มะขามป้อม (Indian Gooseberry, Amla) ผลไม้รสเปรี้ยวจี๊ดที่สามารถบำรุงร่างกายได้เกือบทุกส่วน อีกทั้งยังมีวิตามินซีสูง แก้อาการเลือดออกตามไรฟัน แก้เจ็บคอ และบรรเทาอาการหวัดได้ดี ชาวอินเดียจึงใช้มะขามป้อมในการรักษาโรคแบบอายุรเวทของอินเดียมาตั้งแต่อดีต
คุณค่าทางโภชนาการ
มะขามป้อมสด 100 กรัม ให้พลังงาน 44 กิโลแคลอรี่ มีสารอาหารที่สำคัญดังนี้
โปรตีน 0.88 กรัม
คาร์โบไฮเดรต 10.2 กรัม
ไฟเบอร์ 4.3 กรัม
ไขมัน 0.58 กรัม
แคลเซียม 25 มิลลิกรัม
เหล็ก 0.31 กรัม
แมกนีเซียม 10 มิลลิกรัม
ฟอสฟอรัส 27 มิลลิกรัม
โพแทสเซียม 198 มิลลิกรัม
ซิงก์ 0.12 มิลลิกรัม
วิตามินเอ (RAE) 15 ไมโครกรัม
วิตามินบี 1 (Thiamin) 0.04 มิลลิกรัม
วิตามินบี 2 (Riboflavin) 0.03 มิลลิกรัม
วิตามินบี 6 0.08 มิลลิกรัม
วิตามินซี 27.7 มิลลิกรัม
ประโยชน์ของมะขามป้อม
1.แหล่งของวิตามินซีสูง มะขามป้อมมีวิตามินซีสูงมากกว่าส้มและผลไม้อีกหลายชนิด เนื่องจากมีสารแทนนินและโพลิฟีนอลที่ช่วยป้องกันไม่ให้วิตามินซีสลายตัว และทำให้วิตามินซีคงตัวได้นานขึ้น
2.แก้กระหาย หากรู้สึกกระหายน้ำ การรับประทานมะขามป้อมสดจะช่วยลดอาการกระหายน้ำได้ และหากดื่มน้ำเปล่าตามลงไป ยิ่งจะทำให้ชุ่มคอมากขึ้น
3.บรรเทาหวัด ลดอาการเจ็บคอ ในมะขามป้อมมีสารแทนนินและมีวิตามินซีสูง รสเปรี้ยวของมะขามป้อมสามารถละลายเสมหะได้เป็นอย่างดี สมัยโบราณมีการนำมะขามป้อมไปคั้นน้ำดื่ม หรือนำมาอมกับเกลือ นอกจากลดอาการเจ็บคอได้แล้ว ยังทำให้ชุ่มคอ เสียงใส และป้องกันเสียงแห้งได้อีกด้วย
4.ลดไข้ วิตามินซีและสารแทนนินที่มีอยู่สูงในมะขามป้อม มีส่วนช่วยส่งเสริมระบบการทำงานของร่างกาย เมื่อเริ่มรู้สึกไม่สบายให้นำมะขามป้อมมาคั้นน้ำดื่ม เนื่องจากมะขามป้อมเป็นยาเย็นจึงช่วยระบายความร้อนออกจากร่างกายได้
5.ลดอาการเลือดออกตามไรฟัน จากผลการวิจัยพบว่า วิตามินซีที่มีอยู่สูงในมะขามป้อมนั้นมีประสิทธิภาพดีกว่าวิตามินซีสกัด เพราะมีส่วนประกอบของสารอื่น ๆ อีกหลายชนิด จึงทำให้ร่างกายดูดซึมนำไปใช้ได้ดีและทำให้อาการเลือดออกตามไรฟันดีขึ้น
6.แก้อาการท้องผูก วิตามินซีในมะขามป้อมช่วยส่งเสริมระบบการขับถ่าย ส่วนยางของมะขามป้อมมีฤทธิ์ในการระบาย จึงมีการนำมาสกัดเป็นยาระบาย แต่หากรับประทานมากเกินไปอาจท้องเสียได้
7.รบกวนกระบวนการแบ่งตัวของเซลล์มะเร็ง จากผลการทดลองสารสกัดน้ำจากผลมะขามป้อมพบว่า มะขามป้อมช่วยลดขนาดก้อนมะเร็งในหนูทดลองได้ แต่ไม่ได้หมายความว่า ผลการทดลองนี้จะสามารถใช้ในคนได้เลยยังคงต้องรองานวิจัยเพิ่มเติมต่อไป
ข้อควรระวังในการรับประทานมะขามป้อม
ผู้ป่วยโรคเบาหวานที่ไม่สามารถควบคุมระดับน้ำตาลในเลือดได้ ควรระมัดระวังการรับประทานมะขามป้อม
ผู้ที่ท้องเสียง่ายควรระวังการรับประทานมะขามป้อม เนื่องจากมะขามป้อมมีฤทธิ์เป็นยาระบายด้วย
มาดูกันเมนูที่แนะนำพร้อมวิธีทำ
น้ำพริกมะขามป้อม
โขลกเนื้อมะขามป้อมให้ละเอียด ทิ้งไว้
นำหอมแดง กระเทียม มาโขลกให้ละเอียด ใส่กะปิลงไป ตามด้วยเนื้อมะขามป้อมที่เตรียมไว้ และพริกขี้หนูโขลกแล้ว
ปรุงรสด้วยน้ำตาลปี๊ป น้ำปลา
เมื่อส่วนผสมเข้ากันดีแล้ว ตักใส่ถ้วย ยกขึ้นพร้อมเสิร์ฟกับไข่เค็ม ปลาสลิดทอด พร้อมผักเคียงตามใจชอบ
ยำกุนเชียงมะขามป้อม
นำกุนเชียงมาหั่นบางๆ จากนั้นนำไปทอดในกระทะให้สุกแล้วพักไว้
เริ่มทำเครื่องยำ โดยการผสมน้ำผึ้ง หอมหัวใหญ่ น้ำมะนาว น้ำปลา ตามด้วยมะขามป้อม ใส่มะม่วง แครอท ใส่พริกป่นเพื่อเพิ่มความเผ็ดร้อน
ตกแต่งให้สวยงามด้วยแครอท ราดหน้าด้วยผักชี จากนั้นนั้นราดน้ำยำลงบนกุนเชียง แล้วยกขึ้นเสิร์ฟได้เลย
มะขามป้อมเป็นผลไม้ที่มีรสชาติเปรี้ยว มีประโยชน์กับสุขภาพในหลายด้าน ช่วยบำรุงอวัยวะได้เกือบทุกส่วน ส่งเสริมความงาม และทำให้เส้นผมดกดำ นอกจากนี้ ก็ได้มีการนำมะขามป้อมไปสกัดเป็นยารักษาโรคและนำมาสกัดเป็นอาหารเสริมจำพวกวิตามินอีกด้วย
เนื่องจากมะขามป้อมเป็นแหล่งวิตามินซีสูง หากใครอยากได้วิตามินซีเพิ่มเติม ลองหันมารับประทานมะขามป้อมดูก็ดีไม่น้อย แต่ในผู้ที่มีโรคประจำตัวบางโรค ควรระมัดระวังในการรับประทานและเลือกรับประทานในปริมาณที่พอเหมาะ
ขอบคุณข้อมูลจาก hdmall
สรรพคุณ "มะขามป้อม" ที่หลายคนยังไม่รู้