พระพุทธเจ้าแสดงสิ่งซึ่งมองไม่เห็น แต่มีอยู่ มาปรุงแต่งขันธ์5 เหล่านี้คือ
มาดูทีละตัว
จิตและเจตสิก เกิดขึ้นมาได้ เพราะ อารมณ์ (อารัมณปัจจัย)
อารมณ์ คงจะไม่พ้น อารมณ์6
มี...
รูปารมณ์(สี หรือสิ่งที่ตามองเห็นได้ทั้งหมด)
เสียง
กลิ่น
รส(สัมผัสด้วยลิ้น)
โผฏฐัพพารมณ์(เย็น ร้อน อ่อน แข็ง ตึง ไหว)
และสุดท้ายคือ ธัมมารมณ์
สมาชิกหมายเลข 809877

26 ธันวาคม 2558 เวลา 06:45 น.
---
มาดูเรื่องวัตถุ
ถ้าเป็น ขันธ์5 ใน กามภูมิ อันมี โลกมนุษย์ และโลกเทวดา โลกสัตว์นรก
น่าจะไม่พ้นวัตถุ 6
อันมี.. ตา หู จมูก ลิ้น กาย และ หทยวัตถุ
เหล่านี้เป็นปัจจัยปรุงแต่ง จิตและเจตสิก ให้เกิดมีขึ้นและเป็นไป
สมาชิกหมายเลข 809877

26 ธันวาคม 2558 เวลา 06:57 น.
ปัจจัย ถูกใจ
...
แก้ไขข้อความเมื่อ 26 ธันวาคม 2558 เวลา 17:20 น.
สมาชิกหมายเลข 809877

26 ธันวาคม 2558 เวลา 07:07 น.
-----
เรื่องมนสิการ คงจะไม่ได้แปลกันง่ายๆ
คงต้องลงไปดูที่บาลี จึงจะพบความหมายที่แท้ของเดิม
นี่อีกที่หนึ่งที่เจอ เรื่องมนสิการ ดูข้อ5 นะครับ คนแปลพระไตรปิฏกเขาแปลมา คงแปลได้ยากนั่นแหละ(คือหาคำที่เหมาะสมยาก)
//////////////////////////////////////////////
[๑๑๐] พระโยคาวจรเมื่อพิจารณาเห็นความเกิดแห่งสัญญาขันธ์ แห่ง
สังขารขันธ์ แห่งวิญญาณขันธ์ ย่อมพิจารณาเห็นลักษณะ ๕ ประการ
เป็นไฉน ฯ
พระโยคาวจรย่อมพิจารณาเห็นความเกิดแห่งวิญญาณขันธ์ โดยความ
เกิดขึ้นแห่งปัจจัยว่า
(1)เพราะอวิชชาเกิดวิญญาณจึงเกิด
(2)เพราะตัณหาเกิดวิญญาณจึงเกิด
(3)เพราะกรรมเกิดวิญญาณจึงเกิด
(4)เพราะนามรูปเกิดวิญญาณจึงเกิด
(5)แม้เมื่อ
พิจารณาเห็นลักษณะแห่งความเกิด ก็ย่อมพิจารณาเห็นความเกิดขึ้นแห่งวิญญาณขันธ์
พระโยคาวจรเมื่อพิจารณาเห็นความเกิดขึ้นแห่งวิญญาณขันธ์ ย่อม
พิจารณาเห็นลักษณะ ๕ ประการนี้ ฯ
http://www.84000.org/tipitaka/pitaka2/v.php?B=31&A=1267&Z=1359สมาชิกหมายเลข 809877

26 ธันวาคม 2558 เวลา 07:13 น.
------
คำว่า “มนสิการ” มี ๓ อย่าง ได้แก่
วิถีปฏิปาทกมนสิการ ๑
แล้วก็ชวนปฏิปาทกมนสิการ
แล้วก็อารัมมณปฏิปาทกมนสิการ
แค่มนสิการคำเดียว นี่ ก็หาคนรู้จริงในโลกนี้ได้ ไม่กี่คนหรอก
แก้ไขข้อความเมื่อ 26 ธันวาคม 2558 เวลา 07:17 น.
สมาชิกหมายเลข 809877

26 ธันวาคม 2558 เวลา 07:17 น.
----
อนัตตา จากอรรถกถา
แปลง่ายๆ คือ
///////////////////////////////////////////////////////////////////
บทว่า อนตฺตา ความว่า เพราะอรรถว่า ไม่เป็นไปในอำนาจ.
ชื่อว่า อนตฺตา เพราะอรรถว่า ไม่เป็นไปตามอำนาจ.
//////////////////////////////////////////////////////////////////
ลองถามตัวเองว่า คุณมีอำนาจ ไปสั่งนิพพานได้หรือ
หรือสั่งว่า นิพพานจงเกิดขึ้นกับจิตของเรา กระนั้นหรือ
สมาชิกหมายเลข 809877

