วันสงกรานต์ใกล้มาถึง หลายคนคงเตรียมตัวเดินทางกลับภูมิลำเนา

     สงกรานต์ไม่ใช่แค่เทศกาลเล่นน้ำหรือการรดน้ำดำหัวผู้ใหญ่เท่านั้น แต่เป็นช่วงเวลาที่ครอบครัวจะได้กลับมาเจอกันพร้อมหน้าพร้อมตา ทำอาหารกินร่วมกันแบบอบอุ่น

     อาหารที่ฉันได้ลิ้มรสเสมอๆ ในวันสงกรานต์ มักจะเป็น

ขนมจีน น้ำยา  มักกินกับน้ำยาป่าหรือน้ำยากะทิ, แกงเลียง หรือแกงส้ม เป็นแกงที่มีฤทธิ์เย็นช่วยคลายร้อน , หมูหวานและไข่พะโล้ เป็นอาหารที่ทำไว้ล่วงหน้าและสามารถแบ่งกันกินในครอบครัวได้หลายวัน ยิ่งอุ่นยิ่งอร่อย
,ผลไม้เย็นๆ อย่างแตงโมช่วยคลายร้อนหรือข้าวเหนียวมะม่วงเพราะเป็นฤดูกาลมะม่วง , ขนมไทยต่างๆ ทองหยิบ ทองหยอด ฝอยทอง เม็ดขนุน ขนมชั้น นำไปไหว้ผู้ใหญ่หรือแจกในหมู่ญาติด้วย
     ที่ลืมไม่ได้คือปลาทูทอดสูตรเด็ดของคุณยาย ที่ทอดแล้วมีการเลาะก้างปลาออกเรียบร้อย ทั้งที่ตัวปลายังอยู่คงสภาพเดิม เป็นที่น่าอัศจรรย์ใจสำหรับเด็กอย่างฉันยิ่งนัก

     อาหารพวกนี้ ไม่ใช่อาหารที่ฉันกินในชีวิตประจำวันที่อาม่าเป็นแม่ครัวใหญ่ จึงเป็นของแปลกสำหรับฉัน เมื่อไปเยี่ยมบ้านคุณยายในเทศกาลสงกรานต์ แม่มักพาลูก ๆ ไปนอนค้างหลาย ๆ วัน

     ตั้งแต่เช้า เสียงสากกระทบครกก็ดังขึ้นกลิ่นหอมของสมุนไพรไทย ทั้งข่า ตะไคร้ ใบมะกรูด พริกแห้ง กลิ่นพริกแกงที่โขลกสดๆ ฟุ้งไปทั้งบ้าน ทุกอย่างละเมียดละไมมีคุณยายคอยยืนกำกับ บอกสูตรที่ไม่เคยเขียนไว้บนกระดาษ แต่บันทึกไว้ในใจส่งต่อจากรุ่นสู่รุ่น

     บทสนทนาเก่าๆ ที่คุณยายชอบเล่าให้ลูกหลานฟังขณะล้างผัก หั่นหมู “สงกรานต์สมัยก่อน” ฟังกี่ครั้งไม่เคยเบื่อ บรรดาน้า ๆ ป้า ๆ รวมถึงแม่ของฉันด้วย เดินกันขวักไขว่ในครัวแสนสะอาดของคุณยาย คุณยายขึ้นชื่อนักเรื่องความสะอาด

     ส่วนคุณตา พ่อ และ ลุง ก็นั่งล้อมวงคุยกันเรื่องสัพเพเหระ หัวเราะกันเสียงดังไม่แพ้ในครัว

     เด็ก ๆ อย่างพวกฉันมักถูกไล่ให้ไปเล่นกันไกล ๆ คงเพราะเกะกะในครัวก็ไม่มีประโยชน์ แต่พวกเราก็วิ่งเวียนเข้าเวียนออกในครัว คอยดูว่าเมื่อไรจะถึงเวลาอาหาร ก็สารพัดกลิ่นหอมของอาหารช่างยั่วน้ำลายเสียเหลือเกิน…