จะอธิบายแบบข้ามภพ ข้ามชาติ ตามหลักฐานดังนี้.

จะอธิบายแบบข้ามภพ ข้ามชาติ ตามหลักฐานดังนี้.

      1. อวิชชา เป็นคตินำไปเกิด
https://84000.org/tipitaka/pitaka_item/m_read.php?E=&B=25&A=18176&w=%E0%BB%E7%B9%A4%B5%D4&option=2
[start]พระไตรปิฎกเล่มที่ ๒๕  พระสุตตันตปิฎกเล่มที่ ๑๗ [ฉบับมหาจุฬาฯ]
ขุททกนิกาย ขุททกปาฐะ-ธรรมบท-อุทาน-อิติวุตตกะ-สุตตนิบาต

[/start]
[start]

             [๗๓๕] อวิชชานั่นแลเป็นคติของสัตว์ทั้งหลาย
              ผู้เข้าถึงชาติ มรณะ และสังสารวัฏ
              ซึ่งมีสภาวะอย่างนี้และสภาวะอย่างอื่น๑- อยู่บ่อยๆ
             [๗๓๖] อวิชชาคือความหลงมัวเมาอย่างใหญ่หลวงนี้
              เป็นเหตุให้สัตว์ทั้งหลายจมปลักอยู่สิ้นกาลนาน
              สัตว์เหล่าใดทำลายอวิชชาด้วยวิชชาแล้ว
              สัตว์เหล่านั้นย่อมไม่เข้าถึงภพใหม่อีก[/start]

      2. อวิชชา ปรากฏอยู่ใน ชาติเก่า แต่เป็นคติ เกิดวิญญาณในชาติใหม่(ปฏิสนธิวิญญาณเริ่มแรกชาติใหม่) ปฏิจสมทปบาทฝ่ายเกิด จึงเป็นแบบข้ามภพข้ามชาติ และจะเป็นแบบนี้แบบเดียว เมื่ออ้างอิงจากหลักฐานในพระไตรปิฏก

https://84000.org/tipitaka/pitaka_item/r.php?B=35&A=4087&w=%CD%C7%D4%AA%AA%D2
[start]พระไตรปิฎก เล่มที่ ๓๕  พระอภิธรรมปิฎก เล่มที่ ๒
วิภังคปกรณ์[/start]
[start]       [๒๙๐]     อวิชชาเกิดเพราะสังขารเป็นปัจจัย ฯลฯ
        อวิชชาเกิดเพราะวิญญาณเป็นปัจจัย ฯลฯ
        อวิชชาเกิดเพราะนามเป็นปัจจัย ฯลฯ
        อวิชชาเกิดเพราะอายตนะที่ ๖ เป็นปัจจัย ฯลฯ
        อวิชชาเกิดเพราะผัสสะเป็นปัจจัย ฯลฯ
        อวิชชาเกิดเพราะเวทนาเป็นปัจจัย ฯลฯ
        อวิชชาเกิดเพราะตัณหาเป็นปัจจัย ฯลฯ
        อวิชชาเกิดเพราะอุปาทานเป็นปัจจัย ฯลฯ
        สังขารเกิดเพราะอวิชชาเป็นปัจจัย
        วิญญาณเกิดเพราะสังขารเป็นปัจจัย
        นามรูปเกิดเพราะวิญญาณเป็นปัจจัย
        สฬายตนะเกิดเพราะนามรูปเป็นปัจจัย
        ผัสสะเกิดเพราะสฬายตนะเป็นปัจจัย
        เวทนาเกิดเพราะผัสสะเป็นปัจจัย
        ตัณหาเกิดเพราะเวทนาเป็นปัจจัย
        อุปาทานเกิดเพราะตัณหาเป็นปัจจัย
        ภพเกิดเพราะอุปาทานเป็นปัจจัย
        ชาติเกิดเพราะภพเป็นปัจจัย
        ชรามรณะเกิดเพราะชาติเป็นปัจจัย
    ความเกิดขึ้นแห่งกองทุกข์ทั้งมวลนี้ ย่อมมีด้วยประการอย่างนี้
อภิธรรมมาติกา จบ
[/start]

      จะเห็นว่าไม่ว่า ปฏิจสมุทปบาทจะถูกตัดตอนในส่วนใหนที่ไม่ใช่เกิดเพราะ วิชชา  ตั้งแต่ สังขาร >> อุปาทาน  อวิชชา สามารถเกิดขึ้นได้โดยตลอด จาก...
           อวิชชาเกิดเพราะวิญญาณเป็นปัจจัย ฯลฯ
         อวิชชาเกิดเพราะนามเป็นปัจจัย ฯลฯ
         อวิชชาเกิดเพราะอายตนะที่ ๖ เป็นปัจจัย ฯลฯ
         อวิชชาเกิดเพราะผัสสะเป็นปัจจัย ฯลฯ
        อวิชชาเกิดเพราะเวทนาเป็นปัจจัย ฯลฯ
        อวิชชาเกิดเพราะตัณหาเป็นปัจจัย ฯลฯ
        อวิชชาเกิดเพราะอุปาทานเป็นปัจจัย ฯลฯ
        สังขารเกิดเพราะอวิชชาเป็นปัจจัย
          ....

     ดังนั้น ปฏิจสมุทปบาท ของการเกิดข้ามภพข้ามชาติ  จึงมีเพียงแบบเดียวเท่านั้น. ก็คือ..
      เริ่มจาก อวิชชา เกิดในชาติเก่าในภพเก่า แม้ว่าปฏิจสมุทปบาทจะโดนตัดขาดในช่างใหนตั้งแต่   สังขาร >> อุปาทาน  อวิชชา สามารถเกิดขึ้น แล้วก็จะเป็นคตินำไปเกิด ในชาติหรือภพใหม่ ที่มีมหาภูตรูปพร้อมที่เกิด สังขาร ด้วย อวิชชา ในภพก่อนชาติก่อนเป็นปัจจัย ตามกรรมและวิบากแห่งกรรมนั้นๆ
       แล้ว สังขาร เป็นปัจจัยให้เกิด วิญญาณ (ปฏิสนธิวิญญาณแรก ที่เกิดในภพใหม่ชาติใหม่)
       วิญญาณ เป็นปัจจัยให้เกิด นามรูป
      ........

       ซึ่งเมื่อผมพิจารณาในพระไตรปิฏกแล้ว การเกิดข้ามภพข้ามชาติเวียนว่ายตายเกิดในวัฏฏสงสาร คร่อมปฏิจสมุทปบาทฝ่ายเกิด  เกิดขึ้นได้อย่างนี้ยังไม่พบอย่างอื่นเลย.
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่