JJNY : 5in1 ‘ลิซ่า’ซัด‘ธนกร’│‘อังคณา’ไม่เห็นด้วยสว.กลับมติ│เตือนเก็บของ│อยุธยาอ่วม! น้ำท่วมรอบ2│เหยื่อ“พายุเฮลีน”พุ่ง 65

‘ลิซ่า’ ลั่นแม้จะเป็นฝ่ายค้าน ก็ทำหลายอย่าง ซัด ‘ธนกร’ หรือพรรคท่านไร้ศักยภาพ ทำได้ทีละอย่าง
https://www.matichon.co.th/politics/news_4818206

 
‘ลิซ่า’ ซัด ‘ธนกร’ ปม แซะหมกมุ่นแต่การเมือง ลั่นแม้จะเป็นฝ่ายค้านก็ทำหลายอย่าง ถามกลับหรือพรรคท่านไร้ศักยภาพ ทำทีละอย่าง 
 
เมื่อวันที่ 29 กันยายน น.ส.ภคมน หนุนอนันต์ ส.ส.บัญชีรายชื่อ รองโฆษกพรรคประชาชน ออกมาตอบโต้ นายธนกร วังบุญคงชนะส.ส.บัญชีรายชื่อ และรองหัวหน้าพรรครวมไทยสร้างชาติ ที่ระบุว่า หมกมุ่นแต่การเมือง จนไม่สนความเดือดร้อนประชาชน
 
โดย น.ส.ภคมนกล่าวว่า น่าเวทนา เป็นพรรคการเมืองและเป็นพรรคร่วมรัฐบาล แต่มีปัญหากับพรรคการเมืองฝ่ายค้าน ที่เขาสามารถขับเคลื่อนหลายเรื่องไปพร้อมกันได้ หรือพรรคท่านไม่มีศักยภาพที่จะทำหลายอย่างพร้อมกัน จนนึกภาพไม่ออกว่ามันสามารถทำได้ และในฐานะพรรคการเมืองควรจะทำ
พรรคประชาชนเป็นพรรคฝ่ายค้าน แต่เราเตรียมร่างแก้ไขรัฐธรรมนูญรายมาตราไว้ 7 แพคเกจ
 
ขณะเดียวกัน ส.ส.เขตในพื้นที่อุทกภัยในจังหวัดเชียงราย เชียงใหม่ ลำปางก็อยู่ในพื้นที่ช่วยเหลือพี่น้องประชาชน เปิดช่องทาง ส.ส.เขตทุกคนก็จะเห็นว่าเขากำลังแก้ปัญหาความเดือดร้อนให้พี่น้องประชาชน

พรรคประชาชนมีบุคลากรที่หลากหลาย แต่ละคนก็มีความเชี่ยวชาญต่างกัน ก็แบ่งงานกันทำได้ ปัญหาของประเทศมีหลายอย่าง ไม่จำเป็นต้องให้ทุกคนมาทำงานเดียวกันในเวลาเดียวกัน
 
พรรคการเมืองที่มีศักยภาพเขาทำไปพร้อมกันได้เบสิกมากๆ ไอ้ที่ทำได้ทีละอย่างคงมีแต่พรรคการเมืองที่ไร้ความสามารถ



‘อังคณา’ ไม่เห็นด้วย สว.กลับมติใช้เสียงข้างมากสองชั้นทำประชามติ
https://www.khaosod.co.th/politics/news_9435807

‘อังคณา’ ไม่เห็นด้วย สว.กลับมติใช้เสียงข้างมากสองชั้นทำประชามติ ถาม เกิดอะไรขึ้น-พิจารณาตามประโยชน์ ปชช.จริงไหม งง คนบอกไม่เห็นด้วยสุดท้ายกลับโหวตให้ จุดยืนอยู่ตรงไหน
 
