คู่สามีภรรยาในมณฑลเสฉวน ประเทศจีน เกิดอาการท้องเสียรุนแรงและมีไข้สูง หลังรับประทาน ไข่เยี่ยวม้าแบบดิบ สุดท้ายพบว่าติดเชื้อ ซัลโมเนลลา (Salmonella) ต้องนอนโรงพยาบาลถึง 6 วัน
แพทย์เตือน: ห้ามกินดิบ โดยเฉพาะเมนูยำ
ตามรายงานของ Urban Channel ชายแซ่เถียนและภรรยา เริ่มมีอาการ อาเจียน ท้องเสีย และไข้สูง ในเช้าวันถัดไป หลังจากรับประทานพิฉ่ายลวกเย็น เมื่อไปโรงพยาบาล แพทย์ยืนยันว่าทั้งคู่ติดเชื้อ ซัลโมเนลลา ซึ่งเป็นแบคทีเรียที่มักพบในอาหารดิบหรืออาหารที่ไม่ผ่านการปรุงสุกดีพอ
แพทย์แนะนำว่า "ห้ามกินไข่เยี่ยวม้าดิบโดยเด็ดขาด โดยเฉพาะเมนูยำ" เพราะอาจเป็นแหล่งสะสมของแบคทีเรียที่เป็นอันตราย
ชาวเน็ตจีนเสียงแตก กินดิบมาตลอด ไม่เห็นเป็นอะไรเลย?
หลังข่าวนี้เผยแพร่ออกไป ชาวเน็ตจำนวนมากเข้ามาแสดงความคิดเห็น บางคนสงสัยว่า "ปกติแล้วไม่ควรมีปัญหานี่นา?"
หลายคนเล่าว่าในท้องถิ่นของตน "กินไข่เยี่ยวม้ายำมาตั้งแต่เด็ก ไม่เคยต้มก่อนเลย" ส่วนใหญ่นิยมปอกเปลือก ล้างน้ำ แล้วคลุกแตงกวา กระเทียม น้ำมัน เกลือ และน้ำส้มสายชู นอกจากนี้ยังมีเมนูยอดนิยมอย่าง "ไข่เยี่ยวม้ายำเต้าหู้" ที่มักรับประทานกันเป็นปกติ
ไข่เยี่ยวม้า เป็นอาหารแปรรูปจาก ไข่ไก่ ไข่เป็ด หรือไข่ห่าน ซึ่งผ่านกระบวนการหมักดอง เล่ากันว่าไข่เยี่ยวม้า กำเนิดมากว่าห้าศตวรรษแลัว ตามตำนานที่ไม่สามารถตรวจสอบได้ บอกว่าไข่เยี่ยวม้าค้นพบเมื่อประมาณ 600 ปีก่อนในมณฑลหูหนานในสมัยราชวงศ์หมิง
สำหรับชาวต่างชาติ มักเข้าใจผิดว่า เป็นไข่ที่ถูกทิ้งไว้เป็นเวลานานจนเปลี่ยนสีเป็นดำ จึงมีชื่อเรียกอีกอย่างว่า "ไข่พันปี" (千年蛋 หรือ Century Egg) ทั้งที่จริงแล้วสามารถเก็บได้นาน 3-5 เดือน เท่านั้น หากเก็บรักษาอย่างเหมาะสม
ในปี 2011 สื่อดัง CNN ได้จัดอันดับไข่เยี่ยวม้า เป็นหนึ่งใน "อาหารที่น่าขยะแขยงที่สุดในโลก" ส่งผลให้เกิดกระแสไม่พอใจในหมู่ชาวจีนอย่างรุนแรง ถึงขั้นมีการข่มขู่ผู้เขียนบทความ สุดท้าย CNN ต้องออกแถลงการณ์ ขอโทษเป็นภาษาจีนและอังกฤษ โดยระบุว่า "ไม่มีเจตนาที่จะล่วงเกินหรือทำให้ใครไม่พอใจ" พร้อมแสดงความเสียใจอย่างสุดซึ้ง
ที่มา:
https://www.sanook.com/news/9773762/
