[CR] ทริปนี้มีเรื่องมาเล่า #ตอนที่ 5 >เที่ยวหน้าฝน 3 วัน 2 คืน "น้ำตกปิตุ๊โกร-ดอยมะม่วงสามหมื่น"

ทริปนี้มีมีเรื่องมาเล่า การเที่ยวหน้าฝน 3 วัน 2 คืน ที่น้ำตกปิตุ๊โกร - ดอยมะม่วงสามหมื่น
   >> น้ำตกปิตุ๊โกร ที่ชาวบ้านที่นี่เขาเรียกกัน หรือน้ำตกเปรโต๊ะลอซู ที่เราหลายคนเรียกกัน หรือฉายา น้ำตกรูปหัวใจ ที่เป็นเอกลักษณ์ของน้ำตกแห่งนี้ และดอยมะม่วงสามหมื่น ที่ผมยังไม่รู้จักที่มาของชื่ออย่างแน่ชัดจริงๆ บางคนก็บอกว่า เคยมีต้นมะม่วงขึ้นอยู่บนยอดเขาให้นักเดินทางได้เก็บลูกกิน และมีความสูงของยอดเขาที่ 30,000 ฟุต แต่ความจริงก็ไม่สูงขนาดนั้น หรือบางคนก็บอกว่าที่นี้มีรูปทรงคล้ายผลมะม่วง หรือจะอะไรก็ตามครับ สถานที่แห่งนี้ใน ปี 2566 ตอนนั้นผมไม่ได้รู้จักเลยด้วยซ้ำ เพราะตอนนั้นผมพึ่งเริ่มต้นมาสายเดินป่าปีนเขาอย่างจริงจัง และการเที่ยวของผมก็จะเป็นการเที่ยวในหน้าหนาวเกือบ 100%
   >> จนผมมาได้รู้จักสถานที่แห่งนี้จากน้องที่เดินป่าด้วยกัน ซึ่งเราได้เจอกันครั้งแรกที่ทริปดอยขุนตาล ในเดือนกุมภาพันธ์ ปี 2566 และออกทริปด้วยกันอีกครั้งที่ทริปเขาหลวงสุโขทัย ในเดือนมิถุนายนในปีเดียวกัน ซึ่งน้องเขาชักชวนผมไปเที่ยวดอยมะม่วงสามหมื่นกับเพจในเดือนกรกฎาคม แต่ตอนนั้นผมไม่ว่างเลยบอกปฏิเสธไป ถามว่าผมมีความสนใจไหมบอกเลยว่ามาก แต่หลังจากคิดไปคิดมา เอ๊ะเดือนสิงหาคมช่วงวันแม่เรามีวันหยุดนี่นา อยากลองดูเหมือนกันว่าการเที่ยวหน้าฝนจะเป็นยังไง และการเที่ยวกับเพจไปคนเดียวจะเป็นยังไง ถึงแม้ว่าปกติผมจะไปตัวคนเดียวอยู่บ่อยๆ ก็ตาม แต่ผมก็จองเอง เดินทางด้วยตัวเอง วางแผนเอง หาอาหารการกินเอง
   >> แต่การไปกับเพจทุกอย่างจะเปลี่ยนไป ผมไม่ต้องติดต่อจองเอง ไม่ต้องหาวิธีการเดินทางเอง ไม่ต้องทำอาหารกินเอง ไม่ต้องเตรียมสถานที่กางเต็นท์เอง ไม่ต้องวางแผนเอง เพราะเพจนำเที่ยวจัดการให้เราทั้งหมด เราแค่จากเงินจองกับเพจ แพคกระเป๋าก็พร้อมออกเดินทางได้เลย แต่ค่าใช้จ่ายอาจจะแพงกว่าการไปด้วยตัวเองเกือบเท่าตัวก็ตาม แต่ก็ดีกับการใช้เป็นจุดเริ่มต้นในการเดินทางไปในสถานที่ที่เราไม่เคยไป สถานที่ที่ไปยาก สถานที่ที่เดินทางไกล สถานที่ที่ต้องไปเป็นกลุ่มถ้าเราหากลุ่มเองไม่ได้ และสำหรับคนที่ต้องการความสะดวกสบายไม่ต้องการทำอะไรมากมาย ต้องการเที่ยวอย่างเดียว การไปกับเพจก็เป็นอะไรที่ตอบโจทย์มากๆ
   >> เพจที่ผมเลือกไปด้วยในครั้งนี้คือ เพจ LEAVE ซึ่งผมก็ไม่ได้รู้จักอะไรเป็นพิเศษมาก่อนหรอก พึ่งรู้จักสดๆ ร้อนๆ จากน้องเขาที่แนะนำนี้ละ โดยผมเลือกเดินทางจากกรุงเทพไปจังหวัดตากกับทางเพจเลย (แต่ก็สามารถขึ้นรถมาจากหลายๆ จุดตามที่เพจเขากำหนดรับ ราคาก็จะแตกต่างกันไป) ซึ่งในทริปจะมีอาหาร และน้ำดื่มให้ครบตามมื้อในการท่องเที่ยว มีลูกหาบสำหรับของกองกลาง หรือเสียเงินเพิ่มเองสำหรับของส่วนตัว ราคา 75 บาท/กิโลกรัม เหมา 3 วัน มีอุปกรณ์แคมปิ้งให้เช่า มีแคมป์พร้อมสำหรับกางเต็นท์ มีไกด์นำทาง ง่ายๆ ก็คือมีของจำเป็นอื่นๆ หมดแล้วนอกเหนือจากสิ่งของส่วนตัวของเรา ในราคาทริป 3700 บาท ซึ่งเราต้องมัดจำก่อนล่วงหน้า 1700 บาท และอีก 2000 บาท จ่ายในวันเดินทาง โดยเรามีกำหนดการเที่ยวตั้งแต่วันที่ 12-14 สิงหาคม
   >> วันที่ 11 สิงหาคม ก็มาถึงวันออกเดินทาง ซึ่งกำหนดการออกเดินทางก็คือ ตอน 2 ทุ่ม โดยผมมีนัดกับทางเพจไปขึ้นรถที่ บิ๊กซีสะพานควาย ซึ่งก็น่าจะเป็นจุดขึ้นรถใหญ่ของโซนกรุงเทพเลย
   >> การเดินทางที่ง่ายที่สุดของผมก็คือ นั่งรถไฟฟ้า BTS จากสมุทรปราการไปลงสถานีสะพานควาย และเดินลงสถานีเข้าไปในบิ๊กซีได้เลย พอเข้าไปด้านในก็ทำให้ผมถึงกับประหลาดใจเลย เพราะเห็นคนเยอะมากๆ แต่ไม่ใช่คนที่มาเที่ยวบิ๊กซีอย่างเดียวนะ สิ่งที่เห็นคือ เป็นคนที่พร้อมด้วยกระเป๋าเดินทางใบใหญ่ โดยเฉพาะในศูนย์อาหารคนเต็มไปหมดจนไม่มีที่นั่ง และต้องนั่งตามพื้นเลย นี่เป็นการเปิดประสบการณ์ท่องเที่ยวแนวใหม่ของผมเลย การที่ไปกับเพจนำเที่ยวครั้งแรก ผมไม่เคยคิดว่าจะมีคนนิยมท่องเที่ยวกับเพจเยอะขนาดนี้มาก่อน
   >> ผมเองก็นัดเจอกันกับทางเพจที่ศูนย์อาหารเช่นกัน หลังจากเจอกับแอดมินประสานงานเพจแล้ว ผมก็นั่งรอขึ้นรถอยู่กับคนอื่นๆ ในศูนย์อาหาร ตอนนั้นผมคิดในใจว่าทุกคนหมดนี่เลยใช่ไหมที่จะไปน้ำตกกัน ไปขนาดนี้ป่าแตกแน่นอน เพราะจากที่เห็นน่าจะมีคนเกิน 200 คนแน่นอน แต่พอถามแอดมิน ผมก็อุ่นใจขึ้น เพราะคนที่เห็นๆ ก็คือ มาจากหลายๆ เพจ ไปเที่ยวหลายๆ สถานที่ เพราะที่นี่หลายๆ เพจใช้เป็นจุดหลักในการรวมพล ผมยังเป็นเด็กอ่อนในสายนี้จริงๆ
   >> ประมาณ 2 ทุ่ม เราก็พากันเดินลงไปที่ชั้นใต้ดินของห้าง เพื่อไปขึ้นรถตู้ที่จอดรออยู่แล้ว ซึ่งบอกเลยว่ารถตู้ก็จอดเยอะพอๆ กับคน จนผมงงว่าแล้วเราจะต้องไปขึ้นรถคันไหนละเนี้ย



