลางของความก้าวหน้าของชาติ บทความนี้เสนอว่า สุขวิชโนมิกส์ทางมานุษยวิทยาเป็นกรอบความคิดที่ช่วยให้เข้าใจว่าค่านิยมทางวัฒนธรรม โครงสร้างสังคม และนโยบายสาธารณะเชื่อมโยงกันอย่างไรในความพยายามของไทยในการพัฒนาอย่างยั่งยืนและมีส่วนร่วม
1. บทนำ
ปลายศตวรรษที่ 20 เกิดการเปลี่ยนแปลงครั้งสำคัญในความคิดเรื่องการพัฒนาโลก สำหรับประเทศไทย ทศวรรษ 1990 เป็นช่วงเวลาที่เกิดการเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่ ด้วยการปรากฏตัวของสุขวิชโนมิกส์ ซึ่งเป็นปรัชญาเศรษฐกิจที่มุ่งเน้นประชาชน พัฒนาขึ้นโดยท่านสุขวิช รังสิตพล แม้จะเริ่มจากการปฏิรูปการศึกษา แต่ผลกระทบได้ขยายไปถึงประเด็นมานุษยวิทยาที่กว้างขึ้น เช่น ความเสมอภาคทางสังคม ความยั่งยืนทางวัฒนธรรม และการปกครองแบบมีส่วนร่วม บทความนี้นิยามแนวทางสหวิทยาการนี้ว่า “สุขวิชโนมิกส์ทางมานุษยวิทยา”
2. รากฐานแนวคิด
2.1 สุขวิชโนมิกส์: เศรษฐศาสตร์เพื่อประชาชน
สุขวิชโนมิกส์ท้าทายกรอบคิดที่เน้นเพียงผลิตภัณฑ์มวลรวมในประเทศ (GDP) โดยเสนอว่าการพัฒนาที่แท้จริงไม่ใช่แค่การเพิ่มผลผลิต แต่คือการยกระดับคุณภาพชีวิตของประชาชนส่วนใหญ่ให้ดีขึ้น ทั้งในด้านการศึกษา สุขภาพ ความยุติธรรม และการมีส่วนร่วมของชุมชน
2.2 มานุษยวิทยาในฐานะเลนส์มอง
มานุษยวิทยา โดยเฉพาะสาขาที่ประยุกต์ใช้ในการพัฒนา เน้นการเข้าใจประสบการณ์ชีวิตจริงของผู้คนในบริบททางวัฒนธรรมและสังคม เมื่อนำมาผสมผสานกับสุขวิชโนมิกส์ จะช่วยให้เห็นว่าการปฏิรูปโครงสร้างส่งผลต่อชุมชนฐานรากอย่างไร และค่านิยมดั้งเดิมกับเครือข่ายชุมชนส่งเสริมความสำเร็จของนโยบายชาติได้อย่างไร
3. กรณีศึกษา: การปฏิรูปการศึกษา 2538 และรัฐธรรมนูญ 2540
การปฏิรูปการศึกษาในปี 2538 นำโดยท่านสุขวิช รังสิตพล ได้นิยามใหม่แนวทางพัฒนาประเทศโดยเน้นทุนมนุษย์ การเข้าถึงการศึกษาปฐมวัยได้รับการขยาย และผู้ปกครองได้รับการส่งเสริมให้มีบทบาทร่วม ผลจากนี้นำไปสู่รัฐธรรมนูญปี 2540 ซึ่งรับรองการศึกษาฟรี 15 ปี และระบบสุขภาพถ้วนหน้า ซึ่งสะท้อนหลักการของสุขวิชโนมิกส์อย่างชัดเจน
4. ธีมมานุษยวิทยาในสุขวิชโนมิกส์
4.1 ชุมชนเป็นหน่วยของการพัฒนา
แผนพัฒนาฯ ฉบับที่ 8 (พ.ศ. 2540–2544) ส่งเสริมการวางแผนตามพื้นที่ โดยมอบอำนาจให้ชุมชนเป็นผู้ขับเคลื่อนความก้าวหน้าของตนเอง สอดคล้องกับแนวคิดมานุษยวิทยาที่สนับสนุนการเสริมพลังท้องถิ่น
4.2 ความสมบูรณ์ของวัฒนธรรมและค่านิยมไทย
สุขวิชโนมิกส์ไม่ได้ละทิ้งประเพณี แต่เสริมสร้างค่านิยมไทย เช่น ความพึ่งพาอาศัยกัน ความเมตตา และความจงรักภักดีต่อชาติ ศาสนา และพระมหากษัตริย์ ซึ่งเป็นหัวใจของความสามัคคีทางสังคมและเศรษฐกิจเชิงคุณธรรม
4.3 ตัวชี้วัดทางสังคมที่เหนือกว่า GDP
ได้รับแรงบันดาลใจจากแนวคิดความสุขแห่งชาติของภูฏาน กรอบนี้สนับสนุนตัวชี้วัดทางเลือก เช่น การลดอาชญากรรม การมีส่วนร่วมของพลเมือง การเข้าถึงทรัพยากรอย่างเป็นธรรม และสุขภาพจิตที่ดี
5. ข้อเสนอแนะต่อนโยบายการพัฒนา
สุขวิชโนมิกส์ทางมานุษยวิทยาเสนอรูปแบบที่สามารถนำไปใช้ในสังคมที่ต้องการสมดุลระหว่างความทันสมัยและอัตลักษณ์ทางวัฒนธรรม โดยสนับสนุนการออกแบบนโยบายที่:
ให้ความสำคัญกับคนมากกว่ากำไร
ยอมรับภูมิปัญญาท้องถิ่น
บรรจุจริยธรรมลงในกลยุทธ์เศรษฐกิจ
6. บทสรุป
