ผู้กล่าวธรรม ผู้แสดงธรรม มีมาก
บางท่านมีผู้ติดตามฟังธรรมที่ท่านกล่าวมาก
หากธรรมที่ท่านแสดง เป็นสิ่งที่ถูกต้อง ไม่บิดเบือน
ไม่เจือปนความคิดเห็น หรือความเชื่อของตนเองเข้าไปด้วย
ผู้ฟังย่อมได้รับประโยชน์
และเป็นการช่วยจรรโลงพุทธศาสนาให้ยั่งยืนสืบต่อไป
ในทางตรงกันข้าม..
หากธรรมที่แสดงนั้น ยังบกพร่อง คลาดเคลื่อนอยู่เรื่อยๆ
ย่อมยังผู้ฟัง ให้เข้าใจผิด และนำไปปฏิบัติผิดพลาดตามไปด้วย
ยิ่งมีผู้ฟังมาก ความเสียหายก็ยิ่งมากเป็นทวีคูณ
บางท่านแม้จะยอมรับฟังคำติเตียนของ ผู้กล่าวค้านตน
แต่สิ่งที่ได้เคยแสดง กล่าว ชี้นำไปแล้วนั้น
ก็ไม่สามารถกลับไปแก้ไขได้
คนที่เคยฟังคำกล่าวธรรมผิดๆไปแล้ว
ก็ไม่ได้ตามไปรู้ว่าตรงไหนที่กล่าวถูก หรือกล่าวผิด
ความเสียหายก็ยังคงอยู่อย่างนั้นนั่นแหละ
อีกอย่างหนึ่ง..หากยังคงสอนธรรมอยู่ต่อไป
ก็ยากจะรู้ว่าคำกล่าวใดถูก หรือคลาดเคลื่อนอีก
เพราะภูมิธรรมที่มีอยู่ มีทั้งที่ถูก และคลาดเคลื่อน ผสมปนเปกันอยู่
เพราะฉะนั้น..
การหยุดแสดงธรรมเสียก่อน
แล้วใช้เวลาไปพัฒนาภูมิธรรมของตนให้ยิ่งขึ้น
ย่อมสมควรกว่า การดันทุรังแสดงธรรมต่อไป..
เพราะจะกลายเป็นคนหื่นธรรมไปเสีย..
แค่สงสัย...ถ้าภูมิธรรมยังพร่องอยู่ การสอนผู้อื่นจะสมควรหรือไม่ ?
บางท่านมีผู้ติดตามฟังธรรมที่ท่านกล่าวมาก
หากธรรมที่ท่านแสดง เป็นสิ่งที่ถูกต้อง ไม่บิดเบือน
ไม่เจือปนความคิดเห็น หรือความเชื่อของตนเองเข้าไปด้วย
ผู้ฟังย่อมได้รับประโยชน์
และเป็นการช่วยจรรโลงพุทธศาสนาให้ยั่งยืนสืบต่อไป
ในทางตรงกันข้าม..
หากธรรมที่แสดงนั้น ยังบกพร่อง คลาดเคลื่อนอยู่เรื่อยๆ
ย่อมยังผู้ฟัง ให้เข้าใจผิด และนำไปปฏิบัติผิดพลาดตามไปด้วย
ยิ่งมีผู้ฟังมาก ความเสียหายก็ยิ่งมากเป็นทวีคูณ
บางท่านแม้จะยอมรับฟังคำติเตียนของ ผู้กล่าวค้านตน
แต่สิ่งที่ได้เคยแสดง กล่าว ชี้นำไปแล้วนั้น
ก็ไม่สามารถกลับไปแก้ไขได้
คนที่เคยฟังคำกล่าวธรรมผิดๆไปแล้ว
ก็ไม่ได้ตามไปรู้ว่าตรงไหนที่กล่าวถูก หรือกล่าวผิด
ความเสียหายก็ยังคงอยู่อย่างนั้นนั่นแหละ
อีกอย่างหนึ่ง..หากยังคงสอนธรรมอยู่ต่อไป
ก็ยากจะรู้ว่าคำกล่าวใดถูก หรือคลาดเคลื่อนอีก
เพราะภูมิธรรมที่มีอยู่ มีทั้งที่ถูก และคลาดเคลื่อน ผสมปนเปกันอยู่
เพราะฉะนั้น..
การหยุดแสดงธรรมเสียก่อน
แล้วใช้เวลาไปพัฒนาภูมิธรรมของตนให้ยิ่งขึ้น
ย่อมสมควรกว่า การดันทุรังแสดงธรรมต่อไป..
เพราะจะกลายเป็นคนหื่นธรรมไปเสีย..