26 ธันวาคม 2558 เวลา 11:09 น.
สมาชิกหมายเลข 2854419 ถูกใจ
----
ท่านคงต้องไปแปลบาลีเอง ของอภิธัมมัตถสังคหะ แล้วล่ะครับ
ถ้าข้องใจ
ในความเห็นของผม
พระไตรปิฏก สมัยนั้น เป็นคัมภีร์ที่สมบูรณ์ที่สุด เพราะพระภิกษุส่วนใหญ่สมัยนั้น มีความรู้พื้นฐานสูง
ทั้งทางภาษาบาลีและภาษาธัมมะ
สมัย ต่อมา
ตำราเรียนรู้พระไตรปิฏก สมัยนั้น คงไม่มีอะไรเกินอภิธัมมัตถสังคหะ แล้วล่ะครับ
แต่ยุคสมัยเปลี่ยนไป
ภาษามีการเปลี่ยนแปลง
ยุคหลัง คือสมัยนี้
ยังต้องมีตำราสรุป อภิธัมมัตถสังคหะ อีกที
เพราะมีศัพท์แสง ที่ยากสำหรับคนปัจจุบัน
ที่น่าเสียดายคือ
มีบางคำเริ่มอันตรธาน ไปเพราะอ่านไม่รู้ความหมาย สำหรับสมัยนี้
ต่อไปก็คงจะอันตรธานไปเรื่อยๆ ล่ะครับ สำหรับพระไตรปิฏก ของเรา
สมาชิกหมายเลข 809877

26 ธันวาคม 2558 เวลา 11:05 น.
-----
แก้ไขข้อความเมื่อ 26 ธันวาคม 2558 เวลา 11:17 น.
สมาชิกหมายเลข 809877

26 ธันวาคม 2558 เวลา 11:17 น.
---
ควรเข้าใจว่า
ธรรมะของพระพุทธเจ้านั้น ทรงแสดง ทั้งแบบง่าย และแบบยาก
ถ้าสอนยาก ตะพึดตะพือ ก็คงไม่เหมาะสำหรับทุกคน
ส่วนที่ยาก ที่ลึกซึ้ง ท่านผู้รจนาพระไตรปิฏก ท่านแยกแล้วพอสมควร ให้ไปอยู่ในส่วนของพระอภิธรรมปิฏก
คนที่เคยอ่านแต่ของง่ายๆ มา จึงไม่สมควรปฏิเสธว่า ยังต้องมีสิ่งที่ตนไม่รู้อีกเยอะ
ใครกล่าวอะไรมาแปลกๆ ถ้าอยากรู้ว่า คิดขึ้นเองหรือเปล่า ก็สามารถสืบค้นได้จากพระไตรปิฏก ที่ไม่ว่าใครก็เข้าถึงได้ เพียงแค่คลิก
สมาชิกหมายเลข 809877

