กองทัพอากาศไทย (RTAF) มีระเบิดนำวิถีด้วยเลเซอร์ (Laser-Guided Bombs - LGBs) ที่ประจำการอยู่หลายรุ่น โดยส่วนใหญ่เป็นของสหรัฐอเมริกาและมีการบูรณาการเข้ากับอากาศยานหลากหลายประเภทในกองทัพอากาศไทย ดังนี้:

🔺 ระเบิดนำวิถีด้วยเลเซอร์ที่กองทัพอากาศไทยมีใช้

1. GBU-10 Paveway II

น้ำหนัก: ประมาณ 2,000 ปอนด์ (907 กก.)

หัวรบ: Mk-84

ระบบนำวิถี: เลเซอร์กึ่ง active (semi-active laser guidance)

ความแม่นยำสูง เหมาะกับเป้าหมายขนาดใหญ่ เช่น อาคารหรือบังเกอร์

2. GBU-12 Paveway II

น้ำหนัก: ประมาณ 500 ปอนด์ (227 กก.)

หัวรบ: Mk-82

ใช้งานได้หลากหลาย เหมาะกับเป้าหมายเคลื่อนที่หรือขนาดเล็ก

3. GBU-16 Paveway II

น้ำหนัก: ประมาณ 1,000 ปอนด์ (454 กก.)

หัวรบ: Mk-83

ใช้งานกลางระหว่าง GBU-10 และ GBU-12

หมายเหตุ: ทั้ง GBU-10/12/16 เป็นรุ่นในตระกูล Paveway II ซึ่งเป็นมาตรฐานของหลายกองทัพทั่วโลก รวมถึงไทย

✈️ เครื่องบินที่สามารถติดตั้งและใช้ LGB ได้ในกองทัพอากาศไทย

1. F-16A/B MLU (Mid-Life Upgrade)

ปรับปรุงให้รองรับระบบนำวิถีสมัยใหม่

ใช้ GBU-10/12/16 ได้

มี LANTIRN Pod (Low Altitude Navigation and Targeting Infrared for Night) หรือ Sniper ATP Pod สำหรับชี้เป้าด้วยเลเซอร์

2. F-5TH Super Tigris

รุ่นปรับปรุงพิเศษของ F-5E/F

ติดตั้งระบบอิเล็กทรอนิกส์ใหม่, Radar AESA

รองรับ LGBs (เช่น GBU-12) ผ่านการบูรณาการร่วมกับ Litening Targeting Pod

3. JAS-39C/D Gripen

บูรณาการกับระบบนำวิถีหลายแบบ

ปกติใช้ระเบิดนำวิถีแบบ GPS/INS เช่น GBU-49 แต่ก็สามารถใช้ LGB ได้ถ้าติดตั้ง Litening III Pod

ยังไม่ชัดเจนว่ากองทัพอากาศไทยใช้ LGB กับ Gripen เป็นปกติหรือไม่ แต่มีความสามารถรองรับ

✅ สรุปโดยย่อ:

อาวุธน้ำหนักใช้กับเครื่องบินหมายเหตุGBU-102,000 ปอนด์F-16 MLUเป้าหมายขนาดใหญ่GBU-12500 ปอนด์F-16 MLU, F-5THใช้งานบ่อยสุดGBU-161,000 ปอนด์F-16 MLUตัวเลือกกลางLANTIRN / Litening Pod-F-16, F-5TH, Gripenใช้ในการชี้เป้า

หากคุณต้องการภาพประกอบ หรือตารางสรุปแบบกราฟิกก็แจ้งได้นะครับ

ChatGPT