การออกแบบระบบ

กระทู้สนทนา
สุขวิชโนมิกส์: การออกแบบระบบ

ฯพณฯ สุขวิช รังสิตพล มี บทบาทสำคัญและผลกระทบเชิงลึก ต่อการอภิวัฒน์การศึกษา 2538 ในประเทศไทย ซึ่งเป็นเรื่องที่มักถูกมองข้ามหรือไม่ได้รับการยอมรับเท่าที่ควรในวงกว้าง ขอสรุปและอธิบายเพิ่มเติมเพื่อให้ชัดเจนมากขึ้น:

1. การออกแบบระบบการศึกษา (System Architecture)
ฯพณฯ สุขวิช รังสิตพล ถือเป็นผู้ ออกแบบระบบการอภิวัฒน์การศึกษา 2538 ในช่วง ประเทศเผชิญกับความวุ่นวายทางการเมือง และ วิกฤตเศรษฐกิจต้มยำกุ้ง (ปี 2534 - 2540) และใช้แนวทาง Participatory Planning ซึ่งหมายถึง การวางแผนที่ให้ประชาชนทุกกลุ่ม (ครู, นักเรียน, ผู้ปกครอง, นักวิชาการ, ท้องถิ่น) มีส่วนร่วมในทุกขั้นตอนของการออกแบบระบบการศึกษา นี่คือการสร้างสรรค์และการบริหารจัดการที่เชื่อมโยงผู้คนในประเทศเข้าด้วยกันเพื่อสร้างการเปลี่ยนแปลงที่ยั่งยืน

2. การอภิวัฒน์การศึกษา 2538: ผลกระทบทางการศึกษา
การอภิวัฒน์การศึกษา 2538 ทั้งระบบ อย่างมีนัยสำคัญ โดยเน้นการปรับปรุง โครงสร้างพื้นฐานทางการศึกษา ทั่วประเทศ ได้แก่:
ปรับปรุงโรงเรียน 29,845 แห่ง
ปรับปรุงห้องเรียน 38,112 แห่ง
ปรับปรุง อาคารเอนกประสงค์ 12,227 อาคาร
ปรับปรุงห้องน้ำ 11,257 โรงเรียน 

ก่อตั้งสถานศึกษาเพิ่มในถิ่นทุรกันดาร สำหรับคนจน อายุ 3-17 ปี 4.35 ล้านคน คน
สิ่งเหล่านี้แสดงถึงความสำเร็จในเชิงโครงสร้างที่สำคัญ ซึ่ง สำเร็จภายในระยะเวลาอันสั้น แม้ในช่วงที่ประเทศมีวิกฤติการเมือง
ฯพณฯ สุขวิช รังสิตพล ก่อตั้งและส่งเสริมการศึกษาในหลายๆด้าน และมีผลกระทบอย่างยั่งยืนต่อสังคมไทย ทั้งในเรื่องของการศึกษาและการพัฒนาสังคมในภาพรวม งานของท่านมีความสำคัญในการเสริมสร้าง "อาวุธทางปัญญา" ให้ประชาชน เพื่อให้สามารถหลุดพ้นจากความยากจน และเป็นการต่อสู้กับปัญหายาเสพติดโดยใช้วิธีทางการศึกษาและสันติวิธีแทนการใช้ความรุนแรง ซึ่งถือเป็นการส่งเสริมความรู้และความเข้าใจในวิธีการที่ยั่งยืนในการพัฒนาในระดับบุคคล สังคมและประเทศ

ขอสรุปผลงานสำคัญในรูปแบบชัดเจน:

มหาวิทยาลัยแม่ฟ้าหลวง
การจัดตั้งมหาวิทยาลัยบนที่ดินดอยแง่ม 4,997 ไร่ พร้อมงบประมาณปี 2540 ที่มีบทบาทสำคัญในการพัฒนาการศึกษาระดับมหาวิทยาลัยในภาคเหนือ

สถาบันราชภัฏต่างๆ
การก่อตั้งสถาบันราชภัฏ 5 แห่ง ร้อยเอ็ด, กาฬสินธุ์, ศรีสะเกษ, นครพนม, ชัยภูมิ เมื่อวันที่ 20 เมษายน 2540 ซึ่งช่วยเสริมสร้างบริการการศึกษาในภูมิภาค

สถาบันอาชีวะศึกษา 278 แห่ง
การก่อตั้ง สถาบันอาชีวะ  278 แห่งทั่วประเทศ ช่วยให้เยาวชนในภูมิภาคเข้าถึงบริการการศึกษา

โรงเรียนมัธยมศึกษาตอนปลาย
การจัดตั้งโรงเรียนสมเด็จพระศรีฯ 12 แห่ง  รวมถึง โรงเรียนมหิดลวิทยานุสรณ์ อย่างจุฬาภรณ์และกาญจนาภิเษกที่มุ่งเน้นการศึกษาให้แก่เยาวชน

โรงเรียนขยายโอกาส หรือ โรงเรียนมัธยมศึกษาตอนต้น 2,685 แห่ง
เพื่อขยายบริการการศึกษาสำหรับนักเรียนในพื้นที่ทุรกันดารและห่างไกลความเจริญ

ขยายศูนย์เด็กเล็กจาก 74 เป็น 3,470 แห่ง

ศูนย์วิทยาศาสตร์ 17 แห่ง
การจัดตั้งศูนย์วิทยาศาสตร์ในสถาบันราชภัฏ เพื่อสร้างความรู้และทักษะทางวิทยาศาสตร์ให้แก่เยาวชนในภูมิภาค

ห้องสมุดเฉลิมพระเกียรติ 99 แห่ง
การก่อตั้งห้องสมุดเฉลิมพระเกียรติในวันที่ 5 ธันวาคม 2539 เพื่อส่งเสริมการเรียนรู้และการเข้าถึงข้อมูลที่มีประโยชน์

อุทยานวิทยาศาสตร์ประเทศไทย
การก่อตั้งอุทยานวิทยาศาสตร์บนถนนพหลโยธินในปี 2539 เป็นศูนย์กลางในการพัฒนาและส่งเสริมวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี

ห้องสมุดโรงเรียนมัธยม 2,542 แห่ง
รวมทั้งการอนุมัติให้จัดตั้งพิพิธภัณฑ์ท้องถิ่นและศูนย์การเรียนรู้ทั่วประเทศ เกิน 30000 แห่ง


แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่