หลวงพ่อ​ชาบอกว่า​ มีเรา​ก็​มีของเรา​

กระทู้คำถาม
" เมื่อมีเรา  ก็มี...ของเรา มาหมายมั่น
เหมือนกันกับฝาผนัง  ถ้าไม่มีหัวตะปูแล้ว
ห้อยเสื้อ ไม่ได้  
ห้อยกางเกง ไม่ได้  ไม่มี...ที่เกาะ ฉันใด
ถ้าภาวนา ถึงที่แล้ว...
มันก็ไม่ใช่...เรา
ไม่ใช่...ของเรา เป็นต้น
พระอรหันต์  ท่านจึงหลุดพ้น
จาก...เรา  หลุดพ้นจาก...เขา
อาสวะ(กิเลส)ทั้งหลาย  ไม่มี...ที่เกาะ
อาสวะ(กิเลส)ทั้งหลาย  ไม่มี...ที่แอบอิง
ไม่มี...ที่พึ่ง  ถ้ามันหมด ตัวเรา
การกระทำ ทุกวัน  
การประพฤติ ทุกวัน
การพิจารณา ทุกวัน 
จึงเป็นปัญหา ที่จะแก้ปัญหา 
ให้รู้จักตัวว่า...เรา
หรือไม่ใช่...ของเราออก
ถ้ายังมีตัวเรา อยู่...
อย่างอุปาทาน ก็มีของเราตลอดไป
เมื่อมี...ของเรา  ก็มี...ของหาย  มี...ของได้
เมื่อมี...ได้   เมื่อมี...เสีย
ก็มี...สุข   ก็มี...ทุกข์
  
เมื่อมี...สุข   เมื่อมี...ทุกข์
ก็มีเหตุ มีปัจจัย  หมุนเวียนเปลี่ยนไป
ไม่มี...ที่สิ้นสุด ที่จบลงได้
ฉะนั้น พระพุทธเจ้าของเรา
ท่านจึงเน้น...เน้นข้อประพฤติ เน้นข้อปฏิบัติ
ให้เห็นตามเป็นจริง
เมื่อเห็นตามเป็นจริงแล้ว...ก็สบาย
แต่เราไม่ค่อยเห็นตามเป็นจริง ได้ง่าย
สมัยก่อนศีล  สมาธิ  ปัญญา ไม่ค่อยมี
มีแต่ว่า...บรรลุธรรมะ
ไปฟังธรรม ก็ภาวนาไปด้วย
เมื่อรู้จักธรรม  ความละอาย ก็เกิดขึ้นมา
ไม่กล้าทำในสิ่งที่ผิด  ทางกาย  วาจา  ใจ
เพราะได้ฟังธรรมะ รู้เรื่องตามความเป็นจริง
แล้วจึงมีความละอาย
ความละอาย ท่านเรียกว่า...ศีล
จิตที่มั่นอยู่...กับความละอาย
ว่าจะเป็นบาปอยู่นั้น...
ความมั่นในอารมณ์ ที่ว่ามันเป็นบาป อันเดียว
นั่นเรียกว่า...สมาธิ ก็ได้
เมื่อสมาธิ...
ความมั่นอยู่ในอารมณ์ ไม่กระทำบาป
ทำใจให้ สุขุม
ปัญญา  ความรู้เท่าทั้งหลาย ก็เกิดขึ้นมา
บรรลุถึง...สันติธรรม
เห็นตัวเรา ของเรา  ตามความเป็นจริง
ว่ามิใช่...เราขึ้นมา  เป็นตัวปัญญาเกิดขึ้นมา
พ้นจากวัฏฏะสงสาร อันนี้ได้
ฉะนั้น...ในครั้งพุทธกาลท่านว่า
เมื่อมีการฟังธรรม  ก็บรรลุธรรมเท่านั้นเอง
เมื่อมีศีล สมาธิแล้ว
ปัญญา...ก็เกิดขึ้น."
_______________________________________
หลวงพ่อชา  สุภัทโท  วัดหนองป่าพง.
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่