อ้างถึง... นพ.เจษฎ์ บุณยวงศ์วิโรจน์ โพสต์เฟซบุ๊ก ระบุข้อความว่า
5 พฤติกรรมยอดฮิตที่ทำให้คนไทยเสี่ยง “มะเร็งลำไส้” มากขึ้นแบบไม่รู้ตัว เผยสถิติคนอายุน้อยก็เสี่ยงเป็นมะเร็งลำไส้มากขึ้นทุกปี
1. กินอาหารแปรรูป–ของหมักดอง–ปิ้งย่างบ่อยเกินไป
หมูยอ ไส้กรอก ลูกชิ้น ปลาร้า แหนม ไส้อั่ว แคบหมู ปลาทูไหม้ อาหารที่เราคุ้นเคยแต่เต็มไปด้วย ไนไตรท์, ไนเตรต และสารก่อมะเร็งในกลุ่ม N-nitroso compound โดยเฉพาะเวลาปิ้ง ย่าง จี่จนไหม้
ซึ่งงานวิจัยจาก WHO ชี้ว่า การบริโภคเนื้อแปรรูปวันละแค่ 50 กรัม เพิ่มความเสี่ยงมะเร็งลำไส้ได้ถึง 18% เห็นเล็กๆ แบบลูกชิ้น 2 ไม้ เบคอน 2 แผ่น แต่ถ้ากินทุกวัน = เสี่ยงสะสมระยะยาว
2. ไม่กินผัก ผลไม้ กากใยต่ำ
กินแต่ข้าวขาว ขนมจีน แกงเขียวหวาน พะแนง หมูกระเทียม – กินแบบนี้ทุกวัน แต่
“ไม่แตะผัก” เลย
ผลคือ “ของเสียตกค้างในลำไส้” นานขึ้น → สารก่อมะเร็งที่ร่างกายควรขับออกดันถูกดูดซึมกลับ → เกิดการระคายเคืองและกลายพันธุ์ในเซลล์ลำไส้ในระยะยาว
3. นั่งทั้งวัน ขยับน้อย ขับถ่ายไม่ตรงเวลา
คนยุคนี้ทำงานหน้าจอมากขึ้น นั่งติดโต๊ะวันละ 8–10 ชั่วโมง แถมบางคนไม่ชอบเข้าห้องน้ำในที่สาธารณะ → กลั้นอุจจาระจนเป็นนิสัย
การไม่ขับถ่ายตรงเวลา ทำให้ของเสียสะสมในลำไส้ใหญ่ → เกิดการหมักหมม → แบคทีเรียบางตัวในลำไส้เปลี่ยนสารอาหารให้กลายเป็นสารก่อมะเร็ง
งานวิจัยจาก JAMA Oncol. 2020 บอกว่า
คนที่นั่งวันละ >6 ชั่วโมง มีความเสี่ยงมะเร็งลำไส้เพิ่มขึ้นเกือบ 20%
4. ติดหวาน กินน้ำตาลสูงทุกวัน
ชานม 1 แก้ว = น้ำตาลประมาณ 8–10 ช้อนชา ขนมหวานไทย เช่น ทองหยิบ ทองหยอด ลอดช่อง น้ำกระเจี๊ยบ รวมกันแล้วน้ำตาลล้วน ๆ
น้ำตาลกระตุ้น อินซูลิน ให้หลั่งสูง → ส่งผลต่อฮอร์โมน IGF-1 ที่ช่วยเร่งการแบ่งเซลล์ ถ้าร่างกายมีเซลล์กลายพันธุ์อยู่แล้ว IGF-1 จะเหมือนเติมน้ำมันใส่กองไฟ ทำให้เซลล์ผิดปกติเจริญเร็วขึ้น
5. นอนดึก ติดมือถือ ระบบร่างกายรวน
หลายคนใช้ชีวิตกลางคืน ติดซีรีส์ ติดมือถือ นอนหลังเที่ยงคืนทุกวัน บางคนตี 1–2 ตื่นสาย พฤติกรรมแบบนี้ทำให้ “นาฬิการ่างกาย” หรือ circadian rhythm เสียหาย โดยเฉพาะ การทำงานของลำไส้
ตอนกลางคืน ร่างกายควรซ่อมแซมเซลล์ → ถ้าไม่นอนหรือนอนไม่ดี = ระบบซ่อมเสีย
ผลที่ตามมา: ระบบขับถ่ายรวน → แบคทีเรียในลำไส้เสียสมดุล → กระตุ้นการอักเสบ → เสี่ยงเซลล์กลายพันธุ์และกลายเป็นมะเร็ง