   >> ขึ้นรถตู้แล้ว พร้อมออกเดินทางได้ นั่งคนแรกเลย ซึ่งรถตู้คันหนึ่งก็น่าจะนั่งได้สัก 15 คน

   >> บอกเลยว่าเป็นการนั่งรถ 700 กว่ากิโลที่ผมแทบไม่ได้นอนหลับเลย เพราะพี่ๆ เขาขับรถทำเวลากันแบบแซงซ้ายแซงขวาจนผมกลัวไปเลยไม่กล้าแม้แต่จะข่มตาหลับ รถตู้มีหยุดพักรถเติมน้ำมัน หยุดให้เราเข้าห้องน้ำที่ปั๊ม 2 ครั้ง หลังจากหยุดแวะที่ปั๊มน้ำมัน ปตท. ตรงแม่สอด ตอนนี้เราก็พร้อมลุยโค้งกันแล้ว ต้องยอมรับว่าพี่คนขับรถเขาชำนาญการมากๆ รถตู้คันใหญ่ๆ แต่ขับเข้าโค้งชิวเลย และยังต้องขับหลบวัวเป็นฝูงที่นอนกลางถนนตลอดเส้นทางช่วงขึ้นเขาที่ชาวบ้านปล่อยเลี้ยงตามธรรมชาติ ในที่สุดเวลาประมาณ 05.30 น. เราก็เดินทางมาถึงจุดพักรถที่เป็นครึ่งทางของถนนเส้นแม่สอด-อุ้มผาง ครึ่งทางของ 1219 โค้ง ณที่ กู๋ฮะก้อ
   >> รถหยุดพักให้เราได้เข้าห้องน้ำ ประมาณ 15 นาที ก่อนออกเดินทางต่อ ตอนนี้อุ้มผางก็เหลืออีก 80 กิโลแล้ว



