สวัสดีครับทุก ๆ ท่าน
เมื่อเช้านี้ตอนออกไปจ่ายตลาด ท่าน ผบ. ฝากให้ซื้อปลานิลมาด้วยครับ ตอนมื้อเย็นจะทำต้มยำใส่ใบกะเพราให้กิน ผมก็เลยต้องจัดแจงมาให้ เลือกซื้อปลานิลไซส์เล็ก ราคากิโล.ละ 35.- เลือกมาสองตัวในราคา 28.- แล้วก็ดูเห็ดฟางมาหนึ่งขีด ราคา 15.-
ปลานิลให้ที่แผงปลาขอดเกล็ด ตัดหัว ควักเหงือกควักไส้ให้เสร็จสรรพ แล้วก็สับท่อนเรียบร้อย กลับมาบ้านก็จัดการล้างให้เอี่ยม ขูดเยื่อดำ ๆ ในท้องปลาออกให้หมด คลุกเกลือล้างเอาเมือกเลือดออก ล้างน้ำแล้วโยนเข้าช่องฟรีซ แค่นี้ก็หมดกังวลเรื่องกลิ่นคาว
ตกเย็นก็เอาปลาออกจากช่องฟรีซ ทิ้งให้น้ำแข็งละลาย ก่อนจะเตรียมลงมือทำกินโดยท่าน ผบ.ครับ
ตั้งน้ำต้มจนเดือดพร้อมสมุนไพรหลัก ตะไคร้ ข่าอ่อน ใบมะกรูด น้ำเดือดกลิ่นสมุนไพรโชยก็โยนเห็ดฟางใส่ จากนั้นก็ปรุงรสด้วยน้ำปลา น้ำมะขามเปียก พริกขี้หนู พริกแห้ง
แล้วพอน้ำเดือดอีกรอบก็ใส่ปลาลงท้ายสุด ลงแล้วปิดฝาไปเลย ห้ามคน
รอซักพักก็ค่อยเปิดฝาหม้อดู เดือดขนาดนี้ก็ยกลงได้แล้วละ ปลานิลสุกง่ายจะตาย
ใส่กะเพราแดงลงหม้อก่อนจะยกลงจากเตา
ขณะที่ท่าน ผบ.ปรุงรสเพิ่มเติมด้วยมะนาวสด ผมก็ตั้งกระทะ วอร์มน้ำมันเตรียมทำไข่เจียวหมูสับครับ ใช้ไข่เบอร์ 0 ฟองเดียว ตีให้ขึ้นฟองแล้วค่อยผสมหมูสับลงไป อย่าใส่หมูมากเกิน ใส่หมูสับเต็มที่ก็ซักช้อนโต๊ะพูน ๆ หน่อยพอแล้ว ผมปรุงรสแค่น้ำปลาสองเหยาะ + พริกไทยป่นหน่อยนึง ผมปรุงแค่นี้แหละ
รอน้ำมันร้อนหน่อยก็ค่อยเทไข่ลงกระทะ เทสูงหน่อยให้ไข่ลงแล้วกระจาย ๆ แล้วก็ลดมือลง หยอดไข่ที่เหลือลงไปให้จับตัวเป็นแพ จากนั้นก็คอยวิดน้ำมันสาดใส่ไข่ในระหว่างรอไข่เซ็ตตัว พอดูว่าด้านล่างได้ที่ก็ค่อยพลิกไข่ พลิกไปแล้วปล่อยทิ้งไว้พักนึง
คอยแง้มดู พอได้ที่ตามต้องการก็พลิกกลับ แล้วช้อนขึ้น เอียงตะหลิวและไข่แนบกระทะเพื่อสะเด็ดน้ำมัน เวลากินจะได้ไม่เลี่ยน
ต้มยำลงชาม ไข่เจียวลงจาน
แค่นี้ก็อิ่มไปอีกหนึ่งมื้อในงบหลักสิบครับ


ไข่เจียวกรอบนอก นุ่มใน
ขอขอบคุณทุกท่านที่แวะเข้ามาชม
แวะเข้ามาพูดคุยทักทายกัน
พบกันใหม่โอกาสหน้าครับ สวัสดี