ที่มา :
https://www.khaosod.co.th/special-stories/news_9771228
5 พฤติกรรมฮิต ทำให้คนอายุน้อยเสี่ยงเป็น "มะเร็งลำไส้" มากขึ้น
1. กินอาหารแปรรูป–ของหมักดอง–ปิ้งย่างบ่อยเกินไป
หมูยอ ไส้กรอก ลูกชิ้น ปลาร้า แหนม ไส้อั่ว แคบหมู ปลาทูไหม้ อาหารที่เราคุ้นเคยแต่เต็มไปด้วย ไนไตรท์, ไนเตรต และสารก่อมะเร็งในกลุ่ม N-nitroso compound โดยเฉพาะเวลาปิ้ง ย่าง จี่จนไหม้
ซึ่งงานวิจัยจาก WHO ชี้ว่า การบริโภคเนื้อแปรรูปวันละแค่ 50 กรัม เพิ่มความเสี่ยงมะเร็งลำไส้ได้ถึง 18% เห็นเล็กๆ แบบลูกชิ้น 2 ไม้ เบคอน 2 แผ่น แต่ถ้ากินทุกวัน = เสี่ยงสะสมระยะยาว
2. ไม่กินผัก ผลไม้ กากใยต่ำ
กินแต่ข้าวขาว ขนมจีน แกงเขียวหวาน พะแนง หมูกระเทียม – กินแบบนี้ทุกวัน แต่ “ไม่แตะผัก” เลย
ผลคือ “ของเสียตกค้างในลำไส้” นานขึ้น → สารก่อมะเร็งที่ร่างกายควรขับออกดันถูกดูดซึมกลับ → เกิดการระคายเคืองและกลายพันธุ์ในเซลล์ลำไส้ในระยะยาว
3. นั่งทั้งวัน ขยับน้อย ขับถ่ายไม่ตรงเวลา
คนยุคนี้ทำงานหน้าจอมากขึ้น นั่งติดโต๊ะวันละ 8–10 ชั่วโมง แถมบางคนไม่ชอบเข้าห้องน้ำในที่สาธารณะ → กลั้นอุจจาระจนเป็นนิสัย
การไม่ขับถ่ายตรงเวลา ทำให้ของเสียสะสมในลำไส้ใหญ่ → เกิดการหมักหมม → แบคทีเรียบางตัวในลำไส้เปลี่ยนสารอาหารให้กลายเป็นสารก่อมะเร็ง
งานวิจัยจาก JAMA Oncol. 2020 บอกว่า คนที่นั่งวันละ >6 ชั่วโมง มีความเสี่ยงมะเร็งลำไส้เพิ่มขึ้นเกือบ 20%
4. ติดหวาน กินน้ำตาลสูงทุกวัน
ชานม 1 แก้ว = น้ำตาลประมาณ 8–10 ช้อนชา ขนมหวานไทย เช่น ทองหยิบ ทองหยอด ลอดช่อง น้ำกระเจี๊ยบ รวมกันแล้วน้ำตาลล้วน ๆ
น้ำตาลกระตุ้น อินซูลิน ให้หลั่งสูง → ส่งผลต่อฮอร์โมน IGF-1 ที่ช่วยเร่งการแบ่งเซลล์ ถ้าร่างกายมีเซลล์กลายพันธุ์อยู่แล้ว IGF-1 จะเหมือนเติมน้ำมันใส่กองไฟ ทำให้เซลล์ผิดปกติเจริญเร็วขึ้น
5. นอนดึก ติดมือถือ ระบบร่างกายรวน
หลายคนใช้ชีวิตกลางคืน ติดซีรีส์ ติดมือถือ นอนหลังเที่ยงคืนทุกวัน บางคนตี 1–2 ตื่นสาย พฤติกรรมแบบนี้ทำให้ “นาฬิการ่างกาย” หรือ circadian rhythm เสียหาย โดยเฉพาะ การทำงานของลำไส้
ตอนกลางคืน ร่างกายควรซ่อมแซมเซลล์ → ถ้าไม่นอนหรือนอนไม่ดี = ระบบซ่อมเสีย
ผลที่ตามมา: ระบบขับถ่ายรวน → แบคทีเรียในลำไส้เสียสมดุล → กระตุ้นการอักเสบ → เสี่ยงเซลล์กลายพันธุ์และกลายเป็นมะเร็ง
ที่มา : https://www.khaosod.co.th/special-stories/news_9771228