    >> ช่วงครึ่งหลังของการเดินทางก่อนถึงอำเภออุ้มผางตอนนี้ฟ้าก็สว่างแล้ว แต่ก็ไม่สามารถมองเห็นวิวอะไรได้เลย เพราะหมอกบดบังทัศนวิสัยหมดเลย

     >> เวลาประมาณ 07.40 น. เราก็เดินทางมาถึงที่อำเภอแม่สอด ซึ่งรถตู้มาจอดให้เราที่บริเวณหน้า วัดพานิชย์นิรมล เพื่อให้ได้กินข้าวเช้า



    >> พื้นถนนเปียกแฉะไปด้วยน้ำ ไม่เห็นแสงตะวัน ท้องฟ้ามีเมฆมากเหมือนฝนกำลังจะมาอีกรอบ ทริปหน้าฝนของเราครั้งแรกจะเจอฝนตั้งแต่เริ่มเลยใช่ไหม

   >> เราสามารถเดินไปเข้าห้องน้ำในวัดได้เลย แต่ก็ตามสภาพของห้องน้ำวัดละครับ



    >> เวลาประมาณ 08.50 น. เราก็เดินทางมาถึงที่บ้านของลุงลพ หรือลุงลพทัวร์ ที่จะเป็นจุดเปลี่ยนการเดินทางจากรถตู้ไปเป็นรถกระบะของลุงลพ ที่เป็นทัวร์นำเที่ยวพื้นที่ของที่อุ้มผาง นำเที่ยว น้ำตกทีลอซู-น้ำตกปิตุ๊โกร ซึ่งทางเพจประสานงานเอาไว้ บอกเลยว่าตอนนั้นผมก็ไม่รู้หรอกว่าการติดต่อประสานงาน ทั้งหารถ หาลูกหาบ หาไกด์ของที่นี่เขาทำยังไง แต่หลังการเที่ยวในครั้งนี้ก็ทำให้ผมเข้าใจทุกอย่างได้หมดจนสามารถมาเองได้แล้ว และทัวร์ของที่นี้ก็ไม่ได้มีแค่นี้ยังมีอีกหลายๆ เจ้า ซึ่งส่วนใหญ่ก็จะเป็นรีสอร์ทที่พักที่เขาจดทะเบียนจัดเป็นทัวร์นำเที่ยวไปด้วย


   >> ก่อนอื่นเราก็อาบน้ำล้างหน้าแปรงฟันให้ตาสว่างพร้อมสำหรับการเดินทาง เพราะที่นี่มีห้องน้ำห้องอาบน้ำพร้อม

   >> จัดกระเป๋าใหม่เพราะบางอย่างที่ไม่จำเป็นสามารถฝากไว้ที่รถตู้ได้


   >> เช็คน้ำหนักกระเป๋าหน่อย ทริปนี้เบาๆ 20 กิโลเอง เอาอะไรไปนักหนาเนี้ย

   >> รถกระบะที่เราต้องนั่งต่อจากอุ้มผางไปที่จุดเริ่มเดินหู่บ้านกุยเลอตอ



    >> ออกเดินทางได้ go..go..กุยเลอตอ

    >> ส่วนหนึ่งของสมาชิกทีมจาก 22 ชีวิต รวมเจ้าของเพจ และแอดมินเพจ


    >> ตอนนี้ฝนก็ยังไม่ตกลงมาอีกเลย แต่ท้องฟ้าก็คลื้มตลอดเวลา

   >> เป็นวิวใหม่ เป็นสถานที่ใหม่ เป็นบรรยากาศใหม่ ที่ทำให้ผมรู้สึกตื่นตาตื่นใจมากๆ




   >> แม้ว่าจะเป็นวิวไร่ข้าวโพดที่บ้านผมเองก็มี แต่ที่แตกต่างคือ ความเขียว ความสดชื่น ภูเขา ที่บ้านผมไม่มี และยังไม่เคยออกมาเที่ยวในบรรยากาศแบบนี้มาก่อน
















ชื่อสินค้า:   เที่ยวหน้าฝน น้ำตกปิตุ๊โกร-ดอยมะม่วงสามหมื่น
คะแนน:     

CR - Consumer Review : กระทู้รีวิวนี้เป็นกระทู้ CR โดยที่เจ้าของกระทู้

  • - จ่ายเงินซื้อเอง หรือได้รับจากคนรู้จักที่ไม่ใช่เจ้าของสินค้า เช่น เพื่อนซื้อให้
  • - ไม่ได้รับค่าจ้างและผลประโยชน์ใดๆ
แก้ไขข้อความเมื่อ

แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่