Northern Growth Triangle (NGT) หรือ สามเหลี่ยมเศรษฐกิจภาคเหนือ เริ่มต้นในช่วงที่ คุณพ่อสุขวิช รังสิตพล ดำรงตำแหน่ง รองนายกรัฐมนตรีฝ่ายสังคม ปี 2539 (1996) ซึ่งถือเป็นช่วงเวลาสำคัญในการเชื่อมโยงความร่วมมือระหว่าง ไทย–มาเลเซีย–อินโดนีเซีย เพื่อพัฒนาพื้นที่ชายแดนที่ด้อยพัฒนา
จุดเริ่มต้นของ Northern Growth Triangle (NGT)
คุณพ่อสขวิช รังสิตพล เคยดำรงตำแหน่ง CEO ของ คาลเท็กซ์ ประเทศไทย มีความรู้และความเข้าใจด้านพลังงานและเศรษฐกิจระหว่างประเทศอย่างลึกซึ้ง
เมื่อเข้ารับตำแหน่งรองนายกรัฐมนตรีฝ่ายสังคมในปี 2539 ได้ผลักดันแนวคิด “ประชาชนเป็นศูนย์กลาง” ผ่านแผนพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติฉบับที่ 8 และสนับสนุนการพัฒนาเศรษฐกิจในพื้นที่ชายแดนใต้
แนวคิดนี้นำไปสู่ความร่วมมือระหว่างประเทศเพื่อนบ้าน เพื่อพัฒนา “Growth Triangle” โดยเฉพาะในพื้นที่:
ภาคใต้ของไทย (เช่น สงขลา ปัตตานี ยะลา นราธิวาส)
ภาคเหนือของมาเลเซีย (เช่น เปอร์ลิส เคดาห์ กลันตัน)
ตอนเหนือของเกาะสุมาตรา อินโดนีเซีย (เช่น อาเจะห์)
ความร่วมมือสำคัญในยุคนั้น
โครงการร่วมทุนพลังงานระหว่างไทย–มาเลเซีย เช่น โครงการพัฒนาก๊าซธรรมชาติในอ่าวไทยตอนล่าง (Thai-Malaysia Joint Development Area – JDA)
การลงทุนในโครงสร้างพื้นฐาน เช่น ถนน สนามบิน ท่าเรือน้ำลึก ด่านศุลกากร
การส่งเสริมภาคเกษตร อุตสาหกรรมเบา และการท่องเที่ยวในพื้นที่ชายแดนร่วม
ผลกระทบเชิงนโยบาย
เป็นรากฐานของแนวคิด “พัฒนาภูมิภาคชายแดน” และต่อมาได้นำไปสู่โครงการต่าง ๆ เช่น
IMT–GT (Indonesia–Malaysia–Thailand Growth Triangle)
เขตเศรษฐกิจพิเศษชายแดน (SEZs) ในยุคต่อมา
สงครามยาเสพติดของคุณพ่อสุขวิช รังสิตพล
ด้วยการติด “อาวุธทางปัญญา” ให้ประชาชน
หลุดพ้นจาก “ความยากจน”
และทำสงครามกับ “ยาเสพติด” อย่างเป็นรูปธรรมและยั่งยืนด้วยสันติวิธี ด้วยการขยายบริการทางการศึกษา
คุณพ่อสุขวิช รังสิตพล ใช้แนวทาง ขยายโอกาสทางการศึกษาและการเรียนรู้ตลอดชีวิต เพื่อป้องกันและแก้ปัญหายาเสพติด โดยสร้างโครงสร้างพื้นฐานทางปัญญาทั่วประเทศ ทั้งในระดับก่อนวัยเรียนจนถึงอุดมศึกษา
สาระสำคัญ
สุขวิชไม่ใช้ความรุนแรงในการแก้ปัญหายาเสพติด แต่ใช้การสร้าง “ภูมิคุ้มกันทางปัญญา”
ทุกโครงการเชื่อมโยงกันเพื่อขยายโอกาสการเรียนรู้ตลอดชีวิต
