คะแนน IMDb ปัจจุบัน: 8.3/10
ผู้กำกับ: Gus Van Sant
เขียนบทและแสดงนำโดย: Matt Damon & Ben Affleck
นักแสดงนำ: Robin Williams, Matt Damon, Ben Affleck, Minnie Driver
รางวัลออสการ์: 2 รางวัล (รวมบทภาพยนตร์ดั้งเดิมยอดเยี่ยม และนักแสดงสมทบชายยอดเยี่ยม)
🧠
เรื่องย่อ
"Good Will Hunting" เป็นภาพยนตร์ดราม่าที่เล่าเรื่องของ
Will Hunting (Matt Damon) เด็กหนุ่มชาวบอสตันผู้มีพรสวรรค์ทางคณิตศาสตร์ระดับอัจฉริยะ แต่ใช้ชีวิตเรื่อยเปื่อย ทำงานเป็นภารโรงที่ MIT และมักก่อเรื่องทะเลาะวิวาทตามถนน
วันหนึ่ง ศาสตราจารย์คณิตศาสตร์ที่พบว่า Will สามารถแก้โจทย์สุดหินได้อย่างง่ายดาย จึงพยายามช่วยให้เขาได้พัฒนาศักยภาพของตัวเอง แต่มีข้อแม้ว่า
Will ต้องเข้ารับการบำบัดทางจิตใจ เพื่อจัดการกับอดีตที่ยังค้างคา
Sean Maguire (Robin Williams) นักจิตวิทยาผู้เจ็บปวดจากการสูญเสียภรรยา จึงกลายมาเป็นกระจกสะท้อนใจของ Will และการเยียวยาทั้งสองก็เริ่มต้นจากตรงนั้น
🎞
รีวิวหลังรับชม
✅
จุดเด่นของภาพยนตร์
บทภาพยนตร์ที่ลึก ซึ้ง และ "จริง" แบบไม่ต้องปรุงแต่ง
เรื่องราวของเด็กหนุ่มอัจฉริยะที่ถูกพันธนาการด้วยอดีต ครอบครัว และความไม่มั่นใจ ถูกถ่ายทอดด้วยบทสนทนาที่คมคาย และเต็มไปด้วย “ความรู้สึกแท้”
การแสดงอันทรงพลังของ Robin Williams
บท “Sean” ของเขาเป็นทั้งอ่อนโยน ดุดัน ลึกซึ้ง และเต็มไปด้วยอารมณ์ที่สั่งสม จนทำให้เขาได้รับรางวัลออสการ์นักแสดงสมทบชายยอดเยี่ยม
เคมีของตัวละครที่อบอุ่นและเป็นธรรมชาติ
ไม่ว่าจะเป็นมิตรภาพระหว่าง Will กับ Chuckie (Ben Affleck) หรือบทโรแมนติกกับ Skylar (Minnie Driver) ทุกความสัมพันธ์ในเรื่อง “เป็นของจริง” และสัมผัสได้
ประเด็นเรื่อง “พรสวรรค์ vs การเลือกทางเดินชีวิต”
หนังไม่ใช่แค่เรื่องอัจฉริยะ แต่เป็นการตั้งคำถามว่า “ถ้ามีพรสวรรค์แต่หัวใจยังไม่หายเจ็บ เราจะไปได้ไกลแค่ไหน?”
ฉาก "It's not your fault." ที่กลายเป็นตำนานแห่งน้ำตา
ฉากนี้ไม่ต้องอธิบายอะไรมาก ถ้าคุณเคยดู... คุณรู้ว่ามัน "จริง" แค่ไหน
❌
จุดที่อาจเป็นข้อเสีย
โครงเรื่องเรียบง่าย ไม่หวือหวา
สำหรับบางคนที่ชอบหนังพล็อตซับซ้อน อาจรู้สึกว่าหนังเดินเรื่องช้าและไม่มีไคลแมกซ์แบบระเบิดระเบ้อ
บางช่วงอาจต้องการพื้นฐานภาษาอังกฤษเพื่อซึ้งถึงบทพูด
เนื่องจากบทเต็มไปด้วยบทสนทนาแนววรรณกรรม จิตวิทยา และอารมณ์
🏆
สรุป
"Good Will Hunting" ไม่ใช่หนังที่สอนให้เราคิดเลขเก่งขึ้น — แต่มันสอนให้เรารู้ว่า
"คุณค่าในตัวเอง ไม่ได้อยู่ที่สมองแค่เพียงอย่างเดียว แต่มันอยู่ที่คุณเลือกจะใช้ชีวิตยังไงต่างหาก"
นี่คือหนังที่อบอุ่น ลึกซึ้ง และเข้าไป “ปลอบใจ” คนดูได้อย่างเงียบ ๆ
คะแนน: 9/10 ⭐⭐⭐⭐⭐⭐⭐⭐⭐
