ปัญหาครอบครัวของฉัน

เรื่องที่1. คือเราเป็นคนชอบอยู่บ้าน ไม่ได้ออกไปไหนเลย แล้วก็ส่วนมากอยู่แต่ในห้อง พ่อแม่ก็ทำงาน ส่วนมากก็ได้อยู่ด้วยกันแค่ตอนกินข้าวเย็น แต่บางทีช่วงวันหยุดก็จะแบบมานั่งเล่นพูดคุยกับพ่อแม่ แล้วเราเป็นคนแบบเหมือนไปเที่ยวข้างนอกกับเพื่อนมา พอกลับบ้านมาก็ชอบมาเล่าเรื่องต่างๆให้ครอบครัวฟัง ก็้หมือนแบบอยากคุยกับคนในครอบครัว เพราะบางทีมันก็เหงามากจริงๆ แต่อาจจะเพราะเราพูดเยอะ เราถามเยอะไปรึป่าว แม่เลยเหมือนรำคาญเรา บอกว่าจะถามอะไรเยอะ แล้วก็อื่นๆ ( จำไม่ได้ ) เพราะฟังแล้วเรารู้สึดเสียใจมาก เราเลยบอกแม่ว่า งั้นหนูก็จะไม่พูดแล้ว ไม่ต้องมาถามอะไรหนู ไม่ต้องมาคุยกับหนู แล้วก็ร้องไห้เดินเข้าห้องตัวเอง มันนอยจริงๆเราอยากคุยกับครอบครัวมาก ไม่ค่อยมีเวลาคุยกัน อยู่ด้วยกัน บางทีแม่อยู่ แม่ก็เล่นโทรศัพท์ไม่ได้สนใจอะไรเรามาก แล้วอีกอย่างการคุยกับครอบครัวคือความสุขของเราจริงๆ แต่มันอาจจะเป็นเพราะเราพูดเยอะเกินไป อย่างเช่นบางทีเราก็ถามแม่เรื่องมหาลัย เรื่องอนาคตของเรา นี่มีมหาลัยที่อยากเข้า แต่มันอยู่ต่างจังหวัด ก็เลยต้องปรึกษาแม่ แต่แบบแม่ก็ไม่ได้ให้คำตอบที่แน่ชัด นี่ก็เลยถามนั้นถามนี่ว่าแบบเราจะทำได้ไหม จบไปแล้วเป็นนี่เป็นนั้น คือเราอะอยากรู้จริงๆ อยากปรึกษาแม่จริงๆ แต่แม่คงรำคาญมากเลยพูดแบบนั้นว่า กลับเข้าห้องไป ไป ไปนอนอยู่ในห้องนู้น บางทีก็มีคำที่พูดออกมาแล้วมันจี้ใจ เหมือนรำคาญ ไม่อยากฟัง ก็ประมาณนี้ค่ะ เราอยากได้คำปรึกษาจากเพื่อนๆว่าเรื่องที่เราเล่า มันเป็นยังไง แล้วเราควรทำยังไงกับตัวเองดีคะ

เรื่องที่2. คือบ้านเราเป็นประมาณว่าพ่อแม่ชอบทะเลาะกัน แต่จะทะเลาะแค่ตอนที่พ่อกินเหล้า คือแม่ก็ไม่อยากให้กิน แล้วก็บ่นๆ เลยทะเลาะกัน ตั้งแต่นี่เด็กๆจนตอนนี้ 19ปีแล้ว แล้วบ้านก็ไม่ได้มีฐานะดีอะไร แล้วก็มีพี่ชายคนหนึ่งอายุห่างกัน1ปี แต่พี่ชายก็เสียตั้งแต่อายุ 14-15ปี มันเลยทำให้นี่เหงามาก เพราะขาดพี่ชายไป เหมือนเรากดดันตัวเองมาก เพราะพี่ชายเรียนเก่ง เก่งทุกอย่างจริงๆ แต่เราคือไม่ได้เก่งอะไรเลย แต่พี่ชายกับเราสนิทกันมาก พี่ชายดูแลเราดีมากๆ ถึงอาจจะมีตีกันบ้าง แต่ก็รักกัน แต่แค่ไม่แสดงออก สนิทกันมากๆ เลยทำให้เรารู้สึกว่างเปล่ามาก พอพี่เสีย บ้านเราก็ไม่ได้ทะเลาะกันเท่าไหร่ แต่เหมือนเราอยู่แต่บ้านนานๆ เริ่มมีอาการแพนิคกับการที่ออกไปเจอคนเยอะๆ เลยทำให้เราต้องออกจากรรตอนม.