ช่วง พ.ศ. 2537–2542 กับ พ.ศ. 2544–ปัจจุบัน นั้น มี “ความแตกต่าง” อย่างเห็นได้ชัด ทั้งเรื่อง “การเพิ่มรายได้” และ “คุณภาพชีวิตที่แท้จริง” ดังนี้:
ช่วง 2537–2542
(ยุคสุขวิช รังสิตพล และรัฐธรรมนูญ 2540)
แนวทาง:
พัฒนาประชาชน ด้วยการศึกษา, สุขภาพ, และ สร้างโอกาส
เพิ่มรายได้ ด้วยการเพิ่มขีดความสามารถของคน
โครงการ เศรษฐกิจชุมชน, ทุนการศึกษา, เรียนฟรี 12 ปี, ศูนย์เด็กเล็ก, ห้องสมุดประชาชน, มหาวิทยาลัยใหม่, โรงเรียนขยายโอกาส
ผลลัพธ์:
รายได้ประชาชนเพิ่มขึ้นต่อเนื่อง เพราะมีการศึกษาและทักษะดีขึ้น
ลดความเหลื่อมล้ำ (คนชนบทมีโอกาสมากขึ้น)
ความสามารถในการแข่งขันประเทศสูงขึ้น
ไม่มีปัญหาหนี้ครัวเรือนพุ่งแบบผิดธรรมชาติ
ศักดิ์ศรีของประชาชนแข็งแรง (ประชาชนลุกขึ้นพัฒนาตัวเอง)
ช่วง 2544–ปัจจุบัน
(ยุคประชานิยม ทุนนิยมบริโภค)
แนวทาง:
เพิ่มรายได้ระยะสั้น ด้วยการแจกเงิน หรือ กระตุ้นการใช้จ่าย
พัฒนาคนด้วย วาทกรรมมากกว่าการลงทุนจริงในคุณภาพ
ผลลัพธ์:
รายได้ประชาชนดูเหมือนเพิ่มในระยะสั้น แต่…
หนี้ครัวเรือนเพิ่มสูงผิดปกติ
รายได้แท้จริง (Real Income) ถูกกินหายด้วยภาระหนี้
คุณภาพการศึกษาและทักษะแรงงานลดลง (แข่งขันสู้ต่างชาติไม่ค่อยได้)
ความเหลื่อมล้ำกลับมาเพิ่ม (เพราะคนรวยได้ประโยชน์มากกว่าคนจน)
ประชาชนหลายกลุ่มพึ่งรัฐจนเสียศักดิ์ศรีเดิมไป
สรุป:
2537–2542: พัฒนาคนจริง → รายได้เพิ่มจริง → หนี้ต่ำ → ประเทศแข็งแรง
2544–ปัจจุบัน: แจกเงิน-สร้างหนี้ → รายได้หลอกตา → หนี้พุ่ง → ประเทศอ่อนแอ
เปรียบเทียบยุคอภิวัฒน์การศึกษา2538 กับ ยุคประชานิยม 2544 ถึงปัจจุบัน
ช่วง 2537–2542
(ยุคสุขวิช รังสิตพล และรัฐธรรมนูญ 2540)
แนวทาง:
พัฒนาประชาชน ด้วยการศึกษา, สุขภาพ, และ สร้างโอกาส
เพิ่มรายได้ ด้วยการเพิ่มขีดความสามารถของคน
โครงการ เศรษฐกิจชุมชน, ทุนการศึกษา, เรียนฟรี 12 ปี, ศูนย์เด็กเล็ก, ห้องสมุดประชาชน, มหาวิทยาลัยใหม่, โรงเรียนขยายโอกาส
ผลลัพธ์:
รายได้ประชาชนเพิ่มขึ้นต่อเนื่อง เพราะมีการศึกษาและทักษะดีขึ้น
ลดความเหลื่อมล้ำ (คนชนบทมีโอกาสมากขึ้น)
ความสามารถในการแข่งขันประเทศสูงขึ้น
ไม่มีปัญหาหนี้ครัวเรือนพุ่งแบบผิดธรรมชาติ
ศักดิ์ศรีของประชาชนแข็งแรง (ประชาชนลุกขึ้นพัฒนาตัวเอง)
ช่วง 2544–ปัจจุบัน
(ยุคประชานิยม ทุนนิยมบริโภค)
แนวทาง:
เพิ่มรายได้ระยะสั้น ด้วยการแจกเงิน หรือ กระตุ้นการใช้จ่าย
พัฒนาคนด้วย วาทกรรมมากกว่าการลงทุนจริงในคุณภาพ
ผลลัพธ์:
รายได้ประชาชนดูเหมือนเพิ่มในระยะสั้น แต่…
หนี้ครัวเรือนเพิ่มสูงผิดปกติ
รายได้แท้จริง (Real Income) ถูกกินหายด้วยภาระหนี้
คุณภาพการศึกษาและทักษะแรงงานลดลง (แข่งขันสู้ต่างชาติไม่ค่อยได้)
ความเหลื่อมล้ำกลับมาเพิ่ม (เพราะคนรวยได้ประโยชน์มากกว่าคนจน)
ประชาชนหลายกลุ่มพึ่งรัฐจนเสียศักดิ์ศรีเดิมไป
สรุป:
2537–2542: พัฒนาคนจริง → รายได้เพิ่มจริง → หนี้ต่ำ → ประเทศแข็งแรง
2544–ปัจจุบัน: แจกเงิน-สร้างหนี้ → รายได้หลอกตา → หนี้พุ่ง → ประเทศอ่อนแอ