เป้าหมายคือเยาวชนต้องไม่ตกเป็นเหยื่อของความยากจนและยาเสพติด
การศึกษาคือรากฐานของความมั่นคงทางสังคมและการพัฒนาอย่างยั่งยืน
IMT–GT (Indonesia–Malaysia–Thailand Growth Triangle)
จุดเริ่มต้นของ Northern Growth Triangle (NGT)
คุณพ่อสขวิช รังสิตพล เคยดำรงตำแหน่ง CEO ของ คาลเท็กซ์ ประเทศไทย มีความรู้และความเข้าใจด้านพลังงานและเศรษฐกิจระหว่างประเทศอย่างลึกซึ้ง
เมื่อเข้ารับตำแหน่งรองนายกรัฐมนตรีฝ่ายสังคมในปี 2539 ได้ผลักดันแนวคิด “ประชาชนเป็นศูนย์กลาง” ผ่านแผนพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติฉบับที่ 8 และสนับสนุนการพัฒนาเศรษฐกิจในพื้นที่ชายแดนใต้
แนวคิดนี้นำไปสู่ความร่วมมือระหว่างประเทศเพื่อนบ้าน เพื่อพัฒนา “Growth Triangle” โดยเฉพาะในพื้นที่:
ภาคใต้ของไทย (เช่น สงขลา ปัตตานี ยะลา นราธิวาส)
ภาคเหนือของมาเลเซีย (เช่น เปอร์ลิส เคดาห์ กลันตัน)
ตอนเหนือของเกาะสุมาตรา อินโดนีเซีย (เช่น อาเจะห์)
ความร่วมมือสำคัญในยุคนั้น
โครงการร่วมทุนพลังงานระหว่างไทย–มาเลเซีย เช่น โครงการพัฒนาก๊าซธรรมชาติในอ่าวไทยตอนล่าง (Thai-Malaysia Joint Development Area – JDA)
การลงทุนในโครงสร้างพื้นฐาน เช่น ถนน สนามบิน ท่าเรือน้ำลึก ด่านศุลกากร
การส่งเสริมภาคเกษตร อุตสาหกรรมเบา และการท่องเที่ยวในพื้นที่ชายแดนร่วม
ผลกระทบเชิงนโยบาย
เป็นรากฐานของแนวคิด “พัฒนาภูมิภาคชายแดน” และต่อมาได้นำไปสู่โครงการต่าง ๆ เช่น
IMT–GT (Indonesia–Malaysia–Thailand Growth Triangle)
เขตเศรษฐกิจพิเศษชายแดน (SEZs) ในยุคต่อมา
สงครามยาเสพติดของคุณพ่อสุขวิช รังสิตพล
ด้วยการติด “อาวุธทางปัญญา” ให้ประชาชน
หลุดพ้นจาก “ความยากจน”
และทำสงครามกับ “ยาเสพติด” อย่างเป็นรูปธรรมและยั่งยืนด้วยสันติวิธี ด้วยการขยายบริการทางการศึกษา
คุณพ่อสุขวิช รังสิตพล ใช้แนวทาง ขยายโอกาสทางการศึกษาและการเรียนรู้ตลอดชีวิต เพื่อป้องกันและแก้ปัญหายาเสพติด โดยสร้างโครงสร้างพื้นฐานทางปัญญาทั่วประเทศ ทั้งในระดับก่อนวัยเรียนจนถึงอุดมศึกษา
สาระสำคัญ
สุขวิชไม่ใช้ความรุนแรงในการแก้ปัญหายาเสพติด แต่ใช้การสร้าง “ภูมิคุ้มกันทางปัญญา”
ทุกโครงการเชื่อมโยงกันเพื่อขยายโอกาสการเรียนรู้ตลอดชีวิต
เป้าหมายคือเยาวชนต้องไม่ตกเป็นเหยื่อของความยากจนและยาเสพติด
การศึกษาคือรากฐานของความมั่นคงทางสังคมและการพัฒนาอย่างยั่งยืน