ปลาย แล้วเราก็อยู่แต่บ้าน ไม่ได้เจอใครเท่าไหร่ เจอก็นานๆที แล้วช่วงปีนี้พ่อกับแม่ก็เริ่มทะเลาะกันมากขึ้น ทุกวัน รุนแรงขึ้นเรื่อยๆ จะชอบทะเลาะกันเวลากินข้าว มันเลยทำให้รำคาญมาก กินข้าวไม่อร่อย จนรู้สึกว่ามันสะสมเรื่อยๆ เริ่มเก็บกดเรื่อยๆ เลยมีวันหนึ่งที่สติแตกเลยค่ะ แบบไม่อยากอยู่บ้านหลังนี้แล้ว อยากออกไปให้ไกลที่สุด เหนื่อยมาก เหนื่อยมากจริงๆ ไม่อยากฟังอะไรแล้ว เลยโทรหาเพื่อน ว่าจะไปอยู่ด้วย แต่วันนั้นเพื่อนอยู่บ้านแฟน แต่นี่ก็เก็บของใส่กระเป๋า เตรียมรถไว้พร้อมจะไป แต่แม่ก็เดินมาถามว่าจะไปไหน นี่เลยบอกว่าจะไปหาเพื่อน แม่ก็บอกจะไปทำไม นี่เลยบอกว่า แล้วจะอยู่ทำไม ทะเลาะกันทุกวันจนหนูรู้สึกเหมือนจะเป็นบ้าแล้ว ( ตอนนี้คือร้องไห้ด้วย ) แม่ก็เลยถามว่า จะไปบ้านใคร เดี๋ยวไปส่ง นี่ก็บอกว่าไม่ เดี๋ยวไปเอง คือแม่ก็ไม่ยอม เพราะกลัวจะไม่กลับมาบ้านอีกเลย แล้วแม่ก็บอกว่ามาในห้องก่อน ก็เลยคุยกันในห้อง แล้วแม่ก็บอกว่า เดี๋ยวแม่ไปส่ง ไปบ้านเพื่อนคนนี้หรอ นี่ก็เลยบอกว่า ไม่บอก อย่ามายุ่งกับหนู ให้หนูไปเถอะ สงสารหนูหน่อย หนูไม่อยากอยู่แล้ว ถ้าหนูอยู่ต่อหนูคงเป็นประสาทตายก่อน ( ร้องไห้+ตัวสั่น+พูดไปด้วยแล้วเหมือนกรี๊ดไปด้วย) แล้วแม่ก็มากอดไว้ แล้วบอกว่าอยู่กับแม่ก่อน ไม่สงสารแม่หรอ แม่ก็เหนื่อยเหมือนกัน ถ้าไปแม่ก็จะ(ผคต) แม่พูดแบบนี้ออกมา นี่ก็แบบไม่รู้จะทำยังไงเลย เพราะนี่ก็แบบเหนื่อยจริงๆ ไม่อยากอยู่แล้ว แต่ก็กลัวแม่จะทำจริง แต่นี่พูดออกไปว่า แม่ไม่สงสารหนูหรอ ปล่อยหนูไปเถอะนะ ปล่อยหนูไปเถอะ หนูเหนื่อย หนูจะเป็นบ้าตายอยู่แล้ว ในใจมีแบบคิดอยากตายนิดหน่อย ตอนนั้นคือไม่อยากอยู่แล้วจริงๆ ทั้งร้องไห้ ทั้งกรี๊ดดังมาก ควบคุมตัวเองไม่ได้เลยค่ะ แต่สุดท้ายแม่ก็บอกว่า แม่กับพ่อจะปรับปรุง จะไม่ทะเลาะกันแล้ว จะไม่ทำแบบนี้อีกแล้ว แม่พูดให้เราสงบลง แล้วให้เราอยู่บ้านต่อ เราก็แบบสงสารแม่ด้วย เลยอยู่ แล้วหลังจากนั้นพ่อกับแม่ก็ไม่ค่อยทะเลาะกันจริงๆค่ะ
คือเราอยากถามเพื่อนๆว่าที่เราเล่านี่เพื่อนๆมีความคิดเห็นยังไงบ้างคะ เราป่วยไหม หรือครอบครัวเราเป็นยังไง ตัวเราเป็นยังไงบ้าง ทั้ง2เรื่อง
แก้ไขข้อความเมื่อ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่