แสดงอายตนะโดยพระไตรลักษณ์
บัดนี้ พระผู้มีพระภาค ทรงประสงค์จะแสดงอาการแห่งอายตนะเหล่านั้นอันพระโยคาวจรพึงเจริญวิปัสสนา จึงทรงเริ่มพระบาลีว่า จักขุไม่เที่ยง ดังนี้เป็นต้น.
ในพระบาลีนั้น เบื้องต้น จักขุพึงทราบว่าชื่อว่า ไม่เที่ยง ด้วยอรรถว่ามีแล้วหามีไม่ ชื่อไม่เที่ยง โดยเหตุแม้อีก 4 อย่าง คือ โดยมีความเกิดและความเสื่อมไปเป็นที่สุด1 โดยความแปรปรวน1 โดยเป็นของชั่วคราว1 โดยค้านกับความเที่ยง1
จักขุนั้นแหละ ชื่อว่า เป็นทุกข์ ด้วยอรรถว่าบีบคั้น อีกอย่างหนึ่ง เพราะเหตุว่าจักขุนี้เกิดขึ้นแล้ว ย่อมถึงความตั้งอยู่ เมื่อตั้งอยู่ย่อมลำบากเพราะความแก่ ถึงความแก่แล้วย่อมแตกแน่นอน ฉะนั้น จึงเป็นทุกข์โดยเหตุ 4 อย่าง คือ โดยความบีบคั้นอยู่เนืองๆ1 โดยความทนได้ยาก1 โดยเป็นที่ตั้งแห่งความทุกข์1 โดยค้านกับความสุข1
(คัดลอกจาก สัมโมหวิโนทนี อรรถกถาพระวิภังคปกรณ์ แปล หน้า63)<!--/data/user/0/com.samsung.android.app.notes/files/clipdata/clipdata_bodytext_250224_232518_518.sdocx-->
วิปัส²
บัดนี้ พระผู้มีพระภาค ทรงประสงค์จะแสดงอาการแห่งอายตนะเหล่านั้นอันพระโยคาวจรพึงเจริญวิปัสสนา จึงทรงเริ่มพระบาลีว่า จักขุไม่เที่ยง ดังนี้เป็นต้น.
ในพระบาลีนั้น เบื้องต้น จักขุพึงทราบว่าชื่อว่า ไม่เที่ยง ด้วยอรรถว่ามีแล้วหามีไม่ ชื่อไม่เที่ยง โดยเหตุแม้อีก 4 อย่าง คือ โดยมีความเกิดและความเสื่อมไปเป็นที่สุด1 โดยความแปรปรวน1 โดยเป็นของชั่วคราว1 โดยค้านกับความเที่ยง1
จักขุนั้นแหละ ชื่อว่า เป็นทุกข์ ด้วยอรรถว่าบีบคั้น อีกอย่างหนึ่ง เพราะเหตุว่าจักขุนี้เกิดขึ้นแล้ว ย่อมถึงความตั้งอยู่ เมื่อตั้งอยู่ย่อมลำบากเพราะความแก่ ถึงความแก่แล้วย่อมแตกแน่นอน ฉะนั้น จึงเป็นทุกข์โดยเหตุ 4 อย่าง คือ โดยความบีบคั้นอยู่เนืองๆ1 โดยความทนได้ยาก1 โดยเป็นที่ตั้งแห่งความทุกข์1 โดยค้านกับความสุข1
(คัดลอกจาก สัมโมหวิโนทนี อรรถกถาพระวิภังคปกรณ์ แปล หน้า63)<!--/data/user/0/com.samsung.android.app.notes/files/clipdata/clipdata_bodytext_250224_232518_518.sdocx-->