คะแนน IMDb ปัจจุบัน: 9.0/10
กำกับโดย: Steven Spielberg
นำแสดงโดย: Liam Neeson, Ben Kingsley, Ralph Fiennes
รางวัลออสการ์: 7 รางวัล (รวม
ภาพยนตร์ยอดเยี่ยม และ
ผู้กำกับยอดเยี่ยม)
🕊
เรื่องย่อ
"Schindler’s List" คือภาพยนตร์ประวัติศาสตร์ที่สร้างจากเรื่องจริงของ
Oskar Schindler (Liam Neeson) นักธุรกิจชาวเยอรมันสมาชิกพรรคนาซี ผู้แสวงหากำไรจากสงครามโลกครั้งที่ 2 ด้วยการเปิดโรงงานและใช้แรงงานชาวยิว
แต่หลังจากได้เห็นความโหดร้ายของนาซีต่อชาวยิวในค่ายกักกัน
Schindler ค่อย ๆ เปลี่ยนไป เขาเริ่มใช้เงิน ทรัพยากร และอิทธิพลของตนเองเพื่อ “ซื้อชีวิต” แรงงานยิว และช่วยพวกเขาจากความตายด้วยการทำ “รายชื่อ” ที่กลายเป็นความหวังเดียวของผู้คน
ในโลกที่เต็มไปด้วยความมืดมน
เขาคือแสงเล็ก ๆ ที่ยิ่งใหญ่ที่สุดในประวัติศาสตร์มนุษยชาติ
🎞
รีวิวหลังรับชม
✅
จุดเด่นของภาพยนตร์
ภาพขาวดำที่เต็มไปด้วยอารมณ์มากกว่าสีใด ๆ
การถ่ายทำด้วยขาวดำทำให้บรรยากาศของหนังทั้งเศร้า หม่น และสมจริงในแบบที่ตราตรึงหัวใจผู้ชม
Liam Neeson ถ่ายทอด Oskar Schindler ได้อย่างลึกซึ้ง
จากชายเจ้าสำราญ นักธุรกิจที่เห็นแก่ตัว กลายเป็น “ฮีโร่” ที่ไม่ต้องถืออาวุธ แต่ใช้หัวใจและศรัทธาเพื่อช่วยคนนับพันชีวิต
Ralph Fiennes กับบท “โกธ” ตัวร้ายที่ขนลุกที่สุดในโลกภาพยนตร์
ในบทนายพล
Amon Göth ที่ยิงคนจากระเบียงเหมือนเป็นกีฬา Fiennes ถ่ายทอด "ปีศาจในคราบมนุษย์" ได้อย่างทรงพลังและน่ากลัวจนน่าขนลุก
ฉาก “เด็กหญิงชุดแดง” ที่กลายเป็นสัญลักษณ์ของความหวังและความสูญเสีย
ฉากสั้น ๆ แต่มีพลังมากที่สุดฉากหนึ่งในประวัติศาสตร์ภาพยนตร์ สะกิดใจเราว่าแม้เพียงชีวิตเดียวก็มีความหมาย
ดนตรีประกอบจาก John Williams ที่สะเทือนหัวใจทุกครั้งที่บรรเลง
โดยเฉพาะเสียงไวโอลินของ Itzhak Perlman ที่บรรเลงธีมหลัก ทำให้ทุกความเงียบในเรื่อง “พูดเสียงดัง”
❌
จุดที่อาจเป็นข้อเสีย
หนังมีความยาวและเนื้อหาเข้มข้นมาก (3 ชั่วโมงกว่า)
ต้องใช้สมาธิและอารมณ์ในการรับชมอย่างต่อเนื่อง
ฉากโหดร้ายหลายฉากสะเทือนอารมณ์หนักมาก
ภาพของการฆ่าล้างเผ่าพันธุ์เป็นภาพที่เจ็บปวดและไม่เหมาะกับผู้ชมที่เซนซิทีฟมาก
🏆
สรุป
"Schindler’s List" ไม่ใช่แค่หนัง แต่มันคือ
บันทึกประวัติศาสตร์ฉบับภาพยนตร์ ที่ทรงพลังที่สุดเรื่องหนึ่งเท่าที่เคยมีมา มันเตือนใจเราว่า “แม้ในวันที่มืดมนที่สุด ก็ยังมีคนที่เลือกจะเป็นแสงเล็ก ๆ”
เป็นภาพยนตร์ที่อาจดูเพียงครั้งเดียวในชีวิต... แต่จะอยู่ในหัวใจไปตลอดกาล
คะแนน: 8.5/10 ⭐⭐⭐⭐⭐⭐⭐⭐
รีวิวภาพยนตร์ "Schindler’s List" (1993) – รายชื่อที่มีค่ากว่าชีวิต กับมนุษยธรรมที่ไม่เคยตาย
คะแนน IMDb ปัจจุบัน: 9.0/10
กำกับโดย: Steven Spielberg
นำแสดงโดย: Liam Neeson, Ben Kingsley, Ralph Fiennes
รางวัลออสการ์: 7 รางวัล (รวม ภาพยนตร์ยอดเยี่ยม และ ผู้กำกับยอดเยี่ยม)
🕊 เรื่องย่อ
"Schindler’s List" คือภาพยนตร์ประวัติศาสตร์ที่สร้างจากเรื่องจริงของ Oskar Schindler (Liam Neeson) นักธุรกิจชาวเยอรมันสมาชิกพรรคนาซี ผู้แสวงหากำไรจากสงครามโลกครั้งที่ 2 ด้วยการเปิดโรงงานและใช้แรงงานชาวยิว
แต่หลังจากได้เห็นความโหดร้ายของนาซีต่อชาวยิวในค่ายกักกัน Schindler ค่อย ๆ เปลี่ยนไป เขาเริ่มใช้เงิน ทรัพยากร และอิทธิพลของตนเองเพื่อ “ซื้อชีวิต” แรงงานยิว และช่วยพวกเขาจากความตายด้วยการทำ “รายชื่อ” ที่กลายเป็นความหวังเดียวของผู้คน
ในโลกที่เต็มไปด้วยความมืดมน เขาคือแสงเล็ก ๆ ที่ยิ่งใหญ่ที่สุดในประวัติศาสตร์มนุษยชาติ
🎞 รีวิวหลังรับชม
✅ จุดเด่นของภาพยนตร์
ภาพขาวดำที่เต็มไปด้วยอารมณ์มากกว่าสีใด ๆ
การถ่ายทำด้วยขาวดำทำให้บรรยากาศของหนังทั้งเศร้า หม่น และสมจริงในแบบที่ตราตรึงหัวใจผู้ชม
Liam Neeson ถ่ายทอด Oskar Schindler ได้อย่างลึกซึ้ง
จากชายเจ้าสำราญ นักธุรกิจที่เห็นแก่ตัว กลายเป็น “ฮีโร่” ที่ไม่ต้องถืออาวุธ แต่ใช้หัวใจและศรัทธาเพื่อช่วยคนนับพันชีวิต
Ralph Fiennes กับบท “โกธ” ตัวร้ายที่ขนลุกที่สุดในโลกภาพยนตร์
ในบทนายพล Amon Göth ที่ยิงคนจากระเบียงเหมือนเป็นกีฬา Fiennes ถ่ายทอด "ปีศาจในคราบมนุษย์" ได้อย่างทรงพลังและน่ากลัวจนน่าขนลุก
ฉาก “เด็กหญิงชุดแดง” ที่กลายเป็นสัญลักษณ์ของความหวังและความสูญเสีย
ฉากสั้น ๆ แต่มีพลังมากที่สุดฉากหนึ่งในประวัติศาสตร์ภาพยนตร์ สะกิดใจเราว่าแม้เพียงชีวิตเดียวก็มีความหมาย
ดนตรีประกอบจาก John Williams ที่สะเทือนหัวใจทุกครั้งที่บรรเลง
โดยเฉพาะเสียงไวโอลินของ Itzhak Perlman ที่บรรเลงธีมหลัก ทำให้ทุกความเงียบในเรื่อง “พูดเสียงดัง”
❌ จุดที่อาจเป็นข้อเสีย
หนังมีความยาวและเนื้อหาเข้มข้นมาก (3 ชั่วโมงกว่า)
ต้องใช้สมาธิและอารมณ์ในการรับชมอย่างต่อเนื่อง
ฉากโหดร้ายหลายฉากสะเทือนอารมณ์หนักมาก
ภาพของการฆ่าล้างเผ่าพันธุ์เป็นภาพที่เจ็บปวดและไม่เหมาะกับผู้ชมที่เซนซิทีฟมาก
🏆 สรุป
"Schindler’s List" ไม่ใช่แค่หนัง แต่มันคือ บันทึกประวัติศาสตร์ฉบับภาพยนตร์ ที่ทรงพลังที่สุดเรื่องหนึ่งเท่าที่เคยมีมา มันเตือนใจเราว่า “แม้ในวันที่มืดมนที่สุด ก็ยังมีคนที่เลือกจะเป็นแสงเล็ก ๆ”
เป็นภาพยนตร์ที่อาจดูเพียงครั้งเดียวในชีวิต... แต่จะอยู่ในหัวใจไปตลอดกาล
คะแนน: 8.5/10 ⭐⭐⭐⭐⭐⭐⭐⭐