🍖🥓สารก่อมะเร็งในไส้กรอก เชิงลึก - กินแค่ไหนเพิ่มโอกาสมะเร็ง?

🍖🥓สารก่อมะเร็งในไส้กรอก เชิงลึก - กินแค่ไหนเพิ่มโอกาสมะเร็ง/ กินยังไงให้ปลอดภัย มีแฮ็คมั้ย?  (จากมุมคนที่ชอบกินไส้กรอกมากๆ ผมกินไส้กรอกบ่อยนะ)
__________

#สรุปแบบบรรทัดเดียวจบ สำหรับคนที่ยังเลิกไม่ได้เช่นผม

“ไส้กรอกนานๆกินทีโอเค แบบอาทิตย์ละ 1-2 วัน วันละ 1-2 ชิ้น แบบต้มหรือเวฟ และแนะนำให้กินยี่ห้อที่เติม INS301/316 มันจะไปแก้การเกิดสารก่อมะเร็งครับ … และให้กินไส้กรอกกับผักผลไม้ให้สมดุลครับ”

💓ในภาพ วงแดงๆคือ sodium nitrite วงเขียวคือตัวที่แก้สารก่อมะเร็ง sodium erythorbate/ ascorbate
___________

#แบบยาว ยาวมาก เตือนนะ

‼️แม้ว่าไส้กรอกส่วนใหญ่ 90% จะนิยมเติม sodium nitrite (INS250) เพื่อป้องกันเชื้อ C. botulinum …. (เขาจำเป็นต้องเติม เพราะเชื้อนี้ถ้าสร้างสารพิษ อันตรายกว่า INS250มากๆ เด้ดทันทีได้เลย)

😃 INS250 นอกจากจะป้องกันเชื้อแล้ว ยังช่วยให้ไส้กรอกมีกลิ่นเฉพาะ กลิ่น cured meat อะครับ ไม่งั้นจะคล้ายลูกชิ้น5555 … กันหืน และทำให้ไส้กรอกสีสวย มีหลายฟังก์ชั่นมาก

❤️‍🩹แต่ INS250 ผู้บริโภคเริ่มรู้กันอย่างแพร่หลายว่าเป็นสารก่อมะเร็ง

❇️แต่ศาสตร์ food tech เขายังเติม food additives อีกตัวเพื่อไป “แก้” การฟอร์มตัวของสารก่อมะเร็งให้ลดลง สารนั้นพวก antioxidant คือ erythorbate/ ascorbate (INS316, INS301)  

______________

ยอมรับอย่างไม่มีข้อกังขาว่าไส้กรอกคือ ultra processed food และมี additives ตัวที่ทำให้เกิดสารก่อมะเร็งครับ

หลักฐานภาพรวม (processed meat + nitrite)
อ้างอิงจาก IARC / WHO (2015)

จัดให้ processed meat (ไส้กรอก แฮม เบคอน ฯลฯ) เป็น Group 1 carcinogen = มีหลักฐานเพียงพอว่าทำให้มะเร็งลำไส้ใหญ่ในคนได้ โดยหนึ่งในกลไกคือ nitrite พอเจอกรดในกระเพราะ → N-nitroso compounds (NOCs) ในลำไส้ ซึ่งเป็นสารก่อมะเร็งในสัตว์ทดลองหลายชนิด.