26 ธันวาคม 2558 เวลา 11:22 น.
----
ปัจจัยที่ปรุงแต่งขันธ์5 มีอะไรบ้าง
จิตและเจตสิก เกิดขึ้นมาได้ เพราะ อารมณ์ (อารัมณปัจจัย)
อารมณ์ คงจะไม่พ้น อารมณ์6
มี...
รูปารมณ์(สี หรือสิ่งที่ตามองเห็นได้ทั้งหมด)
เสียง
กลิ่น
รส(สัมผัสด้วยลิ้น)
โผฏฐัพพารมณ์(เย็น ร้อน อ่อน แข็ง ตึง ไหว)
และสุดท้ายคือ ธัมมารมณ์
26 ธันวาคม 2558 เวลา 06:45 น.
ถ้าเป็น ขันธ์5 ใน กามภูมิ อันมี โลกมนุษย์ และโลกเทวดา โลกสัตว์นรก
น่าจะไม่พ้นวัตถุ 6
อันมี.. ตา หู จมูก ลิ้น กาย และ หทยวัตถุ
เหล่านี้เป็นปัจจัยปรุงแต่ง จิตและเจตสิก ให้เกิดมีขึ้นและเป็นไป
26 ธันวาคม 2558 เวลา 06:57 น.
............................ ท่านไม่ได้อธิบายไว้เป็นการเฉพาะ
นี่คือที่พบในพระอภิธรรมปิฏก
//////////
คำว่า วิญญาณ ๕ ไม่เกิด เพราะไม่พิจารณา นั้น คือ เมื่อ
พิจารณาอารมณ์ วิญญาณ ๕ จึงเกิดขึ้น
คำว่า วิญญาณ ๕ ไม่เกิด เพราะไม่ทำไว้ในใจ นั้น คือ เมื่อ
ทำอารมณ์ไว้ในใจ วิญญาณ ๕ จึงเกิดขึ้น
http://84000.org/tipitaka/read/byitem.php?book=35&item=802&items=1&preline=0&mode=bracket
26 ธันวาคม 2558 เวลา 07:07 น.
คงต้องลงไปดูที่บาลี จึงจะพบความหมายที่แท้ของเดิม
นี่อีกที่หนึ่งที่เจอ เรื่องมนสิการ ดูข้อ5 นะครับ คนแปลพระไตรปิฏกเขาแปลมา คงแปลได้ยากนั่นแหละ(คือหาคำที่เหมาะสมยาก)
//////////////////////////////////////////////
[๑๑๐] พระโยคาวจรเมื่อพิจารณาเห็นความเกิดแห่งสัญญาขันธ์ แห่ง
สังขารขันธ์ แห่งวิญญาณขันธ์ ย่อมพิจารณาเห็นลักษณะ ๕ ประการ
เป็นไฉน ฯ
พระโยคาวจรย่อมพิจารณาเห็นความเกิดแห่งวิญญาณขันธ์ โดยความ
เกิดขึ้นแห่งปัจจัยว่า
(1)เพราะอวิชชาเกิดวิญญาณจึงเกิด
(2)เพราะตัณหาเกิดวิญญาณจึงเกิด
(3)เพราะกรรมเกิดวิญญาณจึงเกิด
(4)เพราะนามรูปเกิดวิญญาณจึงเกิด
(5)แม้เมื่อพิจารณาเห็นลักษณะแห่งความเกิด ก็ย่อมพิจารณาเห็นความเกิดขึ้นแห่งวิญญาณขันธ์
พระโยคาวจรเมื่อพิจารณาเห็นความเกิดขึ้นแห่งวิญญาณขันธ์ ย่อม
พิจารณาเห็นลักษณะ ๕ ประการนี้ ฯ
http://www.84000.org/tipitaka/pitaka2/v.php?B=31&A=1267&Z=1359
26 ธันวาคม 2558 เวลา 07:13 น.
วิถีปฏิปาทกมนสิการ ๑
แล้วก็ชวนปฏิปาทกมนสิการ
แล้วก็อารัมมณปฏิปาทกมนสิการ
แค่มนสิการคำเดียว นี่ ก็หาคนรู้จริงในโลกนี้ได้ ไม่กี่คนหรอก
26 ธันวาคม 2558 เวลา 07:17 น.
แปลง่ายๆ คือ
///////////////////////////////////////////////////////////////////
บทว่า อนตฺตา ความว่า เพราะอรรถว่า ไม่เป็นไปในอำนาจ.
ชื่อว่า อนตฺตา เพราะอรรถว่า ไม่เป็นไปตามอำนาจ.
//////////////////////////////////////////////////////////////////
ลองถามตัวเองว่า คุณมีอำนาจ ไปสั่งนิพพานได้หรือ
หรือสั่งว่า นิพพานจงเกิดขึ้นกับจิตของเรา กระนั้นหรือ
26 ธันวาคม 2558 เวลา 11:09 น.
ถ้าข้องใจ
ในความเห็นของผม
พระไตรปิฏก สมัยนั้น เป็นคัมภีร์ที่สมบูรณ์ที่สุด เพราะพระภิกษุส่วนใหญ่สมัยนั้น มีความรู้พื้นฐานสูง
ทั้งทางภาษาบาลีและภาษาธัมมะ
สมัย ต่อมา
ตำราเรียนรู้พระไตรปิฏก สมัยนั้น คงไม่มีอะไรเกินอภิธัมมัตถสังคหะ แล้วล่ะครับ
แต่ยุคสมัยเปลี่ยนไป
ภาษามีการเปลี่ยนแปลง
ยุคหลัง คือสมัยนี้
ยังต้องมีตำราสรุป อภิธัมมัตถสังคหะ อีกที
เพราะมีศัพท์แสง ที่ยากสำหรับคนปัจจุบัน
ที่น่าเสียดายคือ
มีบางคำเริ่มอันตรธาน ไปเพราะอ่านไม่รู้ความหมาย สำหรับสมัยนี้
ต่อไปก็คงจะอันตรธานไปเรื่อยๆ ล่ะครับ สำหรับพระไตรปิฏก ของเรา
26 ธันวาคม 2558 เวลา 11:05 น.
ส่วนใหญ่ จะทราบกันแค่6 คือ วิญญาณ6
พอเจอ จิต7 เข้าไปก็งง ไม่เคยเจอ
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้
26 ธันวาคม 2558 เวลา 11:17 น.
ธรรมะของพระพุทธเจ้านั้น ทรงแสดง ทั้งแบบง่าย และแบบยาก
ถ้าสอนยาก ตะพึดตะพือ ก็คงไม่เหมาะสำหรับทุกคน
ส่วนที่ยาก ที่ลึกซึ้ง ท่านผู้รจนาพระไตรปิฏก ท่านแยกแล้วพอสมควร ให้ไปอยู่ในส่วนของพระอภิธรรมปิฏก
คนที่เคยอ่านแต่ของง่ายๆ มา จึงไม่สมควรปฏิเสธว่า ยังต้องมีสิ่งที่ตนไม่รู้อีกเยอะ
ใครกล่าวอะไรมาแปลกๆ ถ้าอยากรู้ว่า คิดขึ้นเองหรือเปล่า ก็สามารถสืบค้นได้จากพระไตรปิฏก ที่ไม่ว่าใครก็เข้าถึงได้ เพียงแค่คลิก
26 ธันวาคม 2558 เวลา 11:22 น.