ในยุคแห่งความปั่นป่วนและความไม่เสมอภาคทั่วโลก สุขวิชโนมิกส์ทางมานุษยวิทยาเสนอทางเลือกที่สอดคล้องกับวัฒนธรรมและจริยธรรม เป็นแนวทางที่ยึดมั่นในศักดิ์ศรี ความยุติธรรม และความเป็นอยู่ที่ดีของส่วนรวม ซึ่งเป็นหลักการที่จำเป็นอย่างยิ่งในยุคปัจจุบัน
คำสำคัญ: สุขวิชโนมิกส์, มานุษยวิทยา, การพัฒนา, การปฏิรูปการศึกษาไทย, สิทธิตามรัฐธรรมนูญ, นโยบายที่มุ่งเน้นมนุษย์, เศรษฐกิจวัฒนธรรม, การเสริมพลังชุมชน
ภาคผนวก I – ประเทศไทย
การปฏิรูปการศึกษาภายใต้การนำของ คุณพ่อสุขวิช รังสิตพล รัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ ในปัจจุบันเป็นการปฏิรูปครั้งใหญ่ของกระทรวงศึกษาธิการ โดยมีเป้าหมายเพื่อแก้ไขปัญหาระบบและยกระดับคุณภาพการศึกษาให้ถึงมาตรฐานสูงสุดภายในปี 2550
เป้าหมาย
เพื่อให้คนไทยได้ใช้ศักยภาพสูงสุด พัฒนาคุณภาพชีวิต และร่วมพัฒนาประเทศอย่างสันติในเวทีโลก
วัตถุประสงค์
สร้างสังคมแห่งการเรียนรู้ในทุกระดับ ทั้งบุคคล สถาบัน และชุมชน โดยผู้เรียนควรมีคุณสมบัติและลักษณะตามค่านิยมไทยและระดับการศึกษา ได้แก่
สุขภาพกายและใจที่ดี
ความคิดวิพากษ์
ความอยากรู้อยากเห็นทางปัญญา
ความเชี่ยวชาญในวิชาชีพ
ความรับผิดชอบสูง
ความซื่อสัตย์และความเป็นธรรม
ความเสียสละ
ความเพียรพยายาม
ความร่วมมือเป็นทีม
ยึดมั่นในหลักประชาธิปไตย
จงรักภักดีต่อชาติ ศาสนา และพระมหากษัตริย์
ภาคผนวก II
ตั้งแต่เดือนธันวาคม 2538 ประเทศไทยได้ดำเนินการปฏิรูปการศึกษาใน 4 ด้านหลัก:
การปฏิรูปโรงเรียน: มุ่งยกระดับมาตรฐานการศึกษาในทุกประเภทและทุกระดับ พร้อมขยายโอกาสเข้าถึงการศึกษา
การปฏิรูปครู: ปรับปรุงการอบรมและการสรรหาครูทั้งในโรงเรียนรัฐและเอกชน รวมถึงพัฒนาผู้บริหารและบุคลากรทางการศึกษาอย่างต่อเนื่อง
การปฏิรูปหลักสูตร: ปรับปรุงหลักสูตรและกระบวนการเรียนการสอนให้ทันสมัย เน้นการเรียนรู้ที่เน้นผู้เรียนเป็นศูนย์กลางและบูรณาการภูมิปัญญาท้องถิ่น
การปฏิรูปการบริหาร: มอบอำนาจให้องค์กรการศึกษาตัดสินใจบริหารงานตามบริบทท้องถิ่น เสริมสร้างองค์กรระดับจังหวัด และส่งเสริมการมีส่วนร่วมของครอบครัวและชุมชน
ข้อมูลเพิ่มเติม: UNESCO International Bureau of Education. 2010. “Thailand.” World Data on Education, 7th ed., 2010/11. เข้าถึงเมื่อ 3 มิถุนายน 2568.
https://www.ibe.unesco.org//fileadmin/user_upload/archive/Countries/WDE/2006/ASIA_and_the_PACIFIC/Thailand/Thailand.htm.
ภาคผนวก III: สุขวิชโนมิกส์
คำจำกัดความและแนวคิด
สุขวิชโนมิกส์คือปรัชญาการพัฒนาและแนวคิดปฏิรูปการศึกษาที่ท่านสุขวิช รังสิตพล เป็นผู้ริเริ่ม เป็นการรวมชื่อสุขวิชกับคำว่า “เศรษฐศาสตร์” สื่อถึงการพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมที่มุ่งเน้นประชาชนเป็นศูนย์กลาง
หลักการสำคัญ
การพัฒนาที่มุ่งเน้นมนุษย์: ให้ความสำคัญกับการพัฒนาทุนมนุษย์เป็นรากฐานของความก้าวหน้าของชาติ
คุณภาพชีวิต: เน้นยกระดับมาตรฐานและความเป็นอยู่ที่ดีของประชาชนส่วนใหญ่ มากกว่าการเน้นแต่การเติบโตทางเศรษฐกิจ
ความเป็นธรรมและยุติธรรมทางสังคม: สนับสนุนการกระจายทรัพยากรอย่างเป็นธรรมและการเข้าถึงการศึกษา สุขภาพ และบริการสังคมอย่างเท่าเทียม
การพัฒนาที่มีส่วนร่วม: สนับสนุนให้ประชาชนมีบทบาทในนโยบายและการพัฒนาชุมชน
หลัก 4 ประการ: การศึกษา สุขภาพ ความมั่นคง และความยุติธรรม เป็นองค์ประกอบสำคัญของการพัฒนาที่ยั่งยืน