________

1️⃣การวิเคราะห์ของ WHO คือกิน processed meat ~50 g/วัน เป็นเวลาหลายปี → ความเสี่ยงมะเร็งลำไส้ใหญ่เพิ่ม ~18% เทียบกับคนที่กินน้อยมากหรือแทบไม่กินเลย https://www.who.int/news-room/questions-and-answers/item/cancer-carcinogenicity-of-the-consumption-of-red-meat-and-processed-meat?utm_source=chatgpt.com

2️⃣ตัวเลขนี้เป็น grams ของ processed meat ต่อวัน ไม่ใช่ “mg nitrite ต่อ kg น้ำหนักตัว” – เพราะงานระบาดวิทยาส่วนใหญ่เก็บข้อมูลแบบอาหาร ไม่ได้วัด nitrite ตรง ๆ

3️⃣ขนาดรับได้ “ปลอดภัยเชิงพิษวิทยา” ของ nitrite (ไม่ใช่เรื่องมะเร็ง) - หน่วยงานอย่าง JECFA (FAO/WHO) และ EFSA กำหนด Acceptable Daily Intake (ADI) ของ nitrite เพื่อกันพิษเฉียบพลัน เช่น methemoglobinemia (เลือดจับออกซิเจนได้น้อย) ไม่ใช่เพื่อกันมะเร็งนะ … หมายถึงกินไนไตรท์ได้กี่กรัมต่อวันต่อน้ำหนักตัว

4️⃣ADI nitrite = 0–0.07 mg nitrite/ kg น้ำหนักตัว / วัน

ตัวอย่างคนหนัก 60 kg:
ADI ≈ 0.07 × 60 = 4.2 mg nitrite/วัน (มากสุด)

5️⃣ จากการประเมินในยุโรปและเซอร์เบีย คนทั่วไปที่กินเนื้อแปรรูปจะได้รับ nitrite จากเนื้อประมาณ 0.01–0.04 mg/kg bw/วัน หรือ ~14–57% ของ ADI โดยเฉลี่ย (ยังอยู่ต่ำกว่า ADI มาก)

แปลว่าถ้าระดับ nitrite ในอาหารตามกฎหมายปกติ คนส่วนใหญ่จะไม่เกิน ADI ในแง่พิษเฉียบพลัน – แต่เรื่องมะเร็งเป็นการประเมินแบบยาว ๆ ไม่มีเส้นแบ่งว่าเกินเท่านี้แล้วเริ่มเป็นมะเร็งครับ ย้ำว่าตอนนี้พูดถึงเรื่องพิษนะครับยังไม่ใช่มะเร็ง

6️⃣ แล้วไส้กรอกมี nitrite ประมาณเท่าไหร่?
ระดับ “residual nitrite” (ที่เหลืออยู่ตอนเรากินจริง) ต่างกันมากตามสูตรและกฎหมายของแต่ละประเทศครับ

งานรีวิวส่วนใหญ่บอกว่าค่ากฎหมายสำหรับ nitrite ในผลิตภัณฑ์เนื้อ มักจะอยู่ประมาณ
ไม่เกิน 80–150 mg/kg ขึ้นกับผลิตภัณฑ์และกฎหมายประเทศนั้น ๆ (รวมทั้ง Codex)

7️⃣งานวิจัยหลายประเทศพบว่า ไส้กรอก/แฮมจริง ๆ ที่ขายในตลาดมักมี residual nitrite เฉลี่ยราว 30–70 mg/kgไส้กรอก (บางแบรนด์ต่ำกว่านี้ บางแบรนด์สูงกว่านี้)

📍ถ้าใช้ค่าคร่าว ๆ เช่น ไส้กรอก 60 mg nitrite/kg:
กินไส้กรอก 50 g → nitrite ≈ 0.05 kg × 60 mg/kg = 3 mg nitrite

📍ถ้าคนหนัก 60 kg → 3 mg / 60 kg ≈ 0.05 mg/kg bw ≈ 70% ของ ADI ยังไม่แตะ 100%
นี่คือคำนวณหยาบ ๆ ซึ่งยังโอเค

8️⃣ จบเรื่อง toxico … กลับมาเรื่องมะเร็งแล้ว “กินเท่าไหร่ กี่ปี ถึงเป็นมะเร็ง?”
คำตอบคือไม่มีงานวิจัยไหนสรุปตัวเลขเป้ะๆ นะครับ การประเมินมะเร็งบอกได้แค่ความเสี่ยงที่เพิ่มขึ้น … ปัจจุบันไม่สามารถเคาะเป้ะๆได้

