ชิวิตินทรีย์ ปริศนาธรรม

อยากจะเดิน ต้องมีตัวต้องการเกิดขึ้นก่อน ตัวต้องการเรียกว่า เจตนา เป็นเจตสิก เมื่อมีตัวเจตนา ตัวสั่งการก็เกิดขึ้น ตัวสั่งการเป็นกระแสประสาท ส่งไปที่กล้ามเนื้อเป็นขุดๆ เป็นวิญญาน ในขณะเดิน การเดินเป็

ในภาวนานั้นเห็นรูปนามเกิดดับ มีพื้นจิตที่เป็นฌานเป็นตัวรองรับการเกิดดับ พื้นจิตที่เป็นฌานนั้นเป็นบรรยากาศ เป็น อากาสาฌาน เมื่อยปากแล้ว ไม่อยากsaid

ได้เข้าไปอ่าน ในอภิธรรมปิฎก เรื่องของ อรหัตมรรคจิต ที่ประกอบไปด้วย สัพพจิตสาธารณะเจตสิก รวมอยู่กับ เจตสิก อีกจำนวนมาก เป็นหางว่าว แม้แต่ มหากิริยาจิต ของพระหรหันต์ ก็ยังประกอบไปด้วย สัพพจิตตสาธารณะเจต

สัพพจิตตสาธารณะ 7- ผัสสะ เวทนา เจตนา สัญญา มนสิการ เอกคตา ชีวิตินทรีย์ เจตสิก3-สัญญา  เวทนา  สังขาร วิตก-สัพพจิตสาธารณเจตสิก  ในรูปและเจตสิก3 ด้วยวิญญานเป็นตัวเชื่อม ....ดังนั้น รู้จิต

ผมอยากรู้ว่า นอกจาก สัพพจิตตสาธารณเจตสิก ๗ ดวงนั่นแล้ว ..ยังมีเจตสิกอื่นๆอะไรอีกบ้าง ชื่ออะไร ? ที่ปรากฏในภาวะที่จิตลงภวังค์ เป็นภวังคจิต หรือตอนที่ยังไม่ขึ้นสู่วิถี...มีโสภณเจตสิก ๒๕ บางดวงประกอบร่วม

จิตคือตัวรู้สึก เมื่อรู้พร้อมทั้งกายใจได้ จิตจะคล่องแคล่วว่องไว ย้ายไปรู้อะไรได้รอบ ทั้งที่ใกล่ ที่ไกล  วิญญานคือรู้ว่ารู้อะไร อันเป็นเพราะมีจิต ดังนั้นการรู้ว่ารู้อะไรนั้น เป็นวิญญาน วิญญานจึงไม

ความจริงของ สติปัฐฐาน คือ ดูจิต ดูจิตคึอมีอีกสิ่ง ดูพฤติกรรมของอีกสิ่ง สิ่งที่ถูกดูคือรูปนาม ขันธ์5 ดูใน จิต เจตสิก รูป รูป นาม ขันธ์5 ขณะหนึ่งจะต่างกับอีกขณะหนึ่ง ความต่างกันนี้ รู้ได้ด้วย “เจ

1.มีความสัมพันธ์กันระหว่าง สฬายาตนกับจิต วิญญาน 2.ในวิปัสนา รูปแตกกระจายออกได้ (กายอริย4ประเภท) กายที่แตกออกอย่างไร รับรู้ได้ด้วยวิญญาน และให้ผล(จิต)ที่แตกต่างกัน 3.วิปัสนาคือรู้เหตุ เหตุมาจากสฬายาต