หนีความวุ่นวาย ไปหาความสงบที่ปางอุ๋ง แม่ฮ่องสอน

ถ้าจะพูดถึงหนึ่งในสถานที่ที่ผมไปได้เรื่อยๆ แบบไม่เคยเบื่อเลยจริงๆ ปางอุ๋ง จังหวัดแม่ฮ่องสอน ต้องติดอันดับต้นๆ แน่นอน ทุกครั้งที่ได้กลับไป มันเหมือนหัวใจได้ชาร์จพลังใหม่ เหมือนได้ทิ้งความวุ่นวายไว้ข้างหลัง แล้วก้าวเข้าสู่โลกที่เงียบสงบจริงๆ




ครั้งล่าสุดที่ได้ไป ผมวางแผนไว้ว่าจะตื่นมาตั้งแต่ตีสาม เพื่อรอถ่ายภาพทางช้างเผือกที่โผล่พ้นแนวเทือกเขา เชื่อไหมว่ามันยากมากที่จะปลุกตัวเองออกที่นอนและผ้าห่มอุ่นๆ ผมยืนกอดอกด้วยความหนาวเหน็บ ยืนอยู่ริมน้ำด้วยอุณหภูมิประมาณ 5 องศาเซลเซียส ลมหายใจกลายเป็นไอขาวๆ ทันทีที่ออกมาผ้าห่มอุ่นๆ ความหนาวที่โชยมากับลมทำให้ทุกก้าวเดินไปยังริมอ่างเก็บน้ำดูช้าลง แต่พอแหงนหน้ามองท้องฟ้า ความหนาวทั้งหมดก็เหมือนละลายหายไป

กลางท้องฟ้าสีดำสนิท กลุ่มดาวและทางช้างเผือกทอดตัวพาดผ่านทิวเขา เบื้องล่างเป็นทะเลสาบเงียบสงบที่ปกคลุมไปด้วยไอหมอก เงียบจนได้ยินเสียงหัวใจตัวเองเต้น เหมือนทั้งโลกมีแค่ผมกับดวงดาวอันพร่างพรายเท่านั้น มันเป็นภาพที่งดงามจนแทบลืมหายใจ และเป็นเหตุผลว่าทำไมถึงยอมหนาว ยอมงัวเงียตั้งแต่ตีสาม เพื่อมาเฝ้ามองช่วงเวลาสั้นๆ แบบนี้


พอแสงแรกเริ่มแตะขอบฟ้า หมอกบางๆ ก็เริ่มลอยขึ้นจากผืนน้ำเหมือนมีใครเปิดม่านควันช้าๆ ป่าสนสองใบรอบทะเลสาบดูสวยขลังในแสงอ่อนๆ ยามเช้า เสียงนกป่าต่างพากันตื่น ร้องรับรุ่งอรุณใหม่ เป็นภาพที่ไม่ว่าจะกี่ครั้ง ก็ยังทำให้ใจเต้นได้เสมอ





"ปางอุ๋ง" หรือชื่อเต็มว่า "โครงการพระราชดำริปางตอง 2 (ปางอุ๋ง)" เป็นผลลัพธ์จากแนวคิดของในหลวงรัชกาลที่ 9 ที่ต้องการฟื้นฟูผืนป่าและแหล่งน้ำในพื้นที่เสื่อมโทรม พร้อมสร้างรายได้ให้ชาวบ้านได้อยู่ร่วมกับธรรมชาติอย่างยั่งยืน ที่นี่จึงเต็มไปด้วยความสงบและเสน่ห์แบบดิบๆ ของธรรมชาติที่ยังไม่ถูกแตะต้องมากนัก





กิจกรรมไฮไลต์ที่ไม่ควรพลาด คือการล่องแพไม้ไผ่ในทะเลสาบในตอนเช้าๆ ล่องผ่านสายหมอกเบาๆ ฟังเสียงน้ำกระทบแพเป็นจังหวะช้าๆ บางครั้งโชคดีจะได้เห็นคู่หงส์ขาวว่ายน้ำอย่างสง่างามผ่านไปตรงหน้า เป็นประสบการณ์ที่อบอุ่นหัวใจจนอยากหยุดเวลาไว้ตรงนั้น





สำหรับผม...ปางอุ๋งไม่ใช่แค่สถานที่ท่องเที่ยว แต่คือที่พักใจ ที่แค่ได้กลับไปยืนท่ามกลางหมอกและแสงดาว ก็เหมือนหัวใจได้เบาลงทุกครั้ง






แล้วคุณล่ะ พร้อมจะตื่นตีสามในอุณหภูมิ 7 องศา เพื่อสัมผัสความมหัศจรรย์แบบนี้สักครั้งไหม?