มีงานที่วิเคราะห์ใช้ในงานระบาดวิทยา
แบ่งคนเป็นกลุ่มตาม “ปริมาณ processed meat ที่กิน” เช่น ต่ำสุด vs สูงสุด (เช่น <10 g/วัน vs >50 g/วัน)

กลุ่มที่กินเยอะที่สุดมักมี ความเสี่ยงมะเร็งลำไส้สูงขึ้น ~15–20% หลังติดตามหลายปี
(ไม่ใช่ขึ้นแบบ 200–300% แบบสูบบุหรี่ 😃)
______________

🟦สรุปบ้านๆนะครับ

ไม่มีตัวเลขว่า “กินไส้กรอกวันละกี่ชิ้น กี่ปี = มะเร็งแน่ๆ” …. มีแค่ข้อมูลว่า “กิน processed meat ปริมาณ 50 g/วัน หรือกินไส้กรอกชิ้นกลาง 1 ชิ้นทุกวัน
(หรือมากกว่านี้) เป็นเวลาหลายปี → ความเสี่ยงมะเร็งลำไส้เพิ่มขึ้น 18-20% อย่างมีนัยสำคัญ”
______________

❇️ เรื่องต่อมาคือ … ถ้าอยากกิน processed meat แบบชอบจริงๆ แล้วอยากแฮกลดการเกิดสารก่อมะเร็ง มีเทคนิคไหนบ้าง ?

⭐ 1) สารที่ “ลดการเกิด N-nitrosamine” ที่ใช้ในอุตสาหกรรม (งานวิจัยชัดครับ)

1️⃣Ascorbic acid / Ascorbate (วิตามิน C)
หัวใจหลัก: เป็น “nitrosation inhibitor”
วิตามิน C เปลี่ยน nitrite → nitric oxide แทน → ลดการสร้าง N-nitrosamines มากกว่า 70–95% ในหลายงานวิจัย

ใช้ในไส้กรอกเชิงอุตสาหกรรมทั่วโลกเพื่อ “ยับยั้ง nitrosamine” (Codex/USDA)

2️⃣Erythorbic acid / Erythorbate (INS 315/316 ตามลำดับ)
ใส่ 0.1-0.3% ในน้ำหนักรวมไส้กรอกครับ

ให้ผลแรงกว่า ascorbic acid (วิตามินซี) ในการลด nitrosamine ครับ
… ตัวนี้ไม่ใช่วิตามินเหมือน ascorbic แต่ทนความร้อนดีกว่า ascorbic ครับ → นิยมใช้มากกว่า วิตามิน C ในหลายประเทศ
ลด nitrosamine ใน bacon และ sausage ได้ ~80–95%

3️⃣ส่วนอาหาร whole food ที่ “ลดการเกิด N-nitrosamine” หรือ “ลดความเสี่ยงมะเร็งจากเนื้อแปรรูป”
กลุ่มนี้ช่วย ในร่างกาย ไม่ใช่แค่ในอาหาร
งานวิจัยใช้คำว่า endogenous nitrosation inhibition

🍇1) วิตามิน C จากอาหารสด
ผลไม้รสเปรี้ยว, ฝรั่ง, สตรอว์เบอร์รี, ผักใบเขียว
หลักการเดียวกับ ascorbate → ลด nitrosation

🥜 2) วิตามิน E + สารต้านอนุมูลอิสระจากถั่ว
อัลมอนด์ วอลนัต เมล็ดทานตะวัน
ช่วยลด oxidative stress และลด nitrosamine formation

🍵 3) Polyphenols (ชาเขียว, ชาดำ, ชาขาว, โกโก้, dark chocolate, berries)
EGCG, theaflavin ฯลฯ ยับยั้ง nitrosation

