ความยากจน

กระทู้สนทนา
พื้นที่ป่าไม้หายไปในช่วง 34 ปีจากปี 2504-2538 มีจำนวน 88.84 ล้าน ไร่แต่ในขณะเดียวกันพื้นที่ถือครองทำการเกษตรระยะดังกล่าว ปรากฏว่าเพิ่มขึ้นประมาณ 81.83 ล้านไร่ (สำนักงานเศรษฐกิจการเกษตร, 2540) ข้อมูลนี้แสดงให้เห็นถึงประเด็นเกี่ยวกับทรัพยากร ป่าไม้ 2 ประการ คือ

(1) พื้นที่ป่าไม้สูญหายไปในห้วง 34 ปี ดังกล่าว มีจำนวนมากกว่าพื้นที่ถือครองการ เกษตรที่เพิ่มขึ้นในระยะเดียวกันประมาณ 7.01 ล้านไร่ สถานการณ์นี้แสดงให้เห็นว่าพื้นที่ธรรมชาติ ส่วนหนึ่งที่สูญหายไปโดยมิได้ถูกนำมาใช้เป็นพื้นที่ถือครองการเกษตร

(2) ถึงแม้ว่าพื้นที่ธรรมชาติส่วนหนึ่งจะหายไปโดยไม่ได้นำมาใช้ประโยชน์ เป็นพื้นที่ ถือครองทางการเกษตร ซึ่งจะเป็นในรูปการให้สัมปทานป่าแก่ภาคเอกชน, การบุกรุกป่าเพื่อสร้าง รีสอร์ท หรือสนามกอล์ฟ เป็นต้น แต่ข้อมูลนี้แสดงให้เห็นอย่างชัดเจนว่า พื้นที่ธรรมชาติที่หายไป ส่วนใหญ่ กลายเป็นของพื้นที่ถือครองที่เพิ่มขึ้น หรือสรุปได้ว่าพื้นที่ครองของการเกษตรที่เพิ่มขึ้น ในห้วง 34 ปี ที่ผ่านมานี้ ได้มาจากพื้นที่เดิมซึ่งเคยเป็นป่าธรรมชาติ

พื้นที่ป่าไม้ที่เปลี่ยนสภาพไปเป็นพื้นที่การเกษตรนี้ เนื่องจากการเพิ่มของประชากรใน ชนบทซึ่งจะเห็นได้ว่าข้อมูลประชากร ซึ่งได้จากสำนักงานคณะกรรมการพัฒนาเศรษฐกิจและ สังคมแห่งชาติและสำนักงานสถิติแห่งชาติ 

แสดงให้เห็นว่าในปี 2523 ประเทศไทยมีจำนวน ประชากรที่อาศัยอยู่ในชนบทรวมทั้งสิ้น 22.9 ล้านคน คิดเป็นร้อยละ 87.5 ของจำนวนประชากร ทั้งประเทศ และเพิ่มขึ้นเป็นจำนวน 30.5 ล้านคนในปี 2531 สำหรับในปี 2538 ประชากรในชนบท มีจำนวน 48.7 ล้านคน หรือประมาณร้อยละ 81.8 ของประชากรทั้งประเทศ จากโครงสร้างของ ประชากรดังกล่าวข้างต้นจะเห็นได้ว่าประเทศไทยยังเป็นประเทศที่มีภาคเอกชนขนาดใหญ่มาก

จึงต้องอภิวัฒน์การศึกษาไทย 2538 เพื่อแก้ไขปัญหาความยากจน



แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่