จากข่าว โครงการใหม่รัฐบาล แก้หนี้รายย่อยผ่าน AMC ดูแล้วจะมีความเป็นไปได้จริงไหม

เห็นข่าว https://www.kaohoon.com/news/793169 แล้ว โดยส่วนตัวมองว่าประเทศไทย เรามีหนี้สินครัวเรือนอยู่ในระดับที่สูงมาเป็นเวลานาน และมีปัญหาหนี้นอกระบบค่อนข้างสูง และเป็นปัญหาเรื้อรังในบ้านเรามานาน ส่วนตัวขอมองต่างว่าการแก้หนี้รายย่อยผ่าน AMC ดูแล้วน่าจะเป็นไปได้ยาก แต่ต้องยอมรับว่าเนื่องจาก กลุ่มเป้าหมายคือ หนี้รายย่อยไม่มีหลักประกัน และ “ยอดหนี้ไม่เกิน 100,000 บาทต่อราย” ซึ่งเป็นกลุ่มที่มีโอกาสปรับโครงสร้างหนี้ได้ง่ายกว่ากลุ่มหนี้ใหญ่ และในส่วนของ AMC เองนั้น มีประสบการณ์และแนวทางในการบริหารดอกเบี้ย ค่าธรรมเนียมและหนี้สินอยู่แล้ว ประกอบกับแผนเบื้องต้น (บัญชีประมาณ 2.36 ล้านบัญชีในเฟสแรก) → มีโอกาสเห็นผลตั้งแต่ระยะสั้น จึงทำให้อาจจะมีโอกาสเป็นไปได้บ้าง แต่อย่างไรก็ดี ส่วนตัวมองว่า แม้จะลดหนี้รายย่อยได้มาก แต่ ยังไม่ครอบคลุมกลุ่มหนี้ใหญ่ หรือหนี้ที่มีหลักประกัน ซึ่งอาจกระทบระบบกว้างขึ้น และการดำเนินงานให้ได้ตามเป้าต้องอาศัยความร่วมมือจากหลายหน่วยงาน
           แต่สิ่งที่สำคัญกว่าการแก้หนี้คือผมมองว่า ในช่วงที่ผ่านมา หนี้ครัวเรือนไทยส่วนใหญ่เป็น “หนี้เพื่อการบริโภค” เช่น บัตรเครดิต สินเชื่อส่วนบุคคล หรือการกู้เพื่อชำระหนี้เดิม ซึ่งไม่ได้สร้างรายได้ใหม่ให้กับลูกหนี้ ทำให้เกิดวงจรหนี้ที่หมุนเวียนและขยายตัวต่อเนื่อง
สิ่งที่ภาครัฐและสถาบันการเงินเริ่มหันมาให้ความสำคัญ คือการ “เปลี่ยนโครงสร้างหนี้ของประชาชน” จากหนี้เพื่อใช้จ่าย ไปสู่หนี้ที่สร้างโอกาสทางเศรษฐกิจ ควบคู่ไปด้วย เช่น
1. ส่งเสริมให้ประชาชนไม่ต้องเป็นหนี้โดยไม่จำเป็น

การลดแรงจูงใจในการก่อหนี้เริ่มต้นจาก “การสร้างความรู้ทางการเงิน” (Financial Literacy) ให้เข้าใจความแตกต่างระหว่างหนี้ดีและหนี้ไม่ดี
รวมถึงการเข้าถึงสินค้าทางการเงินที่เหมาะสม เช่น สินเชื่อดอกเบี้ยต่ำเพื่อเริ่มต้นอาชีพ หรือโครงการออมภาคบังคับที่สร้างวินัยทางการเงินตั้งแต่ต้น

2. สนับสนุนให้คนมีอาชีพ มีรายได้ที่มั่นคง

หากต้องการลดการพึ่งพาหนี้ในระยะยาว รัฐต้องสร้างระบบสนับสนุนให้ประชาชนมี “อาชีพที่ยั่งยืน” และเข้าถึงแหล่งรายได้ใหม่ เช่น
โครงการฝึกอบรมทักษะใหม่ (Reskill / Upskill)
สนับสนุนผู้ประกอบการรายย่อย (Micro SMEs)
การจับคู่แรงงานกับภาคเอกชนโดยตรง
เมื่อมีรายได้ประจำหรือรายได้เสริมที่มั่นคง จะลดแรงกดดันในการกู้ยืมเพื่อการยังชีพ

3. หากต้องกู้ — ก็ให้เป็น “หนี้ที่สร้างรายได้”

แนวทางนี้ไม่ได้ปฏิเสธการเป็นหนี้ แต่เน้นให้ “หนี้ทำงานแทนเรา”
ตัวอย่างเช่น
กู้เพื่อเริ่มต้นธุรกิจขนาดเล็ก
กู้เพื่อพัฒนาฝีมือแรงงาน หรือศึกษาต่อในสายอาชีพ
กู้เพื่อซื้อเครื่องมือผลิตหรือทรัพย์สินที่สร้างรายได้ระยะยาว
หนี้ลักษณะนี้จะช่วยสร้างกระแสเงินสดกลับคืนมาชำระต้นและดอกเบี้ยได้ โดยไม่เป็นภาระต่อระบบการเงินในระยะยาว
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่