ผัวเมียหวิดดับคู่เพราะ "เมนูไข่ในตำนาน" หมอเตือนห้ามกินดิบ ชาวเน็ตร้องอ้าว! กินมาทั้งชีวิต
คู่สามีภรรยาในมณฑลเสฉวน ประเทศจีน เกิดอาการท้องเสียรุนแรงและมีไข้สูง หลังรับประทาน ไข่เยี่ยวม้าแบบดิบ สุดท้ายพบว่าติดเชื้อ ซัลโมเนลลา (Salmonella) ต้องนอนโรงพยาบาลถึง 6 วัน
แพทย์เตือน: ห้ามกินดิบ โดยเฉพาะเมนูยำ
ตามรายงานของ Urban Channel ชายแซ่เถียนและภรรยา เริ่มมีอาการ อาเจียน ท้องเสีย และไข้สูง ในเช้าวันถัดไป หลังจากรับประทานพิฉ่ายลวกเย็น เมื่อไปโรงพยาบาล แพทย์ยืนยันว่าทั้งคู่ติดเชื้อ ซัลโมเนลลา ซึ่งเป็นแบคทีเรียที่มักพบในอาหารดิบหรืออาหารที่ไม่ผ่านการปรุงสุกดีพอ
แพทย์แนะนำว่า "ห้ามกินไข่เยี่ยวม้าดิบโดยเด็ดขาด โดยเฉพาะเมนูยำ" เพราะอาจเป็นแหล่งสะสมของแบคทีเรียที่เป็นอันตราย
ชาวเน็ตจีนเสียงแตก กินดิบมาตลอด ไม่เห็นเป็นอะไรเลย?
หลังข่าวนี้เผยแพร่ออกไป ชาวเน็ตจำนวนมากเข้ามาแสดงความคิดเห็น บางคนสงสัยว่า "ปกติแล้วไม่ควรมีปัญหานี่นา?"
หลายคนเล่าว่าในท้องถิ่นของตน "กินไข่เยี่ยวม้ายำมาตั้งแต่เด็ก ไม่เคยต้มก่อนเลย" ส่วนใหญ่นิยมปอกเปลือก ล้างน้ำ แล้วคลุกแตงกวา กระเทียม น้ำมัน เกลือ และน้ำส้มสายชู นอกจากนี้ยังมีเมนูยอดนิยมอย่าง "ไข่เยี่ยวม้ายำเต้าหู้" ที่มักรับประทานกันเป็นปกติ
ไข่เยี่ยวม้า เป็นอาหารแปรรูปจาก ไข่ไก่ ไข่เป็ด หรือไข่ห่าน ซึ่งผ่านกระบวนการหมักดอง เล่ากันว่าไข่เยี่ยวม้า กำเนิดมากว่าห้าศตวรรษแลัว ตามตำนานที่ไม่สามารถตรวจสอบได้ บอกว่าไข่เยี่ยวม้าค้นพบเมื่อประมาณ 600 ปีก่อนในมณฑลหูหนานในสมัยราชวงศ์หมิง
สำหรับชาวต่างชาติ มักเข้าใจผิดว่า เป็นไข่ที่ถูกทิ้งไว้เป็นเวลานานจนเปลี่ยนสีเป็นดำ จึงมีชื่อเรียกอีกอย่างว่า "ไข่พันปี" (千年蛋 หรือ Century Egg) ทั้งที่จริงแล้วสามารถเก็บได้นาน 3-5 เดือน เท่านั้น หากเก็บรักษาอย่างเหมาะสม
ในปี 2011 สื่อดัง CNN ได้จัดอันดับไข่เยี่ยวม้า เป็นหนึ่งใน "อาหารที่น่าขยะแขยงที่สุดในโลก" ส่งผลให้เกิดกระแสไม่พอใจในหมู่ชาวจีนอย่างรุนแรง ถึงขั้นมีการข่มขู่ผู้เขียนบทความ สุดท้าย CNN ต้องออกแถลงการณ์ ขอโทษเป็นภาษาจีนและอังกฤษ โดยระบุว่า "ไม่มีเจตนาที่จะล่วงเกินหรือทำให้ใครไม่พอใจ" พร้อมแสดงความเสียใจอย่างสุดซึ้ง
ที่มา:https://www.sanook.com/news/9773762/