🥦 4) Cruciferous vegetables
บร็อคโคลี, กะหล่ำดอก, คะน้า, กวางตุ้ง
Sulforaphane → กระตุ้น phase II enzymes ทำลายสารก่อมะเร็ง/ ลดการอักเสบ
มีงานว่า “ลดความเสี่ยง colorectal cancer โดยเฉพาะเมื่อกิน processed meat สูง”

🍠 5) Fiber & Resistant Starch
ข้าวกล้อง, มันเทศ, กล้วยดิบ, ถั่ว, โฮลวีต
ลดเวลาสัมผัสของสารก่อมะเร็งในลำไส้

🫑 6) Chlorophyll + leafy greens
ผักโขม ผักบุ้ง ผักใบเขียวเข้ม
Chlorophyll จับกับสารก่อมะเร็ง → ลด carcinogen bioavailability
มี evidence ในสัตว์และในหลอดทดลองเซลล์ไลน์

📍 7) Probiotics
โยเกิร์ต, กิมจิ, เทมเป้, ซาวเคราท์
โพรไบโอติกส์บางสายพันธุ์ลด nitrosamine ได้ในการทดลองในสัตว์ … ลดความเสียหายของเยื่อบุลำไส้

___________

❤️‍🩹❤️‍🔥อาหารที่ “เพิ่ม! โอกาสเกิด nitrosamine” (ควรลดครับ)

❌ 1. อาหารที่มี nitrite INS250 ก็ตรงไปตรงมา + แล้วเอาไปย่างที่ความร้อนสูง
Bacon, ไส้กรอกอบที่ไฟแรง, pan-fry ที่ 170–200°C
ความร้อนสูง → nitrosamine ขึ้นมากกว่า

❌ 2. สัตว์เนื้อแดง + ไขมันสูง
ไขมันทำให้ nitrosamine “ละลายดี”
งานของ IARC พบว่าเนื้อแปรรูปไขมันสูง →เสี่ยงกว่าไขมันต่ำ

#สรุปปปปปปปอีกครั้ง

✔️ 1) ถ้าต้องกินไส้กรอก คือกินนานๆที หรือกินคู่กับอาหาร antioxidant สูง
เช่น ผักใบเขียว สลัด มะเขือเทศ ชาเขียว ผลไม้เปรี้ยวโดยเฉพาะเบอร์รี่

✔️ 2) หลีกเลี่ยงการทอด/อบไฟแรง
เพราะ อุณหภูมิสูง = nitrosamine สูงขึ้น
ให้ใช้ ลวก, ต้ม, air fryer อุณหภูมิต่ำ, ผัดไฟเบา

✔️ 3) ตรวจฉลากว่า มี Ascorbate/Erythorbate
ยิ่งดี
จะเจอรหัสครับ
Sodium Ascorbate คือ INS 301
Sodium Erythorbate คือ INS 316

✔️ 4) เพิ่มกากใยในมื้อเดียวกัน
ช่วยลดเวลาสัมผัส mucosa ในลำไส้
เช่น ข้าวกล้อง ถั่ว ผลไม้

✔️ 5) กิน “นาน ๆ ครั้ง” ไม่กินทุกวันทุกมื้อ

💓สุดท้ายมันก็วนมาจบที่ มีความรู้ มีสติ กินหมุนเวียน กินหลากหลาย เน้นผักผลไม้ เดี๋ยวอาหารมันแก้กันเอง สร้างสมดุลกันเองครับ 💓

ปล. มะเร็งหรือไม่มะเร็ง… ปัจจัยจากไนไตรท์ในไส้กรอกนี่น้อยนะครับ เทียบกับมลพิษ บุหรี่ กรรมพันธุ์ นอนน้อย ความเครียด และอีกหลายปัจจัยครับ
CR https://www.facebook.com/share/p/15NViGM3q8K/?mibextid=wwXIfr



แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่