เมื่อวันที่ 29 กันยายน นางอังคณา นีละไพจิตร สว. ให้สัมภาษณ์ถึงการประชุมวุฒิสภาเพื่อพิจารณาร่างพระราชบัญญัติ (พ.ร.บ.) ว่าด้วยการออกเสียงประชามติ (ฉบับที่…) พ.ศ… วุฒิสภา ในวันที่ 30 กันยายน ที่คณะกรรมาธิการ (กมธ.) วิสามัญพิจารณาเสร็จแล้ว ซึ่ง กมธ.เสียงส่วนมากแก้ไขหลักเกณฑ์ที่การออกเสียงประชามติต้องใช้เสียงสองชั้นซึ่งต่างจากร่างของสส. ว่า ตนไม่เห็นด้วยตั้งแต่แรก เพราะการใช้เสียงข้างมากสองชั้นนั้นแทบจะเป็นไปไม่ได้ โดยเฉพาะช่วงที่ทุกคนเห็นร่วมกันว่ารัฐธรรมนูญฉบับนี้มีความจำเป็นต้องแก้ไข ซึ่งก็แปลกใจ เพราะในการพิจารณา กมธ.ก็เห็นด้วยกับร่างของ สส.มาโดยตลอด จนมาถึงการประชุมครั้งสุดท้าย ที่จะเป็นการสรุปร่างพ.ร.บ. กลับมีคนเสนอมติ ซึ่งก็เป็นเรื่องที่แปลกมากว่าเกิดอะไรขึ้น และ สว.มีอิสระจริงหรือไม่ สว.พิจารณาตามผลประโยชน์ของประชาชนเป็นหลักหรือไม่
 
ยืนยันชัดเจนว่าดิฉันไม่อาจที่จะเห็นด้วยได้ เพราะการกลับมติที่เคยมี และการไม่เห็นด้วยกับร่างที่ สส. จะทำให้ร่างพ.ร.บ.ประชามติมีความล่าช้า ไม่ทันการเลือกตั้ง อบจ.ในเดือนกุมภาพันธ์ และไม่ทันการแก้ไขรัฐธรรมนูญในรัฐบาลชุดนี้ที่แถลงไว้ชัดเจนว่าจะแก้ไขรัฐธรรมนูญ แต่หากตั้งแต่จุดเริ่มต้นคือ พ.ร.บ.ประชามติไม่ผ่านก็จบไป ถามว่าประชาชนจะได้ประโยชน์อะไร” นางอังคณา กล่าว
 
เมื่อถามว่า ได้มีการคุยกับเพื่อนสมาชิกนอกรอบบ้างหรือไม่ ว่าเห็นประเด็นนี้อย่างไรบ้าง นางอังคณา กล่าวว่า ได้มีการพูดคุยกับคนที่เป็นกลุ่มอิสระหลายคน รวมถึงได้มีการพูดคุยกับคนที่เป็น กมธ. ที่มาจากกลุ่มอิสระ ที่แม้จะอภิปรายในชั้น กมธ.ไม่เห็นด้วยกับการใช้เสียงข้างมาก แต่เมื่อถึงเวลาโหวตกลับยกมือโหวตให้ ซึ่งตนก็งงว่าจุดยืนของเขาอยู่ตรงไหน และการโหวตวาระ 2-3 เขาจะโหวตอย่างไร
 
เมื่อถามว่า มองอย่างไรหากต้องมีการตั้ง กมธ.ร่วมระหว่าง สว. กับ สส. นางอังคณา กล่าวว่า อยู่ที่ว่าทั้งสส. และ สว.ที่เป็นกมธ.ร่วมนั้นจะทำให้เรื่องนี้ยืดเยื้อหรือเร่งรัด ซึ่งต้องใช้เวลา และหากกมธ.ร่วมพิจารณาเสร็จแล้ว แล้วโชคดีเห็นตามร่างของ สส. ก็จะต้องใช้เวลาอีก 60 วัน พ.ร.บ.ฉบับนี้จึงจะมีผลบังคับใช้ นั่นคือต้องพิจารณาเสร็จและประกาศใช้ภายในต้นเดือนธันวาคม จึงจะใช้ได้ทันการเลือกตั้ง อบจ. ในเดือนกุมภาพันธ์



เตือนเก็บของ เขื่อนเจ้าพระยาระบายน้ำ 1,900 ลบ.ม. ‘อ่างทอง-อยุธยา’ น้ำจะสูงขึ้น 15 ซม.
https://www.matichon.co.th/region/news_4818239

เขื่อนเจ้าพระยา เร่งระบาย 1,900 ลบ.ม. วันที่ 2 เตือนท้ายเขื่อนยกของขึ้นที่สูง
 
เมื่อวันที่ 29 กันยายน ผู้สื่อข่าวรายงานความคืบหน้ากรณีกรมชลประทานออกประกาศแจ้งเตือน 11 จังหวัดภาคกลาง ประกอบด้วย จ.อุทัยธานี ชัยนาท สิงห์บุรี อ่างทอง พระนครศรีอยุธยา สุพรรณบุรี ลพบุรี ปทุมธานี นนทบุรี สมุทรปราการ และ กรุงเทพมหานครฯ ต้องเตรียมการรับมือปริมาณน้ำที่จะเกิดขึ้นจากอิทธิพลจากร่องมรสุมที่จะทำให้ฝนตกหนักทางตอนบนและภาคกลางของประเทศ มีผลทำให้ปริมาณน้ำไหลลงเขื่อนเจ้าพระยามากขึ้นถึง 2,350 ลูกบาศก์เมตร (ลบ.ม.)/วินาที ทำให้ต้องมีการพิจารณาปรับเพิ่มการระบายแบบขั้นบันไดขึ้นไปในเกณฑ์ไม่เกิน 2,000 ลบ.ม./วินาที ซึ่งจะทำให้ระดับน้ำท้ายเขื่อนยกตัวขึ้น 1-1.5 เมตรนั้น
 
ล่าสุดสถานการณ์น้ำที่เขื่อนเจ้าพระยาคงอัตราการระบายน้ำไว้ที่ 1,899 ลบ.ม./วินาที ต่อเนื่องเป็นวันที่ 2 เพื่อลดผลกระทบทั้งเหนือและท้ายเขื่อน และพบว่าปริมาณน้ำเหนือที่ไหลลงเขื่อนเจ้าพระยาผ่านจุดวัดน้ำ C2 หน้าค่ายจิรประวัติ จ.นครสวรรค์ เพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง เมื่อเวลา 15.00 น. วัดได้ 1,949 ลบ.ม./วินาที โดยระดับน้ำเหนือเขื่อนเจ้าพระยาลดลงล่าสุดวัดได้ 15.81 เมตรจากระดับน้ำทะเลปานกลาง (ม.รทก.)
 
ขณะที่เขื่อนเจ้าพระยาได้คงการระบายน้ำไว้ที่ 1,899 ลบ.ม./วินาที เพื่อสร้างพื้นที่ว่างในลำน้ำรองรับปริมาณน้ำเหนือ ทำให้ระดับน้ำท้ายเขื่อนยกทรงตัวในรอบ 24 ชม. ล่าสุดวัดได้ 14.19 ม.รทก.
 
ทั้งนี้ จากการเพิ่มอัตราการระบายน้ำในเกณฑ์ 1,900 ลบ.ม./วินาที ของเขื่อนเจ้าพระยา จะส่งผลกระทบต่อพื้นที่ลุ่มต่ำนอกคันกั้นน้ำ ริมคลองโผงเผง จ.อ่างทอง คลองบางบาล บ้านบางหลวงโดด ต.บางบาล ต.หัวเวียง อ.เสนา ต.ลาดชิด ต.ท่าดินแดง อ.ผักไห่ จ.พระนครศรีอยุธยา ที่ระดับน้ำจะเพิ่มขึ้น 10-15 ซม. ใน 24 ชม.ข้างหน้า จึงขอให้ประชาชนยกของขึ้นที่สูง เฝ้าสังเกตความเปลี่ยนแปลงของระดับน้ำ และติดตามประกาศจากทางราชการอย่างใกล้ชิดต่อไป
 
ผู้สื่อข่าวรายงานเพิ่มเติมว่า บรรยากาศที่เขื่อนเจ้าพระยาวันนี้มีความคึกคักเป็นพิเศษ มีประชาชนทั้งจาก จ.ชัยนาท และต่างจังหวัดเดินทางมาติดตามสถานการณ์น้ำ โดยเฉพาะประชาชนจากจังหวัดท้ายเขื่อนอย่าง จ.สิงห์บุรี และ อ.อ่างทอง ที่เดินทางมาติดตามด้วยความกังวล
 
ขณะที่ในพื้นที่ ต.หาดอาษา อ.สรรพยา จ.ชัยนาท ซึ่งเป็นชุมชนริมแม่น้ำเจ้าพระยาในฝั่งตะวันออก ระดับน้ำในแม่น้ำเจ้าพระยากำลังปริ่มตลิ่ง เหลือเพียงประมาณ 1 เมตร ก็จะไหลเข้าท่วมพื้นที่ ซึ่งนางนันท์ชญา สุภาวิตา นายกเทศมนตรีตำบลหาดอาษา นำเจ้าหน้าที่และชาวบ้านช่วยกันกรอกกระสอบทรายนำไปอุดบริเวณปากท่อระบายน้ำของชุมชนเพื่อป้องกันมวลน้ำจากแม่น้ำเจ้าพระยาไหลทะลักย้อนเข้าท่อเข้าไปเอ่อท่วมชุมชน
โดย ต.หาดอาษา มีชุมชนตามแนวตลิ่งแม่น้ำเจ้าพระยาทั้งหมด 7 กิโลเมตร ที่จะต้องตั้งแนวกระสอบทราย หากเกิดเหตุการณ์น้ำล้นตลิ่ง ซึ่งจะเกิดขึ้นในช่วงที่เขื่อนเจ้าพระยาระบายเกิน 2,100 ลบ.ม.ขึ้นไป โดยเทศบาลตำบลหาดอาษาตั้งงบประมาณในการป้องกันและแก้ไขปัญหาน้ำท่วมไว้ 1 ล้านบาท แต่หากสถานการณ์น้ำท่วมยืดเยื้อมากกว่า 1 เดือนก็จะมีการนำเงินสะสมของเทศบาลออกมาบริหารจัดการเพื่อช่วยประชาชนในพื้นที่น้ำท่วมเพิ่มเติมได้ทันที



อยุธยาอ่วม! น้ำท่วมรอบ2.
https://www.matichon.co.th/clips/news_4818222

คลิกเพื่อดูคลิปวิดีโอ
อยุธยาอ่วม! น้ำท่วมรอบ 2

วันที่ 29 กันยายน 2567 ผู้สื่อข่าวรายงานสถานการณ์น้ำท่วม ที่ จ.พระนครศรีอยุธยา หลังเขื่อนเจ้าพระยาระบายน้ำลงพื้นที่ท้ายเขื่อน 1,899 ลบ.ม./ต่อวินาที ส่งผลทำให้ระดับน้ำในแม่น้ำเจ้าพระยาที่ไหลผ่าน จ.พระนครศรีอยุธยา รอบที่ 2 เพิ่มสูงขึ้น และน้ำล้นตลิ่งไหลเข้าท่วมชุมชน วัด โรงเรียน
โรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพตำบล ที่เพิ่งจะเก็บล้างทำความสะอาดไป ต้องกลับมาเร่งขนย้ายสิ่งของหนีน้ำ ให้ขึ้นสูงกว่าเดิม
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่