น้า Low Batt :: ต้มยำปลานิล & ไข่เจียวหมูสับ
เมื่อเช้านี้ตอนออกไปจ่ายตลาด ท่าน ผบ. ฝากให้ซื้อปลานิลมาด้วยครับ ตอนมื้อเย็นจะทำต้มยำใส่ใบกะเพราให้กิน ผมก็เลยต้องจัดแจงมาให้ เลือกซื้อปลานิลไซส์เล็ก ราคากิโล.ละ 35.- เลือกมาสองตัวในราคา 28.- แล้วก็ดูเห็ดฟางมาหนึ่งขีด ราคา 15.-
ปลานิลให้ที่แผงปลาขอดเกล็ด ตัดหัว ควักเหงือกควักไส้ให้เสร็จสรรพ แล้วก็สับท่อนเรียบร้อย กลับมาบ้านก็จัดการล้างให้เอี่ยม ขูดเยื่อดำ ๆ ในท้องปลาออกให้หมด คลุกเกลือล้างเอาเมือกเลือดออก ล้างน้ำแล้วโยนเข้าช่องฟรีซ แค่นี้ก็หมดกังวลเรื่องกลิ่นคาว
ตกเย็นก็เอาปลาออกจากช่องฟรีซ ทิ้งให้น้ำแข็งละลาย ก่อนจะเตรียมลงมือทำกินโดยท่าน ผบ.ครับ
ตั้งน้ำต้มจนเดือดพร้อมสมุนไพรหลัก ตะไคร้ ข่าอ่อน ใบมะกรูด น้ำเดือดกลิ่นสมุนไพรโชยก็โยนเห็ดฟางใส่ จากนั้นก็ปรุงรสด้วยน้ำปลา น้ำมะขามเปียก พริกขี้หนู พริกแห้ง
แล้วพอน้ำเดือดอีกรอบก็ใส่ปลาลงท้ายสุด ลงแล้วปิดฝาไปเลย ห้ามคน
รอซักพักก็ค่อยเปิดฝาหม้อดู เดือดขนาดนี้ก็ยกลงได้แล้วละ ปลานิลสุกง่ายจะตาย
ใส่กะเพราแดงลงหม้อก่อนจะยกลงจากเตา
ขณะที่ท่าน ผบ.ปรุงรสเพิ่มเติมด้วยมะนาวสด ผมก็ตั้งกระทะ วอร์มน้ำมันเตรียมทำไข่เจียวหมูสับครับ ใช้ไข่เบอร์ 0 ฟองเดียว ตีให้ขึ้นฟองแล้วค่อยผสมหมูสับลงไป อย่าใส่หมูมากเกิน ใส่หมูสับเต็มที่ก็ซักช้อนโต๊ะพูน ๆ หน่อยพอแล้ว ผมปรุงรสแค่น้ำปลาสองเหยาะ + พริกไทยป่นหน่อยนึง ผมปรุงแค่นี้แหละ
รอน้ำมันร้อนหน่อยก็ค่อยเทไข่ลงกระทะ เทสูงหน่อยให้ไข่ลงแล้วกระจาย ๆ แล้วก็ลดมือลง หยอดไข่ที่เหลือลงไปให้จับตัวเป็นแพ จากนั้นก็คอยวิดน้ำมันสาดใส่ไข่ในระหว่างรอไข่เซ็ตตัว พอดูว่าด้านล่างได้ที่ก็ค่อยพลิกไข่ พลิกไปแล้วปล่อยทิ้งไว้พักนึง
คอยแง้มดู พอได้ที่ตามต้องการก็พลิกกลับ แล้วช้อนขึ้น เอียงตะหลิวและไข่แนบกระทะเพื่อสะเด็ดน้ำมัน เวลากินจะได้ไม่เลี่ยน
ต้มยำลงชาม ไข่เจียวลงจาน
แค่นี้ก็อิ่มไปอีกหนึ่งมื้อในงบหลักสิบครับ
ไข่เจียวกรอบนอก นุ่มใน
ขอขอบคุณทุกท่านที่แวะเข้ามาชม
แวะเข้ามาพูดคุยทักทายกัน
พบกันใหม่โอกาสหน้าครับ สวัสดี