รีวิวภาพยนตร์ "Good Will Hunting" (1997) – อัจฉริยะที่ยังไม่รู้จักหัวใจตัวเอง
คะแนน IMDb ปัจจุบัน: 8.3/10
ผู้กำกับ: Gus Van Sant
เขียนบทและแสดงนำโดย: Matt Damon & Ben Affleck
นักแสดงนำ: Robin Williams, Matt Damon, Ben Affleck, Minnie Driver
รางวัลออสการ์: 2 รางวัล (รวมบทภาพยนตร์ดั้งเดิมยอดเยี่ยม และนักแสดงสมทบชายยอดเยี่ยม)
🧠 เรื่องย่อ
"Good Will Hunting" เป็นภาพยนตร์ดราม่าที่เล่าเรื่องของ Will Hunting (Matt Damon) เด็กหนุ่มชาวบอสตันผู้มีพรสวรรค์ทางคณิตศาสตร์ระดับอัจฉริยะ แต่ใช้ชีวิตเรื่อยเปื่อย ทำงานเป็นภารโรงที่ MIT และมักก่อเรื่องทะเลาะวิวาทตามถนน
วันหนึ่ง ศาสตราจารย์คณิตศาสตร์ที่พบว่า Will สามารถแก้โจทย์สุดหินได้อย่างง่ายดาย จึงพยายามช่วยให้เขาได้พัฒนาศักยภาพของตัวเอง แต่มีข้อแม้ว่า Will ต้องเข้ารับการบำบัดทางจิตใจ เพื่อจัดการกับอดีตที่ยังค้างคา
Sean Maguire (Robin Williams) นักจิตวิทยาผู้เจ็บปวดจากการสูญเสียภรรยา จึงกลายมาเป็นกระจกสะท้อนใจของ Will และการเยียวยาทั้งสองก็เริ่มต้นจากตรงนั้น
🎞 รีวิวหลังรับชม
✅ จุดเด่นของภาพยนตร์
บทภาพยนตร์ที่ลึก ซึ้ง และ "จริง" แบบไม่ต้องปรุงแต่ง
เรื่องราวของเด็กหนุ่มอัจฉริยะที่ถูกพันธนาการด้วยอดีต ครอบครัว และความไม่มั่นใจ ถูกถ่ายทอดด้วยบทสนทนาที่คมคาย และเต็มไปด้วย “ความรู้สึกแท้”
การแสดงอันทรงพลังของ Robin Williams
บท “Sean” ของเขาเป็นทั้งอ่อนโยน ดุดัน ลึกซึ้ง และเต็มไปด้วยอารมณ์ที่สั่งสม จนทำให้เขาได้รับรางวัลออสการ์นักแสดงสมทบชายยอดเยี่ยม
เคมีของตัวละครที่อบอุ่นและเป็นธรรมชาติ
ไม่ว่าจะเป็นมิตรภาพระหว่าง Will กับ Chuckie (Ben Affleck) หรือบทโรแมนติกกับ Skylar (Minnie Driver) ทุกความสัมพันธ์ในเรื่อง “เป็นของจริง” และสัมผัสได้
ประเด็นเรื่อง “พรสวรรค์ vs การเลือกทางเดินชีวิต”
หนังไม่ใช่แค่เรื่องอัจฉริยะ แต่เป็นการตั้งคำถามว่า “ถ้ามีพรสวรรค์แต่หัวใจยังไม่หายเจ็บ เราจะไปได้ไกลแค่ไหน?”
ฉาก "It's not your fault." ที่กลายเป็นตำนานแห่งน้ำตา
ฉากนี้ไม่ต้องอธิบายอะไรมาก ถ้าคุณเคยดู... คุณรู้ว่ามัน "จริง" แค่ไหน
❌ จุดที่อาจเป็นข้อเสีย
โครงเรื่องเรียบง่าย ไม่หวือหวา
สำหรับบางคนที่ชอบหนังพล็อตซับซ้อน อาจรู้สึกว่าหนังเดินเรื่องช้าและไม่มีไคลแมกซ์แบบระเบิดระเบ้อ
บางช่วงอาจต้องการพื้นฐานภาษาอังกฤษเพื่อซึ้งถึงบทพูด
เนื่องจากบทเต็มไปด้วยบทสนทนาแนววรรณกรรม จิตวิทยา และอารมณ์
🏆 สรุป
"Good Will Hunting" ไม่ใช่หนังที่สอนให้เราคิดเลขเก่งขึ้น — แต่มันสอนให้เรารู้ว่า
"คุณค่าในตัวเอง ไม่ได้อยู่ที่สมองแค่เพียงอย่างเดียว แต่มันอยู่ที่คุณเลือกจะใช้ชีวิตยังไงต่างหาก"
นี่คือหนังที่อบอุ่น ลึกซึ้ง และเข้าไป “ปลอบใจ” คนดูได้อย่างเงียบ ๆ
คะแนน: 9/10 ⭐⭐⭐⭐⭐